พรรคเพื่อไทยเสนอร่าง กม.แก้ไข พรบ.จัดระเบียบราชการกลาโหม พ.ศ.๒๕๕๑ มองตามหน้าปก เป็นร่างฯ ที่ก้าวหน้าทีเดียว แต่จากพฤติกรรมของรัฐบาลนี้ ซึ่งตีตกร่าง กม.แบบเดียวกันของพรรคประชาชนเมื่อเดือนตุลา
ข้อกังขาเรื่องเจตนาบริสุทธิ์เบื้องลึกจึงบดบังความไว้ใจ เชื่อใจ ของประชาชนที่โหยหาแนวทางประชาธิปไตยสมบูรณ์กว่าที่เป็นอยู่เดี๋ยวนี้ ทำให้ร่างฯ นี้ยังดูพร่ามัว จนกว่าพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลจะแสดงความมุ่งมั่นในการผ่านร่างฯ มากกว่านี้
หลักการในร่างฯ ฉบับที่เสนอโดย ประยุทธ์ ศิริพานิชย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย มีอยู่สองประเด็น ได้แก่ ให้อำนาจคณะรัฐมนตรีในการตัดสินข้อเสนอของกรรมการสรรหา ว่านายทหารคนใดสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายพล
กม.เดิมที่ใช้อยู่ให้อำนาจของ รมว.กลาโหม ร่วมกับผู้บัญชาการเหล่าทัพพิจารณาแต่งตั้ง เห็นควรเปลี่ยนแปลงเนื่องจาก การแต่งตั้งนายพล “มีการวางตัวบุคคลที่เป็นพวกพ้องของผู้บัญชาการเหล่าทัพ ให้สืบสายเป็นผู้บัญชาการเหล่าทัพต่อไป”
นั้นก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมต่อผู้มีมีความรู้ความสามารถอื่นๆ นอกสาย นอกนั้นร่างฯ ใหม่มีการจัดให้นายกรัฐมนตรีเป็นประธานสภากลาโหม แทนที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อีกทั้งให้หัวหน้าส่วนราชการอื่นที่เกี่ยวข้อง มาเป็นสมาชิกสภากลาโหม
ประเด็นสำคัญเป็นการปรับเพิ่มระเบียบตามมาตรา ๓๕ หน้าที่ทหารในการปราบจลาจล โดยกำหนดห้ามใช้กำลังทหารในการยึดอำนาจบริหารราชการแผ่นดิน (รัฐประหาร) รวมทั้งให้สิทธิข้าราชการทหารที่ได้รับคำสั่ง ไม่ต้องปฏิบัติตาม โดยไม่ถือว่าผิดวินัย
ส่วนร่างเดิมของพรรคประชาชนนั้น ถูกตีตกตั้งแต่กระทรวงกลาโหม กอ.รมน. สภาความมั่นคง สภาพัฒน์ฯ และสำนักงบประมาณ ล้วนอ้างว่า บทบัญญัติยังไม่ชัดเจน บ้างว่าการให้อำนาจรัฐมนตรีมากกว่าสภากลาโหมจะทำให้มีการตัดสินใจอย่างไม่รอบคอบ
รวมความว่าการไม่รับร่างแก้ไข พรบ.กลาโหมของพรรคประชาชน เป็นเพียงการติเรือทั้งโกลน ส่อเจตนาการเตะสกัดตัดขา ข้อเสนอกฎหมายของพรรคฝ่ายค้านดะไปหมดนับเป็นสิบๆ ฉบับ แต่แล้วกลับมาเป็นผู้เสนอเอง จะไม่ให้เกิดความระแวงได้อย่างไร
(https://www.isranews.org/article/isranews-short-news/132789-politics-62.html? และ https://www.matichon.co.th/politics/news_4940630)