
Pavin Chachavalpongpun
15 hours ago
·
เห็นข่าวนี้แล้วค่ะ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ที่งดรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาและยกเลิกบริการบางอย่างให้กับชาวกัมพูชาในช่วงวันที่ 31 ก.ค.–10 ส.ค. 68 เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา ดิชั้นขอวิเคราะห์ว่าเหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความพยายามของไทยในการสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกทางการทูตในหลายมิติอย่างไรค่ะ
....ผลกระทบต่อภาพลักษณ์ทางการทูตของไทย
1) บ่อนทำลายภาพลักษณ์ด้านมนุษยธรรม: ที่ผ่านมา ไทยพยายามนำเสนอตัวเองว่าเป็นประเทศที่มีบทบาทด้านมนุษยธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการดูแลผู้ลี้ภัย แรงงานข้ามชาติ และผู้ป่วยจากประเทศเพื่อนบ้าน (และบางครั้งก็ล้มเหลว เช่น การส่งอุยกูร์กลับจีน) การจำกัดการเข้าถึงบริการทางการแพทย์สำหรับชาวกัมพูชา ย่อมถูกตีความว่าเป็นการละทิ้งหลักการด้านมนุษยธรรมพื้นฐาน แม้จะเป็นการชั่วคราวและมีเหตุผลด้านความมั่นคงรองรับ สิ่งนี้ขัดแย้งกับท่าทีของไทยในเวทีโลกที่มักเรียกร้องให้มีการคุ้มครองพลเรือนและการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในสถานการณ์ความขัดแย้ง (ดังที่เห็นในแถลงการณ์ของเอกอัครราชทูตไทยประจำสหประชาชาติก่อนหน้านี้ในประเด็นอิสราเอล-ปาเลสไตน์) นี่ทำให้การทูตไทยขาด consistency
2) ส่งผลต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีกับกัมพูชา: การกระทำดังกล่าวอาจถูกมองว่าเป็นการตอบโต้หรือลงโทษพลเมืองกัมพูชาจากความตึงเครียดทางการเมือง ซึ่งจะยิ่งเพิ่มความตึงเครียดและทำให้ความสัมพันธ์ทวิภาคีแย่ลงไปอีก แทนที่จะช่วยบรรเทาความขัดแย้ง การที่โรงพยาบาลเป็นหน่วยงานที่ให้บริการสาธารณะ การประกาศเช่นนี้จึงมีน้ำหนักและอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือในการโฆษณาชวนเชื่อจากฝ่ายกัมพูชา เพื่อสร้างเรื่องเล่าว่าไทยปฏิบัติต่อพลเมืองของตนอย่างไม่เป็นธรรม
3) ทำลายความน่าเชื่อถือในการทูตสาธารณะ: ในขณะที่ไทยพยายามต่อสู้กับ "ข่าวปลอม" และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับความขัดแย้งชายแดน การประกาศของโรงพยาบาลเช่นนี้อาจถูกนำไปบิดเบือนหรือขยายผล ทำให้ความพยายามในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและน่าเชื่อถือของไทยลดลง ประชาคมโลกหรือสื่อต่างชาติอาจมองว่าไทยกำลัง "ผสมโรง" ใช้มาตรการที่ไม่ใช่การทหารมาตอบโต้ในสถานการณ์ความขัดแย้ง ซึ่งอาจไม่เป็นไปตามหลักการสากล
4) สร้างความกังวลจากองค์กรระหว่างประเทศ: องค์กรระหว่างประเทศด้านมนุษยธรรมและสิทธิมนุษยชนอาจแสดงความกังวลหรือออกแถลงการณ์ประณามการกระทำดังกล่าว ซึ่งจะยิ่งสร้างแรงกดดันและภาพเชิงลบต่อประเทศไทยในเวทีระหว่างประเทศ และไม่เป็นผลดีต่อความพยายามของไทยในการต่อสู้กับกัมพูชาในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ
5) อาจขัดแย้งกับนโยบายรวมของประเทศ: แม้จะมีเหตุผลด้านความมั่นคง แต่การตัดสินใจในระดับหน่วยงานท้องถิ่นเช่นนี้ หากไม่ได้รับการสื่อสารและบริหารจัดการอย่างระมัดระวังจากรัฐบาลกลาง อาจดูเหมือนเป็นการตัดสินใจที่ไม่ได้เป็นไปตามนโยบายต่างประเทศแบบองค์รวม และอาจทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับทิศทางและหลักการของไทยในการบริหารจัดการความสัมพันธ์ชายแดน
...โดยสรุปแล้ว แม้โรงพยาบาลอาจมีเหตุผลด้านความปลอดภัยและความมั่นคงเฉพาะหน้า แต่การตัดสินใจงดให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชาในช่วงเวลาที่อ่อนไหวนี้ มีความเสี่ยงสูงที่จะส่งผลกระทบเชิงลบต่อภาพลักษณ์ทางการทูตของประเทศไทย โดยเฉพาะในด้านมนุษยธรรมและความน่าเชื่อถือในเวทีระหว่างประเทศ ซึ่งอาจบั่นทอนความพยายามในการสร้างภาพบวกและลดทอนความชอบธรรมในการสื่อสารประเด็นความขัดแย้งชายแดนของไทย เราต้องชั่งน้ำหนักนะคะ ระหว่าง "ความสะใจ" กับ "ชัยชนะในเวทีโลกในระยะยาว" เราจะเลือกอะไร?
https://www.facebook.com/photo?fbid=9745879945513681&set=a.104469196321519

Wings of Wisdom
22 hours ago
·
“ความเมตตากรุณา เป็นภาษาที่
แม้แต่คนหูหนวกก็ยังได้ยิน
แม้แต่คนตาบอดก็ยังแลเห็น”
“Kindness is the language
which the deaf can hear
and the blind can see.”
“ความเมตตากรุณา เป็นภาษาที่
แม้แต่คนหูหนวกก็ยังได้ยิน
แม้แต่คนตาบอดก็ยังแลเห็น”
“Kindness is the language
which the deaf can hear
and the blind can see.”
- Mark Twain