‘ปริญญา’ นักกฎหมายมหาชน มธ.พบหลักฐานสำคัญ ที่จะใช้เป็นข้อต่อสู้เพิ่มเติมของไทยในการเจรจาปัญหาพิพาทเขตแดน และรูปคดีในเวทีระหว่างประเทศกับกัมพูชา ว่ารัฐบาลรัฐบาลฮุนเซน/มาเนตทำผิดรัฐธรรมนูญของตนเอง
“รัฐบาลกัมพูชาไม่เพียงทำผิดแต่กฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ยิงจรวดใส่พลเรือนกับโรงพยาบาล และการวางกับระเบิด เท่านั้น #แต่ทำผิดรัฐธรรมนูญของตนเองด้วย” อจ.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล คณะนิติศาสตร์ธรรมศาสตร์ เผย
“บูรณภาพแห่งอาณาเขตของราชอาณาจักรกัมพูชาต้องไม่ถูกล่วงละเมิดภายในเขตแดนที่กำหนดด้วยแผนที่อัตราส่วน 1/100,000 ที่ทำขึ้นในระหว่างปี ค.ศ. 1933-1953 และได้รับการยอมรับจากนานาชาติระหว่างปี 1963-1969” เป็นมาตรา ๒ ของ รธน.กัมพูชา
“ปี ๑๙๕๓ เป็นปีที่กัมพูชาได้รับเอกราชจากฝรั่งเศส” ซึ่งกำหนดให้ปักปันเขตแดนด้วยอัตราส่วน ๑ ต่อ ๑๐๐,๐๐๐ ไม่ใช่ ๑ ต่อ ๒๐๐,๐๐๐ ที่ทำไว้ตั้งแต่ ค.ศ.๑๙๐๔ แต่ฮุนเซน/มาเนตเลือกใช้อัตราส่วนเก่า อาจมุ่งหวังได้เขตแดนเพิ่มมากมาย
กล่าวกันว่าถ้ากัมพูชาสามารถปักปันเขตแดนด้วยอัตราส่วน ๑ ต่อ ๒ แสนตามที่แอบอ้างละก็ จะได้พื้นที่ตะเข็บชายแดนยืดออกไปอีกยาวถึง ๘๐๐ กิโลเมตร ขณะที่ไทยเราใช้อัตราส่วน ๑ ต่อ ๕๐,๐๐๐ ซึ่งละเอียดดีกว่าอัตรา ๑ ต่อแสนหรือหนึ่งต่อสองแสน
อีกข้อที่ อจ.ปริญญาค้นพบจากการเข้าไปศึกษารัฐธรรมนูญของกัมพูชา ก็คือมาตรา ๕๓ ซึ่งบอกว่า “ราชอาณาจักรกัมพูชายึดถือนโยบายความเป็นกลางอย่างถาวร และไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ราชอาณาจักรกัมพูชาปฏิบัติตามนโยบาย
#การอยู่ร่วมกันอย่างสันติกับประเทศเพื่อนบ้าน และประเทศอื่นทั้งปวงในโลก” รวมทั้ง “ราชอาณาจักรกัมพูชาต้องไม่รุกรานประเทศอื่น ทั้งต้องไม่ก้าวก่ายกิจการภายในของประเทศอื่นไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม” และข้อสำคัญอย่างยิ่ง
#ต้องแก้ปัญหาทั้งหลายอย่างสันติโดยเคารพผลประโยชน์ของกันและกัน รวมไปถึง “จะต้องไม่ร่วมในพันธมิตรทางทหาร หรือข้อตกลงทางทหารที่ขัดแย้งกับนโยบายความเป็นกลาง” ต้องไม่ให้ต่างชาติตั้งฐานทัพในเขตแดน หรือไปตั้งของตนในประเทศอื่น
“รัฐธรรมนูญกัมพูชาวางหลักการเรื่องการไม่รุกราน การอยู่ร่วมกับเพื่อนบ้านและประเทศอื่นอย่างสันติ และการแก้ปัญหาอย่างสันติ โดยเคารพผลประโยชน์ของกันและ ซึ่งเขียนไว้ดีมากๆ แต่ฮุนเซนและฮุนมาเนตทำผิดแทบทุกข้อเลยครับ”
(https://www.facebook.com/prinya.thaewanarumitkul/posts/0hy32nysSA)