สองนโยบายใหญ่ที่รัฐบาลเพื่อไทยออกมาเคลื่อนไหวอย่างชัดเจนในช่วงนี้ คือเรื่อง “กัญชา” กับ “คอลเซ็นเตอร์” สิ่งที่ชวนตั้งคำถาม ไม่ใช่แค่ว่า นโยบายดีไหม แต่คือ ทำไมถึงเพิ่งทำตอนนี้ หลายคนมองว่า รัฐบาลกำลังใช้ "นโยบายสาธารณะ" เป็นเครื่องมือปรับสมดุลอำนาจทางการเมือง มากกว่าการมองปัญหาในฐานะเรื่องของประชาชน

Natchapat Amorngul
17 hours ago
·
สองนโยบายใหญ่ที่รัฐบาลเพื่อไทยออกมาเคลื่อนไหวอย่างชัดเจนในช่วงนี้ คือเรื่อง “กัญชา” กับ “คอลเซ็นเตอร์” ทั้งสองเรื่องเป็นปัญหาใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตคนจำนวนมาก และถ้ามองแค่บนกระดาษ มันก็ดูเป็นนโยบายที่ควรสนับสนุนอยู่แล้ว เพราะคนจำนวนไม่น้อยได้รับผลกระทบจากทั้งสองเรื่องจริง ๆ
แต่สิ่งที่ชวนตั้งคำถาม ไม่ใช่แค่ว่า นโยบายดีไหม แต่คือ ทำไมถึงเพิ่งทำตอนนี้ และทำด้วยท่าทีแบบไหน
เรื่องคอลเซ็นเตอร์ หรือการหลอกลวงผ่านโทรศัพท์ การดูดเงินผ่านบัญชีม้า การล่อลวงผู้สูงอายุหรือคนเปราะบาง นี่ก็เป็นปัญหาที่เกิดมานานมากแล้ว คนโดนหลอกเป็นล้าน ๆ บาท บางคนหมดตัว บางคนถึงกับเสียชีวิต แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ปัญหานี้ก็เหมือนถูกปล่อยให้วนอยู่ในข่าวแบบไม่จริงจัง จนกระทั่งอยู่ดี ๆ รัฐบาลประกาศลั่นว่า จะเดินหน้าปราบจริงจัง จะบี้ให้ถึงราก จะจัดการเครือข่ายข้ามชาติ
ฟังดูดี แต่พอดูจังหวะ ดูคำที่ใช้ ดูน้ำเสียงที่ประกาศออกสื่อ...ก็ ดูออก ว่าไม่ได้แค่ปราบคอลเซ็นเตอร์ แต่กำลัง “ทะเลาะกับลุง” ลุงที่ไม่ได้อยู่ในประเทศ แต่เป็น “ลุง” จากประเทศเพื่อนบ้านที่มีส่วนในเครือข่ายนี้มานาน แต่อาจเคยได้รับการละเว้นหรือมองข้ามจากรัฐบาลชุดก่อน ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงดูเหมือนการสื่อสารข้ามพรมแดนมากพอ ๆ กับการแก้ปัญหาในประเทศ
ในขณะที่เรื่องกัญชา ซึ่งเป็นนโยบายที่เคยถูกปลดล็อกให้เสรีในรัฐบาลก่อน มีผู้คนจำนวนไม่น้อยลงทุนทำธุรกิจ สร้างรายได้ หรือปรับตัวเข้ากับระบบใหม่ แต่พอรัฐบาลใหม่เข้ามา จะนำกลับเข้าสู่บัญชียาเสพติดอีกครั้ง โดยให้เหตุผลเรื่องสุขภาพและผลกระทบทางสังคม แม้จะฟังดูจริงจังและมีเหตุมีผล แต่คนจำนวนมากก็ยังรู้สึกว่า นี่คือการ “ทะเลาะกับหนู” หนูในที่นี้คือพรรคร่วมที่เคยเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงผลักดันนโยบายนี้อย่างเต็มที่ การยกเลิกหรือย้อนกลับนโยบายแบบไม่ชัดเจน ไม่ค่อยมีพื้นที่ให้สังคมร่วมถกเถียง หรือปรับตัวล่วงหน้า มันเลยดูเหมือนเป็นการเอาคืนจากพรรคการเมืองพรรคนั้น มากกว่าจะเป็นการฟังเสียงประชาชนอย่างแท้จริง
พูดให้ตรงกว่านั้นคือ คนรู้สึกว่า รัฐบาลกำลังใช้ "นโยบายสาธารณะ" เป็นเครื่องมือปรับสมดุลอำนาจทางการเมือง มากกว่าการมองปัญหาในฐานะเรื่องของประชาชน
เรื่องคอลเซ็นเตอร์ ถ้าแก้ได้จริง ประชาชนจะขอบคุณมาก เรื่องกัญชา ถ้าควบคุมได้ดี โดยไม่โยนคนที่ทำมาหากินทิ้งไว้กลางทาง ก็ไม่มีใครว่าอะไรหรอก เราไม่ได้บอกว่าเรื่องที่รัฐบาลทำมันไม่ดี ทุกเรื่องที่ดี ทุกเรื่องที่ทำเพื่อคน ก็น่าสนับสนุนหมด
แต่ก็อยากเห็นรัฐบาลคิดถึงประชาชนก่อน ไม่ใช่นึกจะทำเพราะอยากเอาชนะใคร หรืออยากขยับหมากของตัวเองในเกมการเมือง เพราะถ้าเป็นแบบนั้นจริง ต่อให้นโยบายดูดีแค่ไหน คนก็ ดูออก
และถ้ายังจะใช้นโยบายเป็นสนามทะเลาะกันอยู่แบบนี้ ก็เอาให้สุดไปเลย
ขอให้ทะเลาะกันนาน ๆ


https://www.facebook.com/natchapat.ountrongchit/posts/10163224619571081