วันอังคาร, กันยายน 02, 2568

สังเกตการณ์มา 3 วัน ฝั่งที่ดูชิลสุด นิ่งสุด ดูสบายๆ คือฝั่งน้ำเงิน ส่วนฝั่งที่อยู่ไม่เป็นสุข ดูไม่เป็นกระบวนท่า ดูชักเข้าชักออก ทั้งขู่ทั้งอวย คือฝั่งแดง มันบอกการเมืองหลังม่านได้เยอะอยู่นะ


Pakinai Chomsinsubmun 
14 hours ago
·
สังเกตการณ์มา 3 วัน ฝั่งที่ดูชิลสุด นิ่งสุด ดูสบายๆ คือฝั่งน้ำเงิน
ส่วนฝั่งที่อยู่ไม่เป็นสุข ดูไม่เป็นกระบวนท่า ดูชักเข้าชักออก ทั้งขู่ทั้งอวย ทั้งปลอบทั้งด่า ออกมาพูดกันคนละที นายว่าอย่างลูกน้องว่าอย่าง คือฝั่งแดง
มันบอกการเมืองหลังม่านได้เยอะอยู่นะ ถึงประชาชนชาวบ้านร้านตลาดไม่รู้รายละเอียดที่เขาวิ่งๆกันหลังบ้าน แต่ก็ได้เห็นว่าก๊กไหนดิ้นรนมากที่สุด พยายามทุกวิธีการมากที่สุด เพราะเกิดจากความไม่มั่นใจอำนาจตัวเอง

Pakinai Chomsinsubmun 
13 hours ago
·
ว่าด้วยการเมืองชนชั้นนำ
--------
การเมืองแบบชนชั้นนำเนี่ย จะว่าอ่านง่ายก็ง่าย จะว่าอ่านยากก็ยากนะครับ
อ่านง่าย , การเมืองชนชั้นนำมันก็คือกลุ่มคนเล็กๆไม่กี่กลุ่มที่มีอำนาจอิทธิพลในมือ กำหนดความเป็นไปของประเทศ ถ้าเราเข้าใจโลกทัศน์ ความคิด ความเชื่อ นิสัย สันดาน สภาพแวดล้อมที่เขาอยู่ ยังไงก็อ่านทางกันออก เพราะเวลาคนพวกนี้คิดและตัดสินใจอะไร มักจะตัดสินใจตามกรอบโลกทัศน์ตัวเองเสมอ จากนิสัยสันดานตัวเองเสมอ เป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ยากจนเกินไปนัก
อ่านยาก, ด้วยความมันเป็นการเมืองชนชั้นนำ การเข้าถึงบุคคลระดับนั้นมีช่องทางค่อนข้างจำกัดและไม่ค่อยเปิดสู่สาธารณะมากนัก สายสัมพันธ์คนพวกนี้มีวงจำกัดแคบมากๆ ไม่ค่อยเปิดรับคนภายนอกเข้ามาร่วมในวงซักเท่าไหร่ เลยทำให้สาธารณะประเมินคนพวกนี้ลำบาก บางครั้งก็ไม่เข้าใจการตัดสินใจของพวกชนชั้นนำว่าทำไมมันถึงคิดแบบนั้น ทำไมทำแบบนั้นวะ ขัดแย้งกับสามัญสำนึก ขัดแย้งกับกระแสสังคมวงกว้างบ่อยเกิน
-----------
ประเด็นต่อมา
พวกชนชั้นนำมี logic ค่อนข้างเฉพาะตัว เกิดจากลักษณะภูมิหลังและสภาพแวดล้อมทางเสดกิดสังคมการเมืองที่พวกนี้อาศัยอยู่ในวงแคบๆ มันก็จะมีโลกทัศน์เฉพาะกลุ่มของมันไม่ต่างอะไรจาก sub-culture อื่นๆ
หลายครั้ง เราอยากให้คนพวกนี้เข้าอกเข้าใจคนหาเช้ากินค่ำ เข้าใจประชาชนคนสามัญ ผมกล้าพูดตรงนี้ว่าหลายคนแม่งไม่เข้าใจประชาชนจริงๆหรอก โลกของเขามันอยู่อีก logic หนึ่ง แต่คนพวกนี้ดันสามารถเข้ามาสู่อำนาจรัฐได้อย่างง่ายดายเพราะความเป็นชนชั้นนำ
ไม่ต้องดูอื่นไกล หลังเลือกตั้ง มีชนชั้นนำหลายคนเข้ามามีตำแหน่งเด่นๆในรัฐบาลเฉยทั้งๆที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการเลือกตั้งเข้ามา เข้ามาได้เพราะนักการเมืองเลือกตั้งเอาเข้ามานั่ง เหตุผลเพราะว่า "รู้จักกันดี สนิทกัน" แค่นั้นเลย
---------
ส่วนพวกชนชั้นนำที่ผ่านกระบวนการเลือกตั้งเข้าสู่อำนาจรัฐ พวกนี้สามารถปรับตัวเพื่อเล่มเกมตามกติกาประชาธิปไตยเป็น แต่ด้วยด้วยความที่เป็นชนชั้นนำ พวกนี้ก็ยังมีอิทธิพลสูงภายในพรรคการเมืองที่ตนสังกัด รู้จักสนิทสนมดีกับเจ้าของพรรค กับกรรมการบริหารพรรค ต่อให้มีพื้นฐานไม่ค่อยยึดโยงกับประชาชนในพื้นที่มากนักแต่ก็อาจชนะเลือกตั้งได้เพราะชื่อเสียงของพรรค
ชนชั้นนำพวกนี้ไม่แตกต่างอะไรจากคำว่า "เมนู(ชนชั้น)ผู้นำ" เข้ามาอยู่ในพรรค นำเสนอตัวเองให้ประชาชนเลือกจากเมนู อยากเลือกชนชั้นนำคนไหนก็จิ้มลงคะแนนให้ไป เข้าตำราทฤษฎีเรื่อง democratic elitism หรือประชาธิปไตยที่มีชนชั้นนำเป็นผู้กำหนดการเมือง อันมีประชาชนเป็นผู้ปั้มตรายางให้อำนาจไป
--------
ชนชั้นนำที่เข้ามาเล่นในกระบวนการประชาธิปไตย ลงรับเลือกตั้ง พวกนี้จะต้องสร้างภาพเอาอกเอาใจประชาชนเพื่อหวังคะแนนเสียง สร้างเร้าอารมณ์ให้คนเห็นดีเห็นงามด้วยเพื่อชัยชนะเลือกตั้ง
ชนชั้นนำที่เข้ามาเล่นในเกมประชาธิปไตยพวกนี้พอจะอ่านได้ไม่ยาก เพราะสื่อมวลชนเทคโนโลยีต่างๆช่วยถ่ายทอดวิธีคิด คำพูด โลกทัศน์ ทัศนะต่างๆของเขาให้เราเข้าถึงได้ ไม่ปิดวงแคบเหมือนพวกชนชั้นนำที่ไม่ผ่านกระบวนการประชาธิปไตย (แต่ต้องอ่านระหว่างบรรทัดเยอะๆหน่อย)
ต่อให้ประชาธิปไตยที่เป็นอยู่ไม่สามารถสกัดกั้นอิทธิพลอำนาจของพวกชนชั้นนำได้ แต่อย่างน้อยเรายังสามารถอ่านพวกชนชั้นนำที่เข้ามาเล่นในเกมตามกติกาได้บ้าง ไม่มากก็น้อย
----------
ผมจำไม่ได้แล้วว่าคนพูดประโยค "ประชาธิปไตยคือระบอบการเมืองที่ประชาชนเป็นผู้เลือกชนชั้นนำ (จากเมนูที่กำหนดเอาไว้) มาปกครองตัวเอง" คือใคร แต่คำนี้ก็น่าจะจริงอยู่ไม่น้อย
----------
ถ้าเราเอาตามตรรกะตามประโยคข้างบนเป็นตัวตั้ง เราอาจต้องถามตัวเองซัก 1 คำถามว่า.....
"ทุกวันนี้ที่เราเชียร์ๆนักการเมือง เชียร์พรรคการเมืองที่ชื่นชอบกันอยู่ เรากำลังเชียร์ชนชั้นนำที่เราถูกใจ หรือ เรากำลังปกป้องผลประโยชน์ของตัวเอง กันแน่ ?"
เพราะหลายครั้งพวกเราคนธรรมดาสามัญไม่เคยเข้าถึงความคิดของชนชั้นนำได้จริงๆเลยซักครั้ง อย่างดีก็ทำได้แค่เพียงสังเกตดูจากสิ่งที่เขาแสดงออกทางสาธารณะเท่านั้น ทั้งๆที่เรื่องนี้เป็นเรื่องของเราทุกคน ผลประโยชน์ของประชาชนทุกคน แต่มีเพียงพวกชนชั้นนำการเมืองไม่กี่คนได้เข้าไปใช้อำนาจบริหารผลประโยชน์ส่วนรวม เข้าถึงเงิน(ภาษี)ของพวกเราทุกคน
ถ้าประชาชนอย่างเราเข้าไม่ถึงความคิดจริงๆของชนชั้นนำที่เข้ามามีอำนาจรัฐ เราจะแน่ใจได้ยังไงว่าเขาจะทำเพื่อเรา (อย่าลืมว่ามีชนชั้นนำที่ไม่เข้ากระบวนการประชาธิปไตย และ เข้ากระบวนการประชาธิปไตย มามีอำนาจรัฐได้พอๆกันครับ)
ผมว่าเป็นคำถามที่น่าสนใจนะ


https://www.facebook.com/profile.php?id=539526609