วันเสาร์, กรกฎาคม 05, 2568

ดูเหมือนว่ากระแสฟาด ‘พรรคส้ม’ ถูก “Blown out of proportion.” โดยผู้ประสานการพบปะกินข้าว ‘โรมกับไอ๊ซ์’ ยันแค่ไปคุยเรื่องคอลเซ็นเตอร์

ถ้าไม่บังเอิญพอรู้นิสัยนายตั้ม เครือโสภณ อยู่บ้าง เคยเห็นมาตั้งแต่ยังเด็ก (ลูกชายของคนดัง แอล.เอ.ท่านหนึ่ง) ละก็ คงตามกระแสฟาด พรรคส้ม ไปกับเขาด้วยแล้วละ รูปการณ์ดูเหมือนนายตั้มตีไข่ใส่ซีอิ๊ว เกินกว่าบริบทที่เป็นจริง

ไม่ได้เถียงว่านายตั้มเป็นผู้ประสานให้สอง สส.ไปกินข้าวกับ อนุทิน แต่ก็เป็นไปได้ว่าเขา “Blown out of proportion.” ของการพบกันระหว่างรังสิมันต์ โรม-รักชนก ศรีนอก กับอนุทิน ชาญวีรกูล น่าจะบทบาททำนองเดียวกับประวัติที่ทำให้เขาดัง

ตั้ม เริ่มโด่งดังเป็นที่รู้จักของสังคมไทย เมื่อเขาเดินทางติดตามประธานาธิบดี บิล คลินตัน ครั้งมาเยือนไทย สื่อบางฉบับให้เครดิตสูงว่าเขาเป็นผู้ประสานการเยือนครั้งนั้น แท้จริงเขาเคยคลุกคลีในพรรคเดโมแครท ลอส แองเจลีส ประมาณ “เด็กซื้อโอเลี้ยง”

ไม่รู้กับพรรคภูมิใจไทย หรือโดยเฉพาะอนุทินจะขนาดไหน แต่การออกมาให้สัมภาษณ์สื่อทำนองว่า โรมกับไอ๊ซ์ ขอให้พาไปพบเพื่อ ดีล ตั้งรัฐบาลนั้น นายตั้มอาจจะออกลายเดิมสมัยเกาะชายเสื้อโค้ทของบิล คลินตันก็ได้

รังสิมันต์เขียนทวิตเตอร์ (เอ็กซ์) “ผมยืนยันว่าไม่มีการไปดีลตั้งรัฐบาลอะไรทั้งนั้น การพูดคุยของผมกับคุณอนุทินเป็นเรื่องเกี่ยวกับงานที่ผมทำอยู่ นั่นคือการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์” ตอนที่ติดต่อเพื่อจะพบกัน อนุทินยังร่วมรัฐบาลอยู่

“ที่ต้องคุยกับคุณอนุทิน ก็เพราะคุณอนุทินเป็นรัฐมนตรีมหาดไทยที่คุมการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในขณะนั้น และไฟฟ้าของเรายังจ่ายให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา...เราหวังว่าจะหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพื่อปราบปรามพวกนี้ให้สิ้นซาก

...ผมอยากจะชวนคิดสักนิดว่า ถ้าพวกเราพรรคประชาชนอยากจะมีดีลตามที่วิจารณ์กัน การพูดคุยในวันดังกล่าวคงไม่มีแค่ผม และ สส.ไอซ์แน่ๆ” ซึ่ง ไอ๊ซ์ก็สะท้อนข้อเท็จจริงจากทางเธอเองตรงกัน ในฐานที่เธอเป็นผู้อภิปรายเรื่องนั้นแจ๋อยู่

“ใหญ่เล็กรวมกันมากกว่า ๕ ครั้ง โพสต์ทวงมาตรการต่างๆ มาโดยตลอดจนสุดท้าย พรก.ร่วมรับผิดชอบ ก็ประกาศใช้จนได้...และถ้าหากว่าจะมีการคุยพูดคุยในลักษณะหรือในหัวข้อที่มีความพยายามจะกล่าวหากันจริงละก็

วิญญูชนที่ติดตามการเมืองเป็นปกติพึงจะคิดได้ ว่าคงไม่มีใครหน้าไหนจะนัด รักชนก ศรีนอก ไปคุยเรื่องจัดตั้งรัฐบาล แค่คิดก็ตลกแล้ว...ดิฉันไม่ทราบจุดประสงค์ของการเปิดเผยเรื่องในครั้งนี้ แน่นอนว่ามันไม่ใช่ความลับอะไร แต่ต้องการอะไรกันแน่”

คงเพราะการเมืองไทยเป็นอย่างนี้ บทบาทของพวกปั่น พวกเสี้ยมมีมาก อย่างไม่เคยปรากฏครั้งไหน หรือที่ไหนมาก่อน น่าจะเพราะ สื่อสังคม ทุกวันนี้เหมือน “Free for all.” ไม่ต้องห่วงเรื่องจรรยาบรรณกันเท่าไรนัก ทั้งปล่อยทั้งแบกโดยไม่ต้องมีวุฒิภาวะ

(https://www.facebook.com/nanaicez112/posts/31htT4dJ และ  https://x.com/RangsimanRome/status/1941147095307546788)