
Nattharavut Kunishe Muangsuk
15 hours ago
·
·
"ประวัติศาสตร์ประเทศไทยไม่เคยรุกรานใคร ดูประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธนา กรุงธนบุรีก็ได้ ประเทศไทยเรามีแต่ถูกรุกรานอธิปไตยมาโดยตลอด....ผมจะไม่ยอมให้ใครมารุกรานอีก" นายอนุทิน นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์สื่อ
นักเรียนประวัติศาสตร์ได้แต่ส่ายหน้า ตั้งแต่ความเป็นชาติ ความเป็นไทย เริ่มขึ้นสมัยไหน แล้วลาวล้านช้าง สงครามเชียงตุง สิบสองจุไท มณฑลบูรพา 4 รัฐมลายา ย้อนไปเรื่องเมืองปัตตานี ก็มีหลักฐานเชิงประวัติศาสตร์ และข้อมูลวิชาการมากมาย
ระดับนายกรัฐมนตรีกล่าวสวนกับความรู้แบบนี้ได้อย่างไร
และยังกล่าวโดยนายกรัฐมนตรีที่ชาวบ้านลิ่วป่อ อำเภอหลัวเขต เมืองซินฮุ่ย มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ร่วมกันจัดงานเฉลิมฉลองที่ลูกหลานเชื้อสายของตนเองได้ดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศด้วย
นักเรียนประวัติศาสตร์ได้แต่ส่ายหน้า ตั้งแต่ความเป็นชาติ ความเป็นไทย เริ่มขึ้นสมัยไหน แล้วลาวล้านช้าง สงครามเชียงตุง สิบสองจุไท มณฑลบูรพา 4 รัฐมลายา ย้อนไปเรื่องเมืองปัตตานี ก็มีหลักฐานเชิงประวัติศาสตร์ และข้อมูลวิชาการมากมาย
ระดับนายกรัฐมนตรีกล่าวสวนกับความรู้แบบนี้ได้อย่างไร
และยังกล่าวโดยนายกรัฐมนตรีที่ชาวบ้านลิ่วป่อ อำเภอหลัวเขต เมืองซินฮุ่ย มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ร่วมกันจัดงานเฉลิมฉลองที่ลูกหลานเชื้อสายของตนเองได้ดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศด้วย
.....
เพนกวิน - พริษฐ์ ชิวารักษ์ Parit Chiwarak ·
9 hours ago
·
ที่นายอนุทิน ชาญวีรกูลให้สัมภาษณ์สื่อทำนองว่าประเทศไทยไม่เคยรุกรานใครเลยในประวัติศาสตร์นั้นเป็นผลจากความไม่รู้ (หรือแกล้งไม่รู้) ประวัติศาสตร์เลยว่าดินแดนที่ผู้คนส่วนมากไม่ได้พูดภาษาไทยกลางนั้น ต่างเคยเป็นอาณาจักรอิสระหรือแว่นแคว้นที่สยามไปตีมาและผนวกยึดครองมาเป็นของตัวเองจนกลายเป็น “แผ่นดินไทย” ในปัจจุบันทั้งสิ้น สิ่งที่เป็นภาคเหนือในปัจจุบันเคยเป็นแว่นแคว้นล้านนา ภาคอีสานเคยเป็นหัวเมืองกึ่งอิสระของคนหลากชาติพันธุ์และพื้นที่กันชนระหว่างล้านช้าง เขมร และสยาม จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็เคยเป็นรัฐสุลต่านปาตานี/ปตานี (แล้วแต่จะเรียก) ทั้งหมดนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทยในปัจจุบันเป็นเพราะผลลัพธ์ของสงครามและการรุกรานไม่มากก็น้อย [แน่นอนว่าเรื่องทั้งหมดซับซ้อนกว่านี้แต่ก็คงสามารถสรุปย่อ ๆ ได้ตามที่กล่าวมา]
แม้เมื่อเปลี่ยนชื่อเป็นประเทศไทยแล้ว ไทยก็ยังเคยมีส่วนรุกรานเพื่อนบ้านคือเมื่อสมัยสงครามอินโดจีนครั้งหนึ่งจนได้ส่วนหนึ่งของลาวและกัมพูชามาเป็นจังหวัดพิบูลสงคราม จังหวัดนครจำปาศักดิ์ จังหวัดพระตะบอง และจังหวัดล้านช้าง และสงครามโลกครั้งที่สองอีกครั้งหนึ่งที่ร่วมกับญี่ปุ่นโจมตีบริติชเบอร์มา (พม่าสมัยเป็นอาณานิคมอังกฤษ) และบริติชมาลายาจนสามารถทั้งยึดครองดินแดนมาลายาตอนบนจัดตั้งเป็น “สี่รัฐมาลัย” และยึดครองรัฐฉานจัดตั้ง “สหรัฐไทยเดิม” ได้ ประวัติศาสตร์เหล่านี้ยืนยันว่าประเทศไทยไม่ต่างจากประเทศอื่น คือก็เป็นผู้รุกรานและผู้ถูกรุกรานสลับกันเรื่อยมา เป็นธรรมชาติของประเทศทั้งหลายทั่วไป
ความเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ที่กล่าวมานี้เป็นผลจากการบิดเบือนความรู้ในตำราประวัติศาสตร์เพื่อให้นักเรียนเกิดความเชื่อที่ว่าประเทศของเราบริสุทธิ์ผุดผ่องยิ่งกว่าประเทศอื่นจึงไม่เคยข้องเกี่ยวกับการรุกรานอะไรใครเลย ซึ่งเป็นเรื่องผิดธรรมชาติ และจะเป็นเรื่องฟังดูตลกขบขันในสายตาสังคมของประเทศที่เขารับความจริงว่าตัวเองเคยรุกรานคนอื่นแต่ก็พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ให้เกิดสงครามอีกในอนาคต การยอมรับความจริงตามประวัติศาสตร์เป็นขั้นแรกของการแก้ไขปัญหาเพราะเป็นการยอมรับว่ามีปัญหา และเป็นการเผชิญหน้ากับความจริงอย่างมีวุฒิภาวะและไม่หลอกตัวเองจนเกินไป
วิชาประวัติศาสตร์ไม่ควรเป็นเพียงวิชาโฆษณาชวนเชื่อปลุกใจแต่ควรช่วยให้เรามีวิจารณญาณและวุฒิภาวะมากขึ้น ไม่ใช่ทำให้เราเป็นคนจำพวกที่จะเชื่อเฉพาะสิ่งที่ตัวเองอยากเชื่ออย่างไม่มีเหตุผลครับ
https://www.facebook.com/paritchiwarakofficial/posts/1413188270168754
9 hours ago
·
ที่นายอนุทิน ชาญวีรกูลให้สัมภาษณ์สื่อทำนองว่าประเทศไทยไม่เคยรุกรานใครเลยในประวัติศาสตร์นั้นเป็นผลจากความไม่รู้ (หรือแกล้งไม่รู้) ประวัติศาสตร์เลยว่าดินแดนที่ผู้คนส่วนมากไม่ได้พูดภาษาไทยกลางนั้น ต่างเคยเป็นอาณาจักรอิสระหรือแว่นแคว้นที่สยามไปตีมาและผนวกยึดครองมาเป็นของตัวเองจนกลายเป็น “แผ่นดินไทย” ในปัจจุบันทั้งสิ้น สิ่งที่เป็นภาคเหนือในปัจจุบันเคยเป็นแว่นแคว้นล้านนา ภาคอีสานเคยเป็นหัวเมืองกึ่งอิสระของคนหลากชาติพันธุ์และพื้นที่กันชนระหว่างล้านช้าง เขมร และสยาม จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็เคยเป็นรัฐสุลต่านปาตานี/ปตานี (แล้วแต่จะเรียก) ทั้งหมดนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทยในปัจจุบันเป็นเพราะผลลัพธ์ของสงครามและการรุกรานไม่มากก็น้อย [แน่นอนว่าเรื่องทั้งหมดซับซ้อนกว่านี้แต่ก็คงสามารถสรุปย่อ ๆ ได้ตามที่กล่าวมา]
แม้เมื่อเปลี่ยนชื่อเป็นประเทศไทยแล้ว ไทยก็ยังเคยมีส่วนรุกรานเพื่อนบ้านคือเมื่อสมัยสงครามอินโดจีนครั้งหนึ่งจนได้ส่วนหนึ่งของลาวและกัมพูชามาเป็นจังหวัดพิบูลสงคราม จังหวัดนครจำปาศักดิ์ จังหวัดพระตะบอง และจังหวัดล้านช้าง และสงครามโลกครั้งที่สองอีกครั้งหนึ่งที่ร่วมกับญี่ปุ่นโจมตีบริติชเบอร์มา (พม่าสมัยเป็นอาณานิคมอังกฤษ) และบริติชมาลายาจนสามารถทั้งยึดครองดินแดนมาลายาตอนบนจัดตั้งเป็น “สี่รัฐมาลัย” และยึดครองรัฐฉานจัดตั้ง “สหรัฐไทยเดิม” ได้ ประวัติศาสตร์เหล่านี้ยืนยันว่าประเทศไทยไม่ต่างจากประเทศอื่น คือก็เป็นผู้รุกรานและผู้ถูกรุกรานสลับกันเรื่อยมา เป็นธรรมชาติของประเทศทั้งหลายทั่วไป
ความเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ที่กล่าวมานี้เป็นผลจากการบิดเบือนความรู้ในตำราประวัติศาสตร์เพื่อให้นักเรียนเกิดความเชื่อที่ว่าประเทศของเราบริสุทธิ์ผุดผ่องยิ่งกว่าประเทศอื่นจึงไม่เคยข้องเกี่ยวกับการรุกรานอะไรใครเลย ซึ่งเป็นเรื่องผิดธรรมชาติ และจะเป็นเรื่องฟังดูตลกขบขันในสายตาสังคมของประเทศที่เขารับความจริงว่าตัวเองเคยรุกรานคนอื่นแต่ก็พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ให้เกิดสงครามอีกในอนาคต การยอมรับความจริงตามประวัติศาสตร์เป็นขั้นแรกของการแก้ไขปัญหาเพราะเป็นการยอมรับว่ามีปัญหา และเป็นการเผชิญหน้ากับความจริงอย่างมีวุฒิภาวะและไม่หลอกตัวเองจนเกินไป
วิชาประวัติศาสตร์ไม่ควรเป็นเพียงวิชาโฆษณาชวนเชื่อปลุกใจแต่ควรช่วยให้เรามีวิจารณญาณและวุฒิภาวะมากขึ้น ไม่ใช่ทำให้เราเป็นคนจำพวกที่จะเชื่อเฉพาะสิ่งที่ตัวเองอยากเชื่ออย่างไม่มีเหตุผลครับ
https://www.facebook.com/paritchiwarakofficial/posts/1413188270168754