ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
16 hours ago
·
“ธนพร” ผู้ต้องขัง ม.112 พบอาการชาครึ่งซีก
เล็บเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วง แต่ยังไม่ได้รับการรักษาในเรือนจำ
.
.
19 ก.พ. 2568 เจ้าหน้าที่ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้เข้าเยี่ยม “พลอย” ธนพร แม่ลูกอ่อนชาวอุทัยธานีวัย 24 ปี ซึ่งถูกคุมขังในคดีมาตรา 112 อยู่ที่ทัณฑสถานหญิงธนบุรี มาตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค. 2567 หลังถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 2 ปี
.
พลอยยังคงพูดถึงเรื่องการเยี่ยมใกล้ชิดเมื่อปลายเดือนม.ค. ที่ผ่านมา เธอมีความสุขที่ได้พบลูกแต่ก็ร้องไห้เพราะสงสารลูกเช่นกัน เธอบอกว่ายังร้องไห้ทุกครั้งที่ได้เยี่ยมทางไลน์และเห็นหน้าลูก พลอยรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถช่วยจัดการเลี้ยงดูลูกตามที่ใจอยากทำได้ และต้องปล่อยทิศทางการเลี้ยงลูกให้เป็นเรื่องของครอบครัวที่อยู่ข้างนอก ซึ่งแม้จะเข้าใจได้ว่าแต่ละคนรวมถึงเธอเองก็มีข้อจำกัดในการเลี้ยงดูไม่ต่างกัน แต่พลอยก็ยังอยากมีส่วนร่วมกับการเลี้ยงลูก นอกจากนี้พลอยยังมีเรื่องราวมากมายที่อยากเล่าให้ฟัง ทั้งเรื่องกฎระเบียบในเรือนจำที่ยังคงเข้มงวดและเรื่องสุขภาพของเธอที่น่ากังวล
.
โรงเลี้ยงลดข้าวเหลือ 1 ทัพพี.
เมื่อเดินเข้าห้องเยี่ยม ได้พบพลอยนั่งรออยู่ก่อนแล้ว เธอรีบจับโทรศัพท์ขึ้นมาและฝากของทันที พลอยไม่เคยขอให้ซื้ออะไรให้มาก่อน เพราะเธอสามารถดูแลจัดการตัวเองได้เป็นอย่างดี แต่เธอบอกว่าช่วงนี้ยังมีความกดดันเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ในเรือนจำอยู่
เรื่องใหม่ ๆ ที่เพิ่มขึ้นมาในช่วงเดือนที่ผ่านมา คือเริ่มมีการจำกัดการซื้อของของผู้ต้องขัง ทำให้ถึงมีเงิน เธอก็ซื้อไม่ได้ พลอยได้ฝากซื้อคอฟฟี่เมท (ครีมเทียม) และน้ำปั่น เนื่องจากอากาศข้างในเริ่มร้อนมากขึ้น เธอบอกว่าข้างในต้องต่อแถวกันยาวมากเพื่อซื้อน้ำปั่น หากใครมีญาติสั่งน้ำให้ ก็จะได้รับของเร็วกว่า
.
นอกจากจำกัดการซื้อของแล้ว โรงเลี้ยงของเรือนจำยังจำกัดอาหารอีกด้วย พลอยบอกว่าที่โรงเลี้ยงกลางทุกคนจะได้รับข้าว 1 ทัพพีเล็ก ๆ ซึ่งเธอมองว่าน้อยเกินไป ถ้าใครอยากเติมข้าว ต้องวนไปต่อแถวใหม่อีกครั้ง
.
“อย่างที่หนูเคยเล่า เวลาในการกินข้าวมันสั้นมาก ๆ มันไม่ได้มีเวลาเยอะขนาดนั้นที่จะสามารถเดินวนไปต่อแถวได้เพราะคนเยอะ” นโยบายนี้ทำให้เธอรู้สึกว่าหลายคน รวมถึงตัวเองไม่ได้รับอาหารในปริมาณที่พอเพียง และถ้าหากอยากให้เพียงพอก็ต้องรีบกิน เพื่อที่จะไปต่อแถวใหม่อีกครั้ง
.
เริ่มมีอาการชาครึ่งซีกบน เล็บเปลี่ยนเป็นสีม่วง.
สิ่งที่เธอกังวลอยู่ตอนนี้คือเรื่องปัญหาสุขภาพ เดิมพลอยไม่มีโรคประจำตัว และตอนที่เข้าเรือนจำมาในช่วงแรก ก็ไม่มีปัญหาสุขภาพใด ๆ แต่ปัจจุบันพลอยถูกขังมาแล้วเป็นเวลาเกือบ 9 เดือน เธอเล่าให้ฟังว่า ประมาณหนึ่งเดือนมานี้ (ตั้งแต่ช่วงเดือนม.ค.) เธอมีอาการชาตั้งแต่ต้นคอลามไปถึงปลายนิ้วที่ซีกขวา
.
“บางวันหยิกตัวเองแล้วไม่รู้สึกเจ็บ” เธอบอก แล้วยกแขนแกว่งแขนไปมา นอกจากนี้พลอยยังยกมือขึ้นโชว์ให้ดูว่าเล็บของเธอเปลี่ยนเป็นสีม่วงไป 3 เล็บ คือนิ้วโป้ง นิ้วชี้ นิ้วกลาง แม้มองผ่านกระจกห้องเยี่ยมก็เห็นได้ชัดว่ามีความแตกต่างกับเล็บอื่นที่เป็นสีชมพูธรรมชาติ พลอยบอกว่าเธอไม่คิดว่านี่คืออาการปกติ เพราะอาการนี้เป็นมาร่วม 1 เดือนแล้ว
.
“หนูไม่ได้โดนอะไรหนีบนิ้วนะ แต่พี่เห็นใช่มั้ยว่ามันม่วง” เธอไม่เคยได้รับอุบัติเหตุอะไรในเรือนจำ โดยในตอนแรกเธอคิดว่าตัวเองนอนตะแคงข้างเดียวจึงตัวชา แต่เมื่ออาการนี้ไม่หายไป เธอจึงลงชื่อไปหาหมอ และเพิ่งได้พบหมอเมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2568 ที่ผ่านมา
.
อย่างไรก็ตามเมื่อไปพบหมอ หมอกลับถามเธอว่า “เธอเป็นไฮเปอร์รึเปล่า หรือเธออาจจะคิดไปเองว่าป่วย” ในวันนั้นพลอยไม่ได้รับการส่งตรวจเลือดหรือเขียนใบสั่งยาใด ๆ นั่นทำให้พลอยยิ่งรู้สึกกังวลมาก และบอกว่าเธอจะพยายามลงชื่อเข้าคิวเพื่อให้ได้พบหมออีกครั้ง
.
ทั้งนี้จากอาการของพลอยดังกล่าว ทางทนายความได้ทำหนังสือยื่นกับทางเรือนจำเพื่อให้ดูแลอาการต่อไป
.
ขั้นตอนที่ซับซ้อน-สับสนของการส่งแว่นสายตาเข้าเรือนจำ.
นอกจากนี้พลอยยังติดปัญหาเรื่องแว่นสายตา โดยก่อนหน้านี้ผู้เข้าเยี่ยมเดินทางมาที่เรือนจำสองครั้งแล้ว แต่ไม่สามารถฝากแว่นสายตาให้เธอได้ เนื่องจากเรือนจำแจ้งว่าต้องมีใบคำร้องขอให้ญาติส่งแว่นสายตาส่งออกมาจากผู้ต้องขังก่อน
.
หลังจากที่พยายามสื่อสารกับพลอยหลายครั้งผ่านญาติของเธอ เพื่อให้เธอส่งใบคำร้องออกมา เจ้าหน้าที่ของเรือนจำก็ยังแจ้งว่าไม่มีใบคำร้องจากพลอย เมื่อเจอหน้ากันจึงได้สอบถามเรื่องนี้ และพบว่าผู้ช่วยผู้ต้องขังที่ดูแลห้องของเธอไม่ได้ให้ใบคำร้องแก่พลอย แม้พลอยจะร้องขอ โดยพูดว่าญาติสามารถส่งแว่นเข้ามาได้เลย ซึ่งเป็นเรื่องที่มีรายละเอียดไม่ตรงกันระหว่างเจ้าหน้าที่ผู้รับเรื่อง และผู้ช่วยผู้ต้องขังซึ่งอยู่ภายใน ทำให้ในปัจจุบันยังไม่สามารถส่งแว่นให้พลอยได้ แม้จะพยายามดำเนินการมากกว่าสองเดือนแล้ว
.
นอกจากนั้น เธอได้ไปลงทะเบียนตัดแว่นกับโครงการของเรือนจำและได้รับแว่นมา แต่เธอบอกว่าใส่แล้วยังมองอะไรไม่ค่อยชัดเหมือนเดิม
.
“ใส่แล้วปวดหัว ไม่ค่อยแน่ใจว่าตัวแว่นมีปัญหาหรือเป็นเพียงการปรับตัวในช่วงแรกของคนที่เพิ่งใส่แว่น” จึงให้คำแนะนำว่าอย่าพึ่งถอด แต่ลองใส่ทุกวันอย่างต่อเนื่องอย่างน้อยประมาณหนึ่งเดือน อาจจะช่วยปรับสายตาให้ชินกับแว่นได้ดีขึ้น
.
ท้ายที่สุดพลอยเล่าให้ฟังว่า เธอได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่าตัวเองเป็นผู้มีรายชื่ออยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับการพักโทษและถ้าหากมีการเปิดให้ยื่นเอกสารที่เกี่ยวข้อง เธอก็จะยื่นขอพักโทษ เธอบอกว่าที่ผ่านมามักมีคนบอกว่านักโทษคดี 112 จะไม่ได้รับการพักโทษ เธอจึงไม่ได้หวังกับเรื่องนี้มากนัก แต่พลอยบอกว่ารู้สึกดีใจที่ได้รับแจ้งว่าตัวเองอยู่ในเกณฑ์ที่จะพักโทษได้ และจะลองยื่นเอกสารดู
.
.
อ่านในเว็บไซต์: https://tlhr2014.com/archives/73091https://www.facebook.com/photo/?fbid=1038934881410315&set=a.656922399611567