และแล้วคณะกรรมการคดีพิเศษก็โหวตรับทำคดี ‘ฮั้ว’ โหวตเลือก สว. เสียง ๑๑ ต่อ ๔ และมีกรรมการสามคนขอไม่โหวต ดีเอสไอจะเริ่มจัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นพิจารณาตามข้อหา ซึ่ง ‘ภูมิธรรม’ เผยว่าอาจรวมถึง “ซื้อเสียง และฟอกเงิน”
รองนายกฯ ผู้เป็นประธานการประชุมยังบอกด้วยว่า ใครไม่ยอมรับคดีนี้จะโดนข้อหาละเลยปฏิบัติหน้าที่ อันหมายถึงกลุ่ม สว.ที่ออกมาคัดค้านว่าดีเอสไอไม่มีอำนาจ ต้องให้ กกต.ดำเนินการเท่านั้นตามรัฐธรรมนูญ แต่ภูมิธรรมก็ตอบข้อนี้ไว้แล้ว
เขากล่าวว่าถ้าการสอบสวนคดีนี้พบว่า มีการละเมิดกฎหมายเลือกตั้งเกิดขึ้นจริง จะส่งรายละเอียดผลการสอบสวนไปให้คณะกรรมการเลือกตั้งดำเนินการต่อ แต่คงไม่ทำให้กลุ่ม สว.ที่ขู่ว่าจะฟ้องร้องดำเนินคดีต่อ รมว.ยุติธรรม และอธิบดีดีเอสไอ ถอยได้
ประธานกรรมาธิการวุฒิสภา ออกมาแถลงเมื่อ ๔ มีนา โจมตีกระทรวงยุติธรรมและดีเอสไอว่า ทำเกินอำนาจหน้าที่ผลักดันให้คดีนี้เป็นคดีพิเศษ “ทั้งที่รู้ว่ากรณีการได้มาของ สว.เป็นหน้าที่ของ กกต. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนญ จึงเป็นการทำงานข้ามแดน”
พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร กล่าวหาว่าการกระทำ ‘ก้าวก่าย’ เช่นนั้น “เป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” ตามความผิดมาตรา ๑๑๖ “ยุยงปลุกปั่นโดยมีเจตนาเปลี่ยนแปลงกฎหมายของแผ่นดิน”
สว.อีกคน บุญจันทร์ นวลสาย อภิปรายว่าการตั้งข้อหา สว.โหวตกันเองเข้ามาโดยการจัดตั้งตามโพย เป็นพฤติกรรมอั้งยี่ซ่องโจรทำให้ “ประชาชนทั่วไปก็เข้าใจว่ารวมตัวกันทำสิ่งไม่ดี” ก่อให้เกิดความเสียหายต่อกลุ่มตนเป็นอันมาก
อย่างไรก็ดี สว.เสียงข้างน้อยอย่าง เทวฤทธิ์ มณีฉาย ร่วมอภิปรายเรื่องนี้ด้วยว่า การใช้ดีเอสไอเข้ามาตรวจสอบการได้มาของ สว.นั้น “ไม่ควรเผาบ้านเพื่อไล่หนู” เพราะดีเอสไอเป็นเพียงกรมภายใต้กระทรวงยุติธรรม ขณะ กกต.เป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญ
“กกต.เองก็มีส่วนอยู่ด้วยที่จะต้องอำนวยความไม่พอใจตรงนี้ เช่นวางกรอบเวลาในการดำเนินการให้ชัดเจน รวดเร็ว ประชาชนที่ไม่พอใจเองก็จะได้ตามได้” ส่วนสว.นั่นก็ “มีคนเคลือบแคลงสงสัย” โดยเฉพาะการใช้อำนาจแต่งตั้งหรือรับรององค์กรอิสระต่างๆ
(https://prachatai.com/journal/2025/03/112283, https://ch3plus.com/news/political/ruangden/434413?=IwY2xjaw และ https://x.com/ThaiEnquirer/status/1897513240827236438)