วันอาทิตย์, กรกฎาคม 20, 2568

ถ้าฟ้ามีตา ทำไมฟ้ามองไม่เห็น - ธงชัย วินิจจะกูล เขียนถึงการโหวตของสภาที่ปัดตกร่างนิรโทษกรรมที่รวมคดี 112 และชวนมองเหตุผลของเพื่อไทยกับผู้สนับสนุน



ถ้าฟ้ามีตา ทำไมฟ้ามองไม่เห็น

ธงชัย วินิจจะกูล
101 World

ใครได้อ่านข้อเขียนของอาจารย์แพร จิตติพลังศรีที่เล่าถึงเดียร์และฟ้า ลูกศิษย์สองคนที่เป็นเหยื่อของมาตรา 112 อย่างไม่เป็นธรรม ถ้าไม่รู้สึกอะไรเลยก็ต้องใจดำอย่างเหลือเชื่อ หรือไม่ก็ไม่มีหัวใจไปเรียบร้อยแล้ว

แต่ทุกวันนี้มีคนใจดำเช่นนี้เต็มประเทศไทยโดยเฉพาะในสภาและในพรรคการเมือง

ทำไมพรรคเพื่อไทยจึงโหวตให้ปัดตกร่างนิรโทษกรรมที่ต้องการให้รวม 112 ทั้งๆ ที่มีโอกาสที่จะรักษาตัวให้บอบช้ำน้อยกว่านี้ด้วยการไม่ออกเสียง แล้วปล่อยให้ไปว่ากันในวาระที่สองที่สาม

ก็เพราะความมุ่งหมายของพรรคเพื่อไทยไม่ใช่เรื่องนิรโทษกรรม … ไม่ใช่เลย!

เพื่อไทยใช้กรณีนี้เป็นเสมือนการขอเสนอตัวรับ ‘ใบอนุญาตที่สอง’ (ตามสำนวนของปิยบุตร แสงกนกกุล)

ประชาธิปไตยรัฐสภายังไม่ถึงทางตัน ประชาชนช่วยกันยันอย่างสุดตัวว่าไม่เอารัฐประหารหรืออำนาจพิเศษ แต่เพื่อไทยต่างหากที่อาจเข้าตาจน แทนที่จะพิงประชาชน เลิกหน้ามืดตามัวหลงตัวว่าเป็นผู้พิทักษ์ประชาธิปไตยแต่ผู้เดียว แต่ผู้ครองอำนาจในพรรคเพื่อไทยใจดำสนิท ทำทั้งหมดนี้เพื่อจะสื่อสารกับฟ้าว่าได้โปรดไว้ใจเพื่อไทยเถิด

ท่ามกลาง ‘ดีล’ ที่ชักสั่นคลอน ทั้งสะดุดขาตัวเอง แถมถูกพรรคคู่แข่งเสนอตัวรับใช้ได้อย่างน่าเชื่อถือกว่า พรรคเพื่อไทยกำลังถูกต้อนเข้ามุม ก่อนที่จะจนตรอก แทนที่จะหวังพึ่งประชาชน กลับดิ้นรนสุดฤทธิ์เข้าหาความกรุณาจากฟ้า

ผลการโหวตและเหตุผลแก้ตัวไม่เข้าท่าทั้งหลายไม่มีประชาชนอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย ล้วนเป็นการหลอกประชาชนและหลอกตัวเองครั้งใหญ่อีกครั้ง เพราะเพื่อไทยไม่ได้กำลังสื่อสารกับประชาชน แต่กำลังสื่อสารกับฟ้า

ลูกสมุนพากันออกมาสาธยายเหตุผล พร้อมดูถูกว่าคนอื่นไม่รู้จักความเป็นจริง ไม่รู้ว่าชาวบ้านไม่แคร์หรอก ไม่รู้ว่าเพื่อไทยกำลังรักษาประชาธิปไตย และเป็นพรรคเดียวที่จะรักษาได้ อวดตัวว่าทำถูกรู้ดีกว่าใครในขณะที่เที่ยวกล่าวหาว่าคนอื่นเด็ก ไร้เดียงสา คิดตื้นๆ ขาวกับดำ กำลังทำลายประชาธิปไตย

ลูกสมุนโง่ๆ กลับไม่เห็นว่าพรรคที่ตนแบกกำลังสื่อสารกับฟ้า ไม่มีประชาชนในสายตาแม้แต่น้อย

สองปีผ่านไป เพื่อไทยเพิ่งตระหนักว่ายังไม่ได้รับความไว้วางใจจากฟ้า จึงอาศัยการนิรโทษกรรมเป็นใบบอกขอให้ฟ้าวางใจพวกเขาเถิด

คนรุ่นใหม่ของพรรคเพื่อไทยที่เคยอวดว่าเป็นปีกประชาธิปไตยพากันออกตัวรับหน้าอย่างโง่ๆ

เหตุผลทั้งหลายที่พยายามแก้ตัวให้กับพรรคเพื่อไทยช่างตื้นเขิน ไร้สาระ และเป็นเหตุผลเด็กๆ สิ้นดี นึกไม่ถึงว่าคนแก่ปานนั้นและปัญญาชนในพรรคที่อวดตัวว่ารู้จักชาวบ้านดีกว่าใคร กลับมีสมองไว้ใช้สำหรับหาข้อแก้ตัวข้างๆ คูๆ

ถ้าพวกท่านคิดอย่างนั้นจริงๆ แล้วหาเสียงว่าจะสนับสนุนการแก้ปัญหานักโทษการเมืองรวมทั้ง 112 ทำไม

พรรคอนุรักษนิยมอื่นๆ อย่างน้อยเขายังซื่อตรงกับผู้สนับสนุนของเขาอย่างคงเส้นคงวาว่า ยังไงๆ ก็ไม่ช่วยเหยื่อ 112

ทำไมเพื่อไทยจึงโฆษณาป่าวร้องในช่วงหาเสียงว่าจะช่วยเหลือเหยื่อคดีการเมืองรวมทั้ง 112 แต่มาตอนนี้กลับให้เหตุผลแก้ตัวสารพัด แทนที่จะทำให้พวกเขาดูฉลาดขึ้นกลับกลายเป็นน่าสมเพชน่ารังเกียจ

ถึงที่สุด เหตุผลเหล่านั้นคงเป็นการหลอกตัวเองว่ามีเหตุมีผล มีความจำเป็นเพื่อรักษาประชาธิปไตย เพราะแท้จริงแล้วเป็นการคลายบาปของตัวเองที่รู้เต็มอกว่ากำลังทำผิด กลับกลอกหลอกลวง แต่ยังไม่กล้าพอจะยอมรับว่าตนกำลังทำผิด จึงเหลือทางเดียวคือหลอกตัวเอง และโทษอะไรก็ได้ยกเว้นตัวเอง

มีแต่คนขี้ขลาดตาขาว ไม่ละอายใจ ไม่สำนึกผิด และโง่เท่านั้นที่ยังเชื่อเหตุผลหลอกตัวเองจนสนิทขนาดนั้น

แถมใจต้องดำอย่างเหลือเชื่อ หรือไม่ก็ไร้หัวใจไปนานแล้ว

ที่น่าสมเพชที่สุดก็คือเลือดใหม่ๆ ที่เชื่อกันว่าเป็นปีกประชาธิปไตยในพรรคเพื่อไทย เป็นคนรุ่นใหม่ความคิดทันสมัย หลายคนมักกล่าวหาคนอื่นด้วยซ้ำไปว่าทำอะไรเป็นเด็กๆ ไร้เดียงสา หารู้ไม่ว่าพวกเขาเองต่างหากที่ไร้เดียงสายิ่งกว่า ช่างไม่รู้เรื่องรู้ราว ไม่รู้โลกอะไรเลย หลงกลตามคนโหนเจ้าอย่างเซื่องๆ

ถูกจูงจมูกเดินตามเชื่องๆ กระทั่งจะด่าคนอื่นก็ยังคิดเองไม่เป็น เป็นได้แค่นกแก้วนกขุนทองใช้โวหารตามอย่างคนแก่ที่ไม่รู้ว่าตัวเองตกยุคไปแล้ว

คนเหล่านี้ไม่รู้จักตัวเองเพราะตัวเองกลวงว่างเปล่า ไม่มีอะไรจะให้ตัวเองรู้จัก ไม่รู้จะหาจุดยืนตรงไหนเพราะไม่มีความเป็นตัวเองพอที่จะยืนตรงไหนสักจุด จึงทำได้เพียงให้ปีกอนุรักษนิยมที่ครองพรรคจูงจมูกลากไปลากมา

แถมขี้ขลาดอย่างน่าสมเพช สมควรแล้วที่จะไร้อนาคตไปพร้อมพรรคเพื่อไทย ไม่แปลกใจเลยที่ยุคหนึ่งเคยทำตัวก้าวหน้า ตอนนี้กลับพากันเป็นหนังหน้าไฟให้คนโหนเจ้า ฆ่าตัวตายทางการเมืองตั้งแต่เด็ก ต่อให้ได้เป็น สส. หรือเป็นใหญ่เป็นโตก็อย่าคิดว่าจะมีเครดิตกับใครสักเท่าไหร่ เพราะได้ตายไปเรียบร้อยแล้ว

พรรคเพื่อไทยไม่มีเกียรติ ไม่มีศักดิ์ศรี ไม่มีปัญญาพอที่จะคำนึงถึงอนาคตของสังคมไทย ความขี้ขลาดทำให้ไม่กล้าแม้แต่จะใช้สมองไตร่ตรองถึงอนาคตของคนรุ่นหลัง และของสังคมไทย

ผมเคยทำนายว่าเพื่อไทยจะเป็นประชาธิปัตย์ก็ในความหมายนี้แหละ ไม่เหลืออุดมคติ ไม่มีพลังของความใฝ่ฝันที่จะเปลี่ยนแปลง ไม่มีความกล้าหาญของคนหนุ่มสาวที่จะเปลี่ยนแปลง ไม่มีศักดิ์ศรีความเป็นตัวของตัวเองที่จะยืนยันความฝันและความถูกต้องโดยไม่ต้องให้เหตุผลหลอกตัวเองทุกวี่วัน

เพราะเขาเหลืออย่างเดียวคือพยายามชเลียร์หวังได้รับใช้อย่างภักดีไปวันๆ

ถ้าฟ้ามีตา มีบุญญาธิการล่วงรู้ทั่วไทย ฟ้าไม่เห็นหรือว่าคนที่ดิ้นรนกระเสือกกระสนเพื่อเอาตัวรอดไปวันๆ เช่นนี้น่าสมเพช ไม่เอาถ่าน

หรือว่าฟ้าก็ต้องการแต่คนไม่เอาถ่าน

เขาอาจสนองตอบให้ฟ้าพอใจได้ทุกครั้ง แต่ชั่วคราว แล้วอนาคตล่ะ

ต่อให้ฟ้ามอบสมบัติไว้ให้ลูกหลานได้ล้นฟ้า จะมีความหมายอะไรหากประเทศไร้อนาคต

ตรงกันข้าม ถ้าฟ้ารู้จัก ‘ฟ้า’ คนที่พยายามสร้างอนาคตให้กับประเทศชาติเพราะมองเห็นความเป็นไปได้ถึงโลกใหม่ๆ ที่ดีกว่านี้ คนที่คิดถึงอนาคตของเด็กๆ ที่จะเรียนรู้วรรณกรรมเด็กที่ดีกว่านี้

คนที่มีความกล้าและความเป็นตัวของตัวเอง มีศักดิ์ศรีที่จะพยายามทำอุดมคติให้เป็นจริง ทั้งๆ ที่รู้ว่าผลกระทบอาจเกินแบกรับไหว

ถ้าฟ้ามีตาและมีหัวใจ ฟ้าจะเลือกคนแบบไหนกันให้ร่วมสร้างอนาคตสำหรับลูกหลานของฟ้า

ฟ้าจะเลือกคนอย่างฟ้าที่เป็นเหยื่อของ 112 อย่างไม่เป็นธรรม หรือจะเลือกคนกลับกลอกที่พร้อมจะสอพลอเอาใจฟ้า คนแบบไหนกันที่ฟ้าควรจะกรุณาและเชื่อใจฝากอนาคตไว้ในมือของเขา

หรือฟ้าก็ไม่มีตาและไม่มีใจ จึงมองไม่เห็น และใจไม่สามารถรับรู้ได้

หรือฟ้าพอใจแต่ก้อนดินที่เคยออดอ้อนเมื่อวันวาน เพื่อจะยอมสยบเป็นเพียงข้าที่ซื่อสัตย์ของฝุ่นละอองหนึ่งที่เสนอตัวรับใช้ฟ้า

ขอฟ้าฟังสักครั้งเถิด ดินและฝุ่นพรรค์นั้นได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าไม่มีทางได้ช่วยทำให้ประเทศชาติดีขึ้นหรือมีอนาคต

หรือฟ้าไม่กล้าฟังคนที่พูดความจริง ตรงไปตรงมา ไม่สอพลอ

ทำไมฟ้าจึงกลัวอานนท์ นำภา ผู้หวังดี เพราะหวังดีจึงพูดความจริง ตรงไปตรงมา ไม่สอพลอ

ถ้าฟ้าไม่กลัว ก็กรุณาฟังเขาหน่อยสิ

หรือว่าฟ้าไม่สนใจอนาคตประเทศชาติ พอใจแค่มีฝุ่นสอพลอรายล้อม ถ้าประเทศไทยมีแต่ฟ้าและฝุ่นพรรค์นี้ก็สมควรมีอนาคตเยี่ยงนรกบนโลก ทุกวันนี้ก็กำลังเละแทบทุกระบบ … กำลังร่วงลงไปทุกที

ขอฟ้าโปรดไตร่ตรองให้ดีเถิด

แต่ขอได้โปรดรู้เถิดว่ามีคนอีกนับแสนนับล้านในประเทศไทยที่ห่วงใยบ้านของเขา พวกเขาปรารถนาดวงดาวและกล้าคิดไปถึงประเทศไทยที่ดีกว่า ไม่ว่าฟ้าจะสูงขนาดไหน เขาก็จะไปให้ถึงจนได้ … สักวันหนึ่ง

ฟ้าต้องได้เรียน อานนท์ต้องได้กอดลูกทุกวัน และทุกคนที่ร่วมชะตาเดียวกันจะต้องได้อนาคตตามที่เขาใฝ่ฝัน


https://www.the101.world/if-the-sky-has-eyes/