คำตัดสิน ‘ไบโพลาร์’ ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งการเมือง ทำให้ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เมื่อมีคำสั่งให้ ทักษิณ ชินวัตร กลับไปรับโทษในเรือนจำใหม่เป็นเวลา ๑ ปี ตามที่ได้รับพระราชทานอภัยลดโทษ
หลังจากที่ศาลอ่านคำพิพากษาเมื่อเวลาประมาณ ๙.๓๐ น.วันนี้ (๙ กันยา) อีกสองชั่วโมงต่อมา Thanapol Eawsakul โพสต์ถาม “คุณคิดว่าทักษิณต้องติดคุก ๑ ปีเพราะอะไร” มีคำตอบแบบปรนัยให้เลือก ๔ ข้อ คือ
“ก. เป็นไปตามกฎหมาย ไม่เคยถูกจำคุกเลยจึงต้องกลับมารับโทษ ข. ไม่สามารถฟื้นเศรษฐกิจได้ตามที่คุยไว้ และชนชั้นนำคาดหวัง ค. พรรคส้มยังไม่ตาย (ให้กลับมาฟาดฟันต่อ) และ ง. ทักษิณหมดประโยชน์แล้ว” มีบางคนให้คำตอบแล้วแถม เช่น
“Harin Yuwarattanaporn เพิ่มว่า “แหกคำสั่ง แทนที่จะติดคุกก่อนดันไปนอนชั้น ๑๔ กับ กฏหมายมันบิดตามธง” ขณะคำพิพากษาอ้างในประเด็นหนึ่งว่า “การบังคับโทษไม่ชอบด้วยกฎหมาย...ต้องกลับเข้ารับโทษในเรือนจำใหม่” ในวันนี้ทันที
พร้อมกันนั้นมี #โพสต์โดยทีมงานของทักษิณปรากฏในเวลาไร่เรี่ยกันว่า “ด้วยความสำนึก...นับเป็นพระมหากรุณาที่คุณอย่างหาที่สุดไม่ได้...ผมขอน้อมรับและพร้อมเข้าสู่กระบวนการตามคำพิพากษา” แล้วอ้างสรรพคุณเมื่อครั้งเป็นนายกฯ จากปี ๔๔ ถึง ๔๙
“สร้างประชาธิปไตยที่กินได้จากผลงานของรัฐบาลที่ทำได้จริง ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจอย่างที่สุด” ฉะนั้น “ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้การสนับสนุนตลอดมา...จนกว่าจะถึงวันที่เราได้เดินร่วมทางกันอีกครั้ง” แค่ปีเดียวความหวังย่อมยังมี
“ผมจะรักษาความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อใช้เวลาในชีวิตที่เหลืออยู่ รับใช้สถาบันพระมหากษัตริย์ แผ่นดินไทย และประชาชน” เลยมีการคาดหมายกันว่า “มีความเป็นไปได้ว่า อดีตนายกฯ อาจจะใช้ประกาศ”ซึ่งออกมาเมื่อปี ๒๕๖๖
“เพื่อทำให้อยู่ในเรือนจำในระยะเวลาสั้นที่สุด” ประกาศนั้น นัยว่ากรมราชทัณฑ์ออกมาเพื่อเปิดทางให้ทักษิณ “เพื่อรองรับให้อดีตนายกฯ กลับไปคุมขังต่อที่บ้าน (ขังนอกคุก) แต่แล้วจังหวะเวลา และสถานการณ์ไม่เอื้อ” อย่างไรก็ดีประกาศนี้
“กรมราชทัณฑ์จัดทำเสร็จเรียบร้อยตั้งแต่เดือน มี.ค.๖๘ มีการส่งหนังสือถึงผู้บัญชาการเรือนจำ และทัณฑสถาน ตลอดจนสถานกักขังและกักกันทั่วประเทศ รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ตั้งแต่วันที่ ๒๐ มี.ค.๖๘” ใจความสำคัญบางส่วน ดังนี้
“ต้องเป็นคดีที่ศาลมีคำพิพากษาลงโทษจำคุกไม่เกิน ๔ ปี หรือ ‘นักโทษเด็ดขาด’ ซึ่งเหลือโทษจำคุกต่อไปไม่เกิน ๔ ปี...หากมีการพระราชทานอภัยโทษ หรือลดโทษ ให้ถือเอากำหนดโทษตามหมายแจ้งโทษเด็ดขาด หรือคำสั่งให้ลดโทษฉบับหลังสุด”
อีกข้อ “ต้องมีอาการเจ็บป่วยร้ายแรง ซึ่งไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ เป็นผู้ป่วยที่ต้องการการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง” ข่าวเนชั่นเลยตั้งข้อสังเกตุว่า “นี่คือสาเหตุที่ไปหาหมอที่สิงคโปร์ และ ดูไบ หรือไม่ มีข่าวอาการป่วยที่ปอด ต้องรักษาต่อเนื่อง ๔ เดือน”
(https://www.nationtv.tv/politic/378966575?-il4GA2XwWRJI5DA, https://www.facebook.com/thaksinofficial/posts/2Wy3vAmS323r, https://www.facebook.com/thanapol.eawsakul/posts/Gcm9HTVmM64 และ https://www.facebook.com/thestandardth/posts/34oaKCErL48)