
จดหมายสองฉบับของ “เก็ท” ถึงคนเสื้อแดง ที่ส่งออกไม่ได้ – ระบบส่ง “จดหมายหลังกำแพง” เตรียมหยุดปรับปรุง
11/06/2568
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2568 ทนายความเข้าเยี่ยม “เก็ท” โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง นักกิจกรรมกลุ่มโมกหลวงริมน้ำวัย 26 ปี และผู้ต้องขังคดีมาตรา 112 ที่ถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาเป็นเวลา 1 ปี กับ 9 เดือนเศษแล้ว
เก็ทแจ้งว่า ในโอกาสครบรอบเหตุการณ์ 15 ปี การสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงที่ราชประสงค์เมื่อปี 2553 เขาได้เขียนจดหมาย 2 ฉบับ ถึงคนเสื้อแดง ลงวันที่ 20 และ 21 พ.ค. 2568 แต่จดหมายกลับไม่สามารถส่งออกมาได้ โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายวินัยในเรือนจำระงับจดหมาย
โดยเจ้าหน้าที่ระบุเหตุว่า เนื้อหาในจดหมายมีการกล่าวถึงเหตุการณ์การเมืองในอดีต มีการใช้ข้อความที่อาจตีความได้ว่าเป็น “การยุยงปลุกปั่น” และอาจถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือจนกระทบต่อ “ความมั่นคงของรัฐ” หรือส่งผลต่อ “ความสงบเรียบร้อยของเรือนจำ” จึงอาศัยอำนาจตามข้อ 5 ของระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการตรวจสอบจดหมายฯ พ.ศ. 2561 ให้ระงับจดหมายดังกล่าวและหากผู้ต้องขังประสงค์จะส่งจดหมายอีกครั้งให้แก้ไขเนื้อหา
ก่อนหน้านี้ จดหมายของเก็ทก็พบว่าไม่สามารถส่งออกมาได้หลายครั้งแล้ว นอกจากนั้นเก็ทยังแจ้งอัปเดตว่าระบบการส่งจดหมายจากเรือนจำผ่าน “DomiMail จดหมายหลังกำแพง” ช่วยในการส่งจดหมายให้รวดเร็วขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้มีการใช้อยู่กันอยู่ภายในเรือนจำประมาณ 10 แห่งทั่วประเทศนั้น ทางราชทัณฑ์ได้ติดหนังสือแจ้งว่าตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย. 2568 นี้ จะหยุดให้บริการการส่งจดหมายแบบนี้ เพื่อมีการปรับปรุงระบบ โดยยังไม่ทราบว่าจะมีการกลับมาให้บริการอีกเมื่อใด
สำหรับจดหมาย 2 ฉบับของเก็ทที่ไม่สามารถส่งออกมาได้ มีเนื้อหาดังนี้
—————————————
.
จดหมายถึงคนเสื้อแดง
คืนนี้มันสุนทรีย์เป็นพิเศษ เราได้อ่านหนังสือ “จนศพสุดท้าย” (And Then There Were None) เขียนโดย อกาธา คริสตี้ แปลโดย คุณขีดขิน จินดาอนันต์ ลมเย็น ๆ นิยายดี ๆ (น่าจะ) พาหลับสบาย แต่ดันเก็บเรื่องในนิยายไปฝันร้ายซะได้
เมื่อ 15 ปีที่แล้ว การรับรู้ของคุณเป็นยังไง วันที่ 19 พฤษภาคม 2553 เป็นจุดเริ่มต้นของการ “กระชับพื้นที่” เหตุการณ์ดำเนินไปนานหลายวันแล้ว ก็จบปฏิบัติการด้วย “Big Cleaning Day”
เราในวัย ป.4 ป.5 ก็ได้แต่ดูข่าวผ่านทีวีและหนังสือพิมพ์ เรื่องราวที่ถูกนำเสนอดูดีทีเดียว มีการทำความสะอาดถนน ฟุตบาท ถนนที่เคยปิดก็เปิด นั่นคือความจริงที่ “เขา” อยากให้สังคมรับรู้และเชื่อ
เรารับรู้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจนขึ้นหลังเกิดเหตุการณ์เป็นปีเลย หลังเกิดเหตุการณ์นั้น คนเสื้อแดงก็ตกเป็นจำเลยสังคม ถูกดูหมิ่นว่าเป็น “ควาย” ถูกว่าเป็นพวกป่วนเมือง จนอุดมการณ์และสิ่งที่เขาตั้งใจจะสื่อสารถูกลบเลือน และทำให้สังคมเข้าใจผิด ทั้งที่เมื่อสืบเสาะแล้ว เค้าเหล่านั้นคือประชาชนที่แสนจริงใจ อะไรที่ไม่ชอบธรรมก็ออกมาคัดค้าน แต่การชุมนุมกลับถูกมองอย่างฉาบฉวยว่า “เป็นความวุ่นวาย” Big Cleaning Day ถูกชื่นชมว่าเป็นงานอาสาสาธารณะประโยชน์
ถึงวันนี้สาธารณชนเข้าใจคนเสื้อแดงว่ายังไง? การตีแผ่ข้อเท็จจริงพอจะเกิดขึ้นได้ไหม? เป็นไปได้หรือเปล่าที่เราจะสร้างอนุสรณ์สถานรำลึกคนเสื้อแดง?
รักและคิดถึงเสมอ
โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง
20 พฤษภาคม 2568
————————————-
.
จดหมายถึงคนเสื้อแดง
เวลาจะร่างจดหมายเกี่ยวกับเหตุการณ์รำลึก ความรู้สึกมากมายมันเอ่ออยู่ในใจ เมื่อมองเหตุการณ์ปี 2553 ผมมีคำถามว่า “เค้าเป็นคนนะ ทำอย่างนั้นกับเขาได้อย่างไร” ทุกครั้งที่ผู้คนเดินทางไปงานรำลึกด้วยความตั้งใจก็คงมีความรู้สึกที่หนักอึ้ง อยากจะระบายอยู่เต็มอก ความทรงจำที่มีกับพวกพ้อง ความเสียใจ ความรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม ถ้อยแถลงที่อธิบายเท่าไหร่ก็อธิบายความเจ็บปวดไม่หมด ผมขอฝากข้อความถึงอาจารย์ธิดาและคนเสื้อแดง “ไปกันเราเดินไปข้างหน้าให้ถึงฝั่งฝัน”
คำปราศรัยของพี่น่ะดีเลย เป็นความรู้สึกและความเข้าใจที่ตรงกัน มีการใส่ข้อมูลให้ผู้ฟังไปค้นคว้าต่อ ใช่ เราต้องยุติการลอยนวลผิด ไม่ใช่ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ฯ แล้วจะทำอะไรก็ได้ ไปละเมิดใครเขา แล้วปัดความรับผิดชอบ บอกว่า “ตามหน้าที่” “นายสั่งมา” จะปล่อยให้การกระทำที่ไร้สำนึกแบบนั้นเกิดขึ้นต่อไปไม่ได้
กระดุมเม็ดสำคัญ คือการเอาคนผิดมาลงโทษ มารับผิดชอบ ถึงขั้นนั้นสิ่งที่ผู้เสียหายหรือญาติให้ได้มากที่สุด คือ “forgive” แต่เรื่อง “forgot” ใครจะให้ได้ ชีวิตที่เสียไปแล้วมันเอากลับมาได้ไหมล่ะ
การขับเคลื่อนของขบวนประชาชนก็ต้องทำงานทั้งสองด้าน นั่นคือ ด้านโครงสร้างและสำนึก ต่อให้มีการอัดฉีดงบประมาณมารำลึก คนไม่อินไม่เข้าใจ ก็โหรงเหรง ถ้าคนมีสำนึก แต่โครงสร้างสังคมไม่เอื้อต่อเสรีภาพและประชาธิปไตย ผู้คนก็ถูกดำเนินคดีได้ สิทธิพลเมืองก็ไม่อาจถูกใช้ได้อย่างปลอดภัย
ขอรำลึกถึงวีรชนที่จุดยืนไม่ได้อยู่แค่ส้นเท้า
โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง
วันพุธที่ 21 พฤษภาคม 2568
————————————–
.
ย้อนอ่านจดหมายของเก็ท
จดหมาย 3 ฉบับจาก “เก็ท โสภณ”: จากการสังหารหมู่ที่กวางจู การยังต่อสู้ของพันธมิตรชานม และการรำลึกถึงคนเสื้อแดง
https://tlhr2014.com/archives/75934