Thairath - ไทยรัฐออนไลน์
February 28
·
จับ 3 โกหก ‘จีน’
สิทธิมนุษยชนแบบใด
ประกาศอย่าง ทำอย่าง
1
ในประเทศจีน มีสิ่งที่เรียกกันว่า ‘โซเชียลเครดิต’ (Social Crdit) ซึ่งเป็นระบบที่จีนพัฒนาขึ้นเพื่อจัดระเบียบสังคมผ่านการให้ ‘รางวัล’ และ ‘ลงโทษ’ ด้วยการรวบรวมข้อมูลทางการเงิน สังคม และกฎหมายของประชาชนและธุรกิจในประเทศ และรวมให้เป็นคะแนนตัวเลขเดียว เรียกว่า ‘คะแนนความน่าเชื่อถือ’ หากมีคะแนนมาก ก็จะได้รางวัลในรูปแบบต่างๆ เช่น เข้าถึงบริการสาธารณะต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ได้รับสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ได้รับโอกาสในการศึกษาหรือการทำงานที่ดีขึ้น ได้รับสิทธิการเข้ารับรักษาพยาบาลและสวัสดิการต่างๆ ดีขึ้น
ซึ่งในทางตรงกันข้าม หากประชาชนคนใดได้คะแนนความน่าเชื่อถือน้อย หรือโดนหักคะแนนจนหมด ก็จะถูกลงโทษในระดับต่างๆ ตั้งแต่การจำกัดการเข้าถึงสิทธิและบริการสาธารณะต่างๆ เช่น ห้ามซื้อตั๋วเครื่องบินหรือรถไฟความเร็วสูง จำกัดการออกนอกประเทศ ถูกปฏิเสธการให้สินเชื่อหรือบัตรเครดิต ถูกจำกัดการเข้าถึงโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย จำกัดการเข้าถึงการรักษาพยาบาล อาจถูกปฏิเสธการจ้างงานหรือเลื่อนตำแหน่ง ถูกประจานผ่านสื่อต่างๆ ถูกจำกัดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดีย และถูกขึ้นบัญชีดำ (blacklist)
ระบบโซเชียลเครดิต ที่รัฐบาลพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้ ‘รางวัล’ และ ‘ลงโทษ’ นี้ ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าจำกัดเสรีภาพในการแสดงออก เลือกปฏิบัติ และละเมิดความเป็นส่วนตัวของประชาชน ที่รัฐบาลจีนนั่นแหละประกาศรับรองสิทธิมนุษยชนของพลเมืองตนเองไว้
2
จีนลงนามในอนุสัญญาระหว่างประเทศไว้หลายฉบับ อาทิ อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติในทุกรูปแบบ, การขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ, อนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการปฏิบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี, อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมระหว่างประเทศ, อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ฯลฯ
ทว่าในกรณีของ เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ องค์การสหประชาชาติ ได้เผยแพร่รายงานสะเทือนโลกในปี 2565 เปิดเผยข้อมูลและหลักฐาน การละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงต่อชาวอุยกูร์และชนกลุ่มน้อยมุสลิมอื่นๆ ในซินเจียง เช่น ถูกบังคับให้ทำหมันและคุมกำเนิด การควบคุมตัวโดยพลการ การทรมาน การบังคับใช้แรงงาน การละเมิดสิทธิทางเพศ และการจำกัดเสรีภาพทางศาสนาและวัฒนธรรม ฯลฯ
3
จีนได้ลงนามกับอังกฤษในปฏิญญาร่วมจีน-อังกฤษ (Sino-British Joint Declaration) เมื่อปี 2527 โดยมีสาระสำคัญคือ จีนจะจัดตั้ง 'เขตบริหารพิเศษฮ่องกง' โดยให้มีระดับการปกครองตนเองสูง ฮ่องกงจะรักษาระบบเศรษฐกิจและสังคมแบบทุนนิยมไว้เป็นเวลา 50 ปี หลังจากการส่งมอบ และจีนจะรับประกันสิทธิและเสรีภาพต่างๆ ของชาวฮ่องกง เช่น เสรีภาพในการแสดงออก การชุมนุม และการนับถือศาสนา ภายใต้หลักการ ‘หนึ่งประเทศ สองระบบ’
ทว่า 23 ปีหลังฮ่องกงกลับสู่จีน รัฐบาลจีนได้ออกกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในปี 2563 ซึ่งถูกมองว่าเป็นการบ่อนทำลายหลักการ 'หนึ่งประเทศ สองระบบ' โดยจำกัดเสรีภาพการแสดงออก และทำลายหลักนิติธรรมและความเป็นอิสระของระบบยุติธรรมในฮ่องกง ซึ่งขัดกับสัญญาที่ลงนามไว้กับอังกฤษ และละเมิดสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights) ที่ฮ่องกงได้ลงนามในกติการะหว่างประเทศ
อ่านรายละเอียดได้ที่ลิงก์
https://www.thairath.co.th/news/foreign/2844574
#เฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์
https://www.facebook.com/photo/?fbid=1107164031449939&set=a.360119619487721