ถ้าไม่บังเอิญพอรู้นิสัยนายตั้ม เครือโสภณ อยู่บ้าง เคยเห็นมาตั้งแต่ยังเด็ก (ลูกชายของคนดัง แอล.เอ.ท่านหนึ่ง) ละก็ คงตามกระแสฟาด ‘พรรคส้ม’ ไปกับเขาด้วยแล้วละ รูปการณ์ดูเหมือนนายตั้มตีไข่ใส่ซีอิ๊ว เกินกว่าบริบทที่เป็นจริง
ไม่ได้เถียงว่านายตั้มเป็นผู้ประสานให้สอง สส.ไปกินข้าวกับ ‘อนุทิน’ แต่ก็เป็นไปได้ว่าเขา “Blown out of proportion.” ของการพบกันระหว่างรังสิมันต์ โรม-รักชนก ศรีนอก กับอนุทิน ชาญวีรกูล น่าจะบทบาททำนองเดียวกับประวัติที่ทำให้เขาดัง
‘ตั้ม’ เริ่มโด่งดังเป็นที่รู้จักของสังคมไทย เมื่อเขาเดินทางติดตามประธานาธิบดี บิล คลินตัน ครั้งมาเยือนไทย สื่อบางฉบับให้เครดิตสูงว่าเขาเป็นผู้ประสานการเยือนครั้งนั้น แท้จริงเขาเคยคลุกคลีในพรรคเดโมแครท ลอส แองเจลีส ประมาณ “เด็กซื้อโอเลี้ยง”
ไม่รู้กับพรรคภูมิใจไทย หรือโดยเฉพาะอนุทินจะขนาดไหน แต่การออกมาให้สัมภาษณ์สื่อทำนองว่า ‘โรมกับไอ๊ซ์’ ขอให้พาไปพบเพื่อ ‘ดีล’ ตั้งรัฐบาลนั้น นายตั้มอาจจะออกลายเดิมสมัยเกาะชายเสื้อโค้ทของบิล คลินตันก็ได้
รังสิมันต์เขียนทวิตเตอร์ (เอ็กซ์) “ผมยืนยันว่าไม่มีการไปดีลตั้งรัฐบาลอะไรทั้งนั้น การพูดคุยของผมกับคุณอนุทินเป็นเรื่องเกี่ยวกับงานที่ผมทำอยู่ นั่นคือการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์” ตอนที่ติดต่อเพื่อจะพบกัน อนุทินยังร่วมรัฐบาลอยู่
“ที่ต้องคุยกับคุณอนุทิน ก็เพราะคุณอนุทินเป็นรัฐมนตรีมหาดไทยที่คุมการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในขณะนั้น และไฟฟ้าของเรายังจ่ายให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา...เราหวังว่าจะหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพื่อปราบปรามพวกนี้ให้สิ้นซาก
...ผมอยากจะชวนคิดสักนิดว่า ถ้าพวกเราพรรคประชาชนอยากจะมีดีลตามที่วิจารณ์กัน การพูดคุยในวันดังกล่าวคงไม่มีแค่ผม และ สส.ไอซ์แน่ๆ” ซึ่ง ‘ไอ๊ซ์’ ก็สะท้อนข้อเท็จจริงจากทางเธอเองตรงกัน ในฐานที่เธอเป็นผู้อภิปรายเรื่องนั้นแจ๋อยู่
“ใหญ่เล็กรวมกันมากกว่า ๕ ครั้ง โพสต์ทวงมาตรการต่างๆ มาโดยตลอดจนสุดท้าย พรก.ร่วมรับผิดชอบ ก็ประกาศใช้จนได้...และถ้าหากว่าจะมีการคุยพูดคุยในลักษณะหรือในหัวข้อที่มีความพยายามจะกล่าวหากันจริงละก็
วิญญูชนที่ติดตามการเมืองเป็นปกติพึงจะคิดได้ ว่าคงไม่มีใครหน้าไหนจะนัด รักชนก ศรีนอก ไปคุยเรื่องจัดตั้งรัฐบาล แค่คิดก็ตลกแล้ว...ดิฉันไม่ทราบจุดประสงค์ของการเปิดเผยเรื่องในครั้งนี้ แน่นอนว่ามันไม่ใช่ความลับอะไร แต่ต้องการอะไรกันแน่”
คงเพราะการเมืองไทยเป็นอย่างนี้ บทบาทของพวกปั่น พวกเสี้ยมมีมาก อย่างไม่เคยปรากฏครั้งไหน หรือที่ไหนมาก่อน น่าจะเพราะ ‘สื่อสังคม’ ทุกวันนี้เหมือน “Free for all.” ไม่ต้องห่วงเรื่องจรรยาบรรณกันเท่าไรนัก ทั้งปล่อยทั้งแบกโดยไม่ต้องมีวุฒิภาวะ
(https://www.facebook.com/nanaicez112/posts/31htT4dJ และ https://x.com/RangsimanRome/status/1941147095307546788)