
สำนักข่าวชายขอบ
11 hours ago
·
“ศ.ปิ่นแก้ว”แนะรัฐบาลไทย-อาเซียนร่วมกดดันพม่า-กัมพูชายกเลิกให้ทุนจีนเช่าที่ดินทำสแกมเซ็นเตอร์พร้อมขึ้นบัญชีดำแกนหลักประกาศเป็นอาชญากร-ชี้เหตุระเบิดตึกเคเคปาร์คเพราะต้องการผลักภาระค่าเลี้ยงดูให้ไทยหลังมีบทเรียนครั้งก่อน
-------------
เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2568 ศ.ดร.ปิ่นแก้ว เหลืองอร่ามศรี อาจารย์ประจำภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ให้สัมภาษณ์ “สำนักข่าวชายขอบ”ถึงการปราบปรามเครือข่ายขบวนการสแกมเมอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งล่าสุดไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดประชุมร่วมกับจีน ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ในการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ขณะเดียวกันนายอนุทิน ชาญวีระกูล นายกรัฐมนตรียังได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการชุดต่างๆเข้ามาดูแลในแต่ละด้านเพื่อปราบปรามสแกเมอร์ว่า ตนไม่รู้รายละเอียดกรรมการที่ตั้งขึ้นมีแผนจะทำอะไรบ้าง
“ไทยจะผลักดันเรื่องนี้ว่าเป็นปัญหาสแกมเมอร์ในระดับอาเซียน มีการลงนามต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ มันมีแต่กิจกรรม แต่ไม่มีแผนการจัดการปัญหานี้ครบวงจรเพื่อปราบปรามให้หมด ปัญหานี้ประกอบกันหลายส่วน สิ่งที่ตำรวจทำมีภาพ 2 ด้าน คือจับกุมในระดับปลายแถว พวกบัญชีม้า ก็น่าสนใจที่มีข่าวออกมาควบคู่ไปกับการที่มีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์ด้วย แต่เราก็ทราบกันดีว่าอาชญากรรมแก๊งสแกมเมอร์คอลเซ็นเตอร์เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมอย่างน้อย 4 ส่วน ตั้งแต่การดึงเอาคนเข้ามาทำงานในระบบ การใช้เทคโนโลยีเพื่อเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล กระบวนการส่งผ่านเงินและฟอกเงินเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า เท่าที่ออกสื่อ ขณะนี้ตำรวจโฟกัสแค่เรื่องบัญชีม้า ส่วนอื่นๆเราไม่เห็นข่าวว่าจัดการอย่างไรบ้าง” ศ.ดร.ปิ่นแก้ว กล่าว
อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มช. ยังกล่าวถึงการปฏิบัติการระเบิดอาคารในเคเคปาร์คซึ่งเป็นแหล่งคอลเซ็นเตอร์ใหญ่ริมแม่น้ำเมย เมืองเมียงดี ประเทศพม่า ฝั่งตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ว่าสะท้อนให้เห็นถึงอำนาจเต็มของรัฐบาลทหารพม่า หลังจากที่เคยบอกว่าพื้นที่นี้อยู่ในความควบคุมของกลุ่มกองกำลังชาติพันธุ์และเข้าไม่ถึง รัฐไทยจะมองว่านี่คือปัญหาของประเทศเพื่อนบ้านโดยไม่เกี่ยวกับเรา ก็ไม่ได้ เพราะมันเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าเหล่าสแกมเมอร์และเหยื่อไม่ผ่านทางไทย
“รัฐบาลทหารพม่าเคยอ้างว่าตัวเองไม่มีอำนาจควบคุมชายแดน เพราะเป็นพื้นที่ของกลุ่มกองกำลังชาติพันธุ์ แต่การระเบิดหลายครั้งติดๆกันในเคเคปาร์ค สะท้อนว่าเขาโกหก เพราะจริงๆแล้วรัฐบาลทหารพม่ามีอำนาจเต็มในพื้นที่ตรงนี้ ฉะนั้นถ้าทหารพม่าจะจัดการเหล่าสแกมเมอร์ ก็จัดการได้ ดิฉันก็รู้สึกแปลกใจทำไมระเบิดแค่บางตึกในเคเคปาร์ค ทั้งๆมีอาคารมากมายและเคเคปาร์คมีรายได้นับหมื่นล้าน เขาจะสร้างตึกใหม่เมื่อไหร่ก็ทำได้ ตลอดแนวริมแม่น้ำเมย เราทราบกันดีว่ามีพื้นที่สแกมเมอร์เกิดขึ้นใหม่เต็มไปหมด การระเบิดตึกโชว์ก็ไม่ช่วยเพราะฐานสแกมเมอร์ยังอยู่”
ศ.ปิ่นแก้วมองว่า ปฏิบัติการระเบิดอาคารในเคเคปาร์คนั้น เนื่องจากกองกำลังติดอาวุธที่ให้ความคุ้มครองแหล่งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้เคยมีบทเรียนจากครั้งก่อนที่กดดันให้เขาส่งเหยื่อและเหล่าสแกมเมอร์ออกมา แต่ปรากฏว่าเขาต้องรอและจ่ายค่าอาหารเองซึ่งต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก ดังนั้นครั้งนี้เมื่อถูกดดันเขาจึงใช้วิธีระเบิดตึกเพื่อให้คนหนีตายออกไปกันเอง ทำให้ภาระการช่วยเหลือคนที่หลบหนีข้ามแดนตกเป็นของรัฐบาลไทย
“เป็นวิธีที่เขาไม่ต้องมาแบกรับค่าอาหาร โยนให้ไทยจัดการ นี่คือเหตุผลเดียวในการระเบิดตึกเคเคปาร์ค แค่ทำให้เห็นว่าเขาทำจริง แม้ในทางมนุษยธรรมรัฐบาลไทยต้องช่วยเหลือคนเหล่านี้ แต่จริงๆแล้วก็ต้องทำควบคู่กันกับรัฐบาลทหารพม่า ร่วมกันคัดกรองว่าคนเหล่านี้เป็นเหยื่อหรือเป็นผู้ต้องหา และเอาข้อมูลแชร์กันทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในอนาคตเพื่อไม่ให้คนพวกนี้กลับเข้ามาอีก แต่ดูเหมือนตอนนี้ไทยตกเป็นเหยื่อไปเรียบร้อยแล้ว”
ศ.ดร.ปิ่นแก้วกล่าวว่า คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาของไทยต้องกดดันร่วมกับนานาชาติเพื่อให้รัฐบาลทหารพม่ายกเลิกสัญญาเช่าที่ดินที่เหล่าอาชญากรข้ามชาติใช้ รวมทั้งรัฐบาลกัมพูชา พร้อมทั้งประกาศให้นายทุนจีนที่หากินด้วยวิธีการผิดกฏหมายเหล่านี้เป็นอาชญากร
“ถ้าทำตรงนี้ไม่ได้ ก็อย่างที่เราเห็น ต้องไปวิ่งตามจับบัญชีม้าปลายแถว ทวงเงินคืนได้บ้าง ไม่ได้บ้าง เราต้องจับอีกเท่าไรถึงจะพอ เราไปทุ่มทำงานปลายแถว ตำรวจคงไม่สามารถจัดการอะไรได้ ถ้าไม่มีนโยบาย ดังนั้นระดับนโยบายก็ต้องชัดว่าจะทำไม่ให้กลุ่มที่เป็นอาชญากรเข้าประเทศเราได้อย่างไร จนถึงขณะนี้ไทยยังไม่กล้าประกาศว่า หม่องชิดตู ผู้นำBGF เป็นอาชญากรเลย เขามีธุรกิจข้ามแดนที่มาใช้ธุรกรรมในไทย ถ้าไทยไม่กล้าประกาศให้คนเหล่านี้เป็นอาชญากร มันก็ไม่มีประโยชน์ ไทยไม่เคยมีความพยายามที่จะขุดรากถอนโคนธุรกิจเทาที่มาทำงานในประเทศ ไม่เคยจับระดับบิ๊กบอสได้ทั้งๆที่ทางการไทยรู้อยู่แล้ว” ศ.ดร.ปิ่นแก้ว กล่าว
ศ.ปิ่นแก้วกล่าวว่า ที่อยากจะชี้ให้เห็นคือไม่ใช่ตึกแต่คือสัญญาเช่าพื้นที่ ชเวก๊กโกสัญญาอายุ 70ปี แถมยังต่อได้ถึง 99 ปี ถ้าไม่มีการยกเลิกนายทุนกลุ่มเดิมกลับมาใหม่อยู่แล้วเพราะเขามีสิทธิในการพัฒนาพื้นที่ เนื่องจากมีสัญญาที่อ้างว่ารัฐบาลทหารพม่าเซ็นไว้ ส่วนเคเคปาร์ค วันก่อนKNU(Karen National Union-สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง)ออกมาแถลงปฏิเสธว่าพื้นที่ของเขาประมาณ 500 เอเคอร์ไม่เกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การพูดแบบลอยตัวพ้นปัญหาแบบนี้มันเอาตัวรอด จริงๆแล้ว KNU ต้องระบุให้ชัดว่าพื้นที่ตรงนั้นเป็นของใคร ใครทำสัญญาเช่าแล้ว 100 เอเคอร์ ที่ KNUให้เช่านั้นเป็นของใคร ทำอะไร เราทราบว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนตรงนี้ แม้คนที่รับผิดชอบอยู่คือติ่นวิน(แกนนำกองกำลังกะเหรี่ยง BGF หรือ Karen Border Guard Force) แต่สัญญาเช่าเป็นของ KNU ดังนั้น KNUหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบตรงนี้ไม่ได้ มันเป็นไปไม่ได้ที่คนจีนจะมาอยู่เฉยๆโดยไม่มีสัญญาเช่า
อาจารย์ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มช. ย้ำว่าว่า ข้อเสนอหลักๆเมื่อไทยเป็นตัวตั้งตัวตีจะยกระดับเรื่องนี้เป็นวาระอาเซียน ไทยต้องเป็นผู้นำในการกดดันเรื่องนี้ให้รัฐบาลทหารพม่ายกเลิกสัญญาเช่าตลอดแนวชายแดนให้กับกลุ่มทุนจีน และมีแผนชัดเจนจะทำอย่างไรในการกวาดล้างหรือให้คนเหล่านี้เป็นอาชญากร
“คนที่หนีจากเคเคปาร์คข้ามมาฝั่งไทยมีตัวเลขต่ำมาก ไม่ถึง 2,000 คน ทั้งๆที่คนที่อยู่ในเคเคปาร์คมีนับหมื่นๆคน มันเป็นอาณาจักรที่ใหญ่มาก มีนิคมข้างในประมาณ 80 นิคม แต่ละนิคมมีเจ้าของเป็นนักลงทุนจีนไม่ต่ำกว่า 80 คน ไม่รวมหัวหน้าใหญ่ที่เป็นเจ้าของที่ดินทั้งหมด ตราบใดที่รัฐบาลทหารยังไม่ประกาศให้คนเหล่านี้เป็นอาชญากร ไม่ยกเลิกสัญญาเช่า มันไม่ช่วยอะไร ไทยต้องกดดันอาเซียน ให้คนพวกนี้ไม่มีที่ยืน ไม่ให้ไปทำอะไรที่ไหนได้ ” ศ.ดร.ปิ่นแก้ว กล่าว
อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มช. กล่าวด้วยว่าอยากให้ดูเกาหลีใต้โมเดล ปัญหาคือคนพวกนี้ผ่านไทยทั้งนั้น ขณะที่เกาหลีใต้ซึ่งอยู่ไกลเขาสามารถมีมาตรการไม่ให้คนของเขาเข้าไปกัมพูชาได้
“ที่ผ่านมาเราจะได้ยินว่าเวลาที่เราจะเข้าเกาหลีใต้ คนไทยหลายๆคนที่เป็นนักท่องเที่ยวก็โดนปฏิเสธเข้าประเทศเขา หรือถามอะไรมากมาย เพราะเขาต้องการแก้ปัญหาคนเข้าเมืองแล้วลักลอบไปทำงาน ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบ แต่มันเป็นมาตรการที่เขาใช้ป้องกันไม่ให้คนเดินทางเข้าออกโดยสะดวก กรณีของไทยคือเราคัดกรองคนพวกนี้ 29 สัญชาติเป็นทั้งเหยื่อและผู้ต้องหา จีนเป็นพลเมืองหลัก คนเหล่านี้ผ่านไทยทั้งนั้น คำถามคือคนจากอูกันดาไปแม่สอดได้อย่างไร มันมีอะไรที่แม่สอดเขาถึงต้องการจะไป ถ้าไม่ใช่เพราะกระบวนการสกัดกั้นของไทยหละหลวม ก็มีเหตุผลเดียวคือเจ้าหน้าที่รัฐรู้เห็นเป็นใจ ขณะที่คนจีนข้ามกลับไป-มาฝั่งไทย-พม่าได้อย่างไรในเมื่อมีระเบียบออกมาให้มีแค่ไทยกับพม่าเท่านั้นที่ข้ามได้ ไม่ต้องพูดถึงนายทุนจีน ทราบมาว่ามีการจ่ายต่อหัวเป็นหมื่นเพื่อนำคนจีนข้ามไปมา”ศ.ปิ่นแก้ว กล่าว
เมื่อถามว่าเป็นเพราะโครงสร้างของคนมีอำนาจระดับบนของไทยมีส่วนรับผลประโยชน์จากขบวนการสแกมเมอร์หรือไม่ จึงไม่สามารถทำลายวงจรอุบาทว์ได้ ศ.ดร.ปิ่นแก้ว กล่าวว่า รัฐบาลมีการตั้งคณะกรรมการแต่ไม่มีแผน และไม่เคยประกาศว่าใครเป็นอาชญากร
“ภายใต้รัฐบาลชุดนี้ขออนุญาตพูดตรงไปตรงมาว่า ดิฉันไม่มีความหวังในการนำไปสู่การแก้ปัญหานี้ เขาเป็นรัฐบาลชั่วคราว แม้ว่าจะเป็นสถานการณ์บังเอิญในการถูกกดดันจากสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้ เราจึงเห็นการพยายามตั้งกลไกขึ้นมาในนามคณะกรรมการ แต่ข้างในกลไกไม่มีแผนเป็นกิจลักษณะอะไรในการแก้ปัญหาระดับต้นตอ สิ่งที่รัฐบาลสหรัฐฯทำมาโดยตลอดคือการขึ้นบัญชีดำพวกอาชญากรตัวการหลัก แต่จนป่านนี้ ไทยยังไม่มีการระบุตัวว่าใครเป็นอาชญากรหลัก ทั้งๆที่มีข้อมูลอยู่หมดแล้ว หรือถ้าไม่มีก็ไปคุยกับสหรัฐฯซิ เรารู้มาตลอดว่าประเทศไทยกลายเป็นฐานการฟอกเงิน แต่รัฐบาลไทยไม่เคยระบุว่าอาชญากรพวกนี้เป็นใครบ้าง” อาจารย์ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มช.กล่าว
เมื่อถามว่าเงินพวกนี้จะถูกนำมาใช้ในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ ศ.ดร.ปิ่นแก้ว กล่าวว่า ตอบยาก เพราะไม่มีความรู้เรื่องพวกนี้
“เรามีนักการเมืองซึ่งใช้เงินจากฐานพวกนี้ในการเลี้ยงคน เราก็ไม่รู้เขาเลี้ยงกันไปถึงระดับไหน การตัดฐานรายได้นี้ออกไป ทำให้มีคนหาทางจัดการปัญหาเพื่อไม่ให้กระทบกับฐานรายได้ของเขา ดิฉันไม่ได้กล่าวหาว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันเป็นอย่างนี้ แต่รัฐบาลชุดปัจจุบันไม่มีมาตรการในการปฏิรูปเชิงโครงสร้างเรื่องนี้ มันอดไม่ได้ที่จะตั้งคำถามว่า มันไปกระทบผลประโยชน์ของใครหรือเปล่า คณะกรรมการที่ถูกตั้งขึ้นมาก็ต้องพิสูจน์ตัวเองว่ามีความตั้งใจในการแก้ปัญหานี้ ถ้าไม่อยากถูกเหมารวมว่าเป็นส่วนหนึ่งของอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติ ท่านมีแผนจะแก้ไขปัญหานี้ในระดับต้นตออย่างไร”
ศ.ดร.ปิ่นแก้วกล่าวว่า มาตรการ 3 ตัด (ตัดไฟ ตัดอินเตอร์เนต ตัดการขนส่งน้ำมัน) ของพรรคเพื่อไทยทำให้เรารู้แล้วว่ายังไม่พอ เพราะอาชญากรรมไซเบอร์ก้าวหน้าทางเทคโนโลยี อย่างเคเคปาร์ค การตัดไฟ เท่าที่เคยสัมภาษณ์คนที่เข้าไปทำงานในนั้น เขาใช้เครื่องปั่นไฟมานานมากแล้ว เขาไม่ได้พึ่งพาไฟฟ้าจากบ้านเรา ในแง่ 3 ตัดเป็นการตามหลังเขา ทำให้เขาไม่สะดวกในการทำงานแต่ไม่ได้ทำให้เขาทำงานไม่ได้
https://www.facebook.com/photo/?fbid=1454983129965824&set=a.504230311707782
https://transbordernews.in.th/home/?p=44322