Matichon Weekly - มติชนสุดสัปดาห์
16 hours ago
·
ชายแดนสีเทา โดยปราปต์ บุนปาน
https://www.matichonweekly.com/column/article_823521
“ผศ.ดร.ลลิตา หาญวงษ์” นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องการเมืองเมียนมาร่วมสมัย รวมถึงปัญหาตามพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา เพิ่งให้สัมภาษณ์กับรายการ “The Politics” ทางช่องยูทูบมติชนทีวี ในประเด็นว่าด้วย “กลุ่มจีนเทา-แก๊งสแกมเมอร์-คอลเซ็นเตอร์”
มีเนื้อหาน่าสนใจบางส่วน
“การแก้เรื่องนี้มันต้องอาศัยคนหลากหลายฝ่าย เพราะมันไม่ได้เกี่ยวกับทหาร-ตำรวจอย่างเดียว ไม่ใช่เรื่องของ ตม.อย่างเดียว ถ้าจะแก้ไขปัญหาทั้งหมด คุณต้องรวบรวมสรรพกำลังทุกอย่างที่มีในประเทศไทย แล้วคิดใหม่ ‘คิดใหม่ ทำใหม่ เพื่อไทยทุกคน’
“ต้องเข้าใจก่อนว่ามันเป็นปัญหาใหม่ ที่ในยุคของคุณทักษิณก่อนหน้านี้ ช่วงทศวรรษ 2540 มันไม่มีปัญหานี้ ตอนนี้ อาชญากรรมข้ามแดนมันกลายเป็นอาชญากรรมที่อีนุงตุงนังไปหมด
“เราเห็นอาชญากรรมเหล่านี้อยู่อีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำ แต่เราทำอะไรไม่ได้ เพียงเพราะว่านี่ไม่ใช่แผ่นดินของไทย ถ้าจะให้เจ้าหน้าที่รัฐเอาตำรวจไปจับเลย พอเป็นคนละประเทศ กฎหมายแตกต่างกัน
“ความซับซ้อนอยู่ที่ว่ามันเป็นประเทศเมียนมา แต่พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ที่ (รัฐบาลทหาร) พม่าไม่สามารถครอบครองได้ มันเป็นพื้นที่ของกะเหรี่ยงบีจีเอฟและกะเหรี่ยงดีเคบีเอ และกองกำลังอีกหลายกลุ่มตามแนวชายแดน
“คือการพูดคุยกับพม่า เซนส์ของหน่วยงานความมั่นคงอาจจะเป็นลักษณะที่ว่า เราต้องไปบอกเขาก่อนว่าเรากำลังจะแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับผืนแผ่นดินของคุณ แต่ถามว่าจะให้พม่ามาช่วยเราแก้ปัญหา ไม่มีทาง
“เพราะหนึ่ง พม่าติดสงครามกับหลากหลายหน่วย ตอนนี้เขาสนใจไปทำสงครามในฝั่งอาระกันมากกว่า พื้นที่ตรงอื่นมีความเข้มข้นมากกว่านี้เยอะแยะ แล้วอยู่ดีๆ เขาจะมาช่วยไทยปราบปรามเรื่องพวกนี้เหรอ ในพื้นที่ที่ไม่มีความขัดแย้ง ในระดับที่ต้องมาเผชิญหน้า แล้วอยู่ดีๆ พม่าจะมาเผชิญหน้ากับบีจีเอฟ มันเป็นไปไม่ได้
“แล้วที่สำคัญ คนที่เป็นเหยื่อ เราต้องยอมรับ มีทั้งที่เป็นเหยื่อจริงๆ มีทั้งคนที่สมัครใจไป มีทั้งคนที่ได้รับเงินจีนเทามาแล้ว ได้รับค่าจ้างแบบแอดวานซ์มาแล้ว และก็ไปอยู่ตรงฝั่งนั้น มีคนหลากหลายประเภท ที่ทำให้เรื่องมันยิ่งซับซ้อนก็เพราะว่ามันมีคนหลากหลายประเทศด้วย ตอนนี้ก็มี 40 กว่าสัญชาติ 6,000 คน
“ทั้งหมดลง (เครื่องบิน) ที่ไทย ก็มีสองจุดที่จะเป็นตัวส่งคนเหล่านี้ไป หนึ่ง ถ้าไม่ใช่จากสนามบินสุวรรณภูมิหรือดอนเมือง ส่วนใหญ่คือสุวรรณภูมิ แล้วนั่งรถไปแม่สอด ก็จะเป็นจากสนามบินดอนเมือง ขึ้นสายการบินหนึ่งไปลงที่แม่สอด”
“อธิบายแบบคนปกติ สมมุติเป็นคนจีนขาวๆ ธรรมดาเข้ามาพร้อมพาสปอร์ตจีน ฟรีวีซ่า ไม่ได้มีการตรวจตราอะไรมากมาย ไม่ได้มีการสอบถามว่าจะไปไหน ไม่ว่าเขาจะถูกล่อลวงหรืออะไรไปแม่สอดก็ตาม เขาข้ามทาง ‘ท่าข้าม’ มันจะเป็นช่องทางธรรมชาติที่เขาข้ามไป
“แต่คนจีน-คนต่างชาติอีกเป็นจำนวนมากข้ามไปพม่าแบบถูกต้องตามกฎหมายที่สะพานมิตรภาพแห่งที่สอง ก็คือมีประทับตราของ ตม.ฝั่งไทย ตม.ฝั่งเมียนมา ชัดเจน ทุกอย่างทำถูกต้องตามกฎหมายหมดเลย
“คำถามง่ายๆ ก็คือ สมมุติเราอยากจะให้เจ้าหน้าที่รัฐของเราไปเอาผิดคนเหล่านั้น เจ้าหน้าที่รัฐของเราก็จะตั้งคำถาม ผิดอย่างไร? ก็เขามีวีซ่า พอมาถึงประเทศไทย ทุกอย่างก็ถูกต้องตามกฎหมาย แล้วตำรวจเอาข้อหาอะไรไปจับเขา? นี่คือช่องโหว่
“แต่ถ้าสมมุติว่า ตม. ตั้งแต่สุวรรณภูมิ สามารถสอบถามได้เบื้องต้นเลยว่า คุณจะไปไหน? บางคนไม่ตอบหรอก แต่บางคนอาจจะโพล่งออกมาว่า ไปแม่สอด ทีนี้ ตม.ก็ต้องเริ่มเอะใจแล้วว่า คนนี้จะต้องเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ หรือเป็นเหยื่อของคอลเซ็นเตอร์แน่ๆ
“คือการสกรีนคน ในช่วงที่เรายังไม่ค่อยมีองค์ความรู้ หรือเรายังไม่มีแผนแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเราจะจัดการกับสแกมเซ็นเตอร์อย่างไร มันต้องตรวจตราหลายด่าน ถ้าเราจะทำให้ปัญหานี้เบาบางลง เราก็ต้องช่วยเจ้าหน้าที่ชายแดนสกรีนด้วย ไม่ใช่เอาปัญหาไปกองอยู่ที่แม่สอดอย่างเดียว
“แล้วพอคนเข้าไปหลายหมื่น บางคนก็บอกเป็นแสนคน ทีนี้เราจะช่วยออกมาอย่างไร เราก็ไม่รู้แล้วว่า คนที่ไปอยู่ฝั่งโน้นเป็นใครบ้าง แล้วไปอยู่ตึกไหน เซ็กชั่นไหน ชั้นไหน มันไม่ใช่ช่วยออกมาง่ายๆ
“ฟรีวีซ่าทำให้เราไม่สามารถสกรีน ‘จีนเทา’ ออกจาก ‘จีนขาว’ ได้ ตม.เขารู้ว่าคนนี้มีพิรุธ แต่ในเมื่อมันเป็นฟรีวีซ่า คุณสกรีนอย่างไร ก็ในเมื่อแถวยาวนิดหนึ่ง ก็มีคนเอาไปโพสต์แล้วว่า คุณจะเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยว แต่แถว ตม.คุณยาวจังเลย
“คือเขาก็ถูกกดดัน มันก็ทำให้ ตม.ไม่มีเวลาที่จะไปถามอะไรมากมายอย่างเข้มข้นว่า คุณจะไปไหน? คุณจะไปทำอะไร?
“(รัฐบาลสามารถสั่งให้ ตม.ไปสกรีนคนตามท่าข้ามที่ชายแดนได้หรือไม่? – ผู้ดำเนินรายการ) ไม่ได้ สะพานมิตรภาพแห่งที่สองคือด่าน ตม. อันนั้นสกรีนได้ แต่คำว่า ‘ท่าข้าม’ หมายความว่าท่าที่เอาสินค้าข้ามไปข้ามมา แต่ละท่าก็จะมีสินค้าที่เขาอนุญาต เขามีข้อตกลงของเขา ซึ่งจังหวัดเป็นคนอนุญาตและอนุมัติให้เปิดท่าข้ามเหล่านี้
“แต่ตอนนี้ ปัญหามันมีเยอะ แม่สอดอำเภอเดียวมี (ท่าข้าม) 37 แห่ง เขาไม่ให้ขนคน เพราะมันไม่มี ตม. หมายความว่าถ้าคุณข้าม (แดน) ตรงท่าข้าม คุณไม่มีหลักฐานของการเข้าเมือง เขาเลยไม่ให้ขนคน แต่พอมีท่าข้ามเยอะ คุณจะให้เจ้าหน้าที่ที่ไหนไปดูแล ตรวจตรา ตรวจสอบแบบทั่วถึง เป็นไปไม่ได้
“ท่าข้ามเหล่านี้ขออนุญาตเปิดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แล้วตอนนี้ คุณบอกว่าเราจะปราบปรามเรื่องนี้อย่างจริงจัง เราจะปิดท่าข้าม คนที่เป็นเจ้าของท่าข้ามเขาก็จะไม่พอใจสิ แต่มันต้องมีมาตรการน่ะค่ะ”