วันเสาร์, ธันวาคม 21, 2567

ไทยกับว้าแดงยังเจรจากันอยู่ สถานการณ์ยังไม่ถึงขั้นต้องรบกัน


thaiarmedforce.com
December 18
·
เราได้รับภาพจากแหล่งข่าวระดับสูง (เพราะอยู่บนดอย) เป็นภาพการพบปะและเจรจาระหว่างผู้นำทางทหารของฝั่งไทยและว้าเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์และหารือสถานการณ์แนวชายแดน รวมถึงสื่อสารข้อกังวลของกันละกัน ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้
คำว่า "เชื่อมความสัมพันธ์" ไม่ได้หมายถึงใครยอมใคร แต่เป็นเรื่องปกติที่เจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดนจะต้องทำความรู้จักกันเพื่อจะได้คุยกันง่ายถ้ามีปัญหาอะไร
ดังนั้นก็ย้ำอีกรอบว่า 18 ธันวาคมนี้ ไม่ใช่ Deadline หรือวัน ว. ในการใช้กำลังทหารกับ #ว้าแดง เพราะคำนี้ไม่ได้ออกและไม่เคยออกมาจากปากของกองทัพไทยไม่ว่าจะทางตรงหรือทางลับ กำหนดการต่าง ๆ เป็นแค่การนัดหมายพูดคุยเพื่อสื่อสารข้อกังวลต่าง ๆ
ดังนั้นไม่ใช่กองทัพไทยไม่กล้ารบ หรืออ่อนแอ หรือยอมว้าแดง หรืออะไร แต่ ณ ตอนนี้ กลไกระหว่างประเทศ รวมถึงกลไกการเจรจาต่าง ๆ ยังใช้ไม่หมด แล้วถ้ายังใช้การเจรจาได้ ทำไมจะต้องรีบรบให้เสียทั้งชีวิต ทรัพย์สิน และที่สำคัญคือเศรษฐกิจตามแนวชายแดน
ถ้าสุดท้ายเราได้ตามที่ต้องการโดยไม่ต้องรบ มันก็จะยิ่งดี และถือเป็นการใช้แสนยานุภาพที่สร้างขึ้นมาให้เป็นประโยชน์สูงสุด
---------------------
แต่ถ้าต้องรบมันก็ต้องรบ เพราะเราก็ยืนยันได้ว่ากองทัพก็เตรียมแผนในกรณีที่เลวร้ายที่สุดไว้อยู่เช่นกัน เพียงแต่ย้ำอีกทีว่าตอนนี้มันยังไม่ถึงขั้นนั้น รวมถึงกระทรวงการต่างประเทศก็มีการดำเนินการอยู่
ยิ่งชนกลุ่มน้อยซึ่งเป็น Non-State Actor เรายิ่งใช้การเจรจาได้ ความคล่องตัวในการเจรจาอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ แต่ไม่ใช่อะไรก็ต้องทำสงครามอย่างเดียว โดยเฉพาะในกรณีที่ถ้าวันหนึ่งว้ากลายเป็น State Actor ขึ้นมา
หรือบางอย่าง ในเมื่อหลาย ๆ อย่างมันยังไม่สามารถสร้างความชัดเจนได้ในเร็ววัน เช่นการปักปันเขตแดนที่ถ้าตราบใดเมียนมายังมีสงครามกลางเมืองแบบนี้ก็คงยากที่จะทำให้ชัดเจน เส้นเขตแดนไทยและเมียนมาก็ยังไม่มีอยู่จริง มีแค่เส้นที่แต่ละคนยึดถือ ดังนั้นการรักษา Status Quo ให้คงอยู่ก็อาจจะได้ประโยชน์กว่า แบบที่หลาย ๆ พื้นที่ทั่วโลกเลือกจะทำ
เพราะถ้าต้องบอกให้ว้าแดง กะเหรี่ยง หรือเมียนมาถอยออกจากเส้นที่เราคิดว่าล้ำ ดังนั้นหลายฐานที่เราก็ล้ำอยู่ก็ต้องถอยเหมือนกัน ซึ่งพอต่างคนต่างถอยนั่นคือต่างคนต่างต้องลงจากเขาทั้งหมด มันไม่เกิดประโยชน์อะไรโดยเฉพาะในแง่การรักษาความมั่นคงและยุทธวิธีทางทหาร ในหลายกรณีการมี No Man's Land ทำงานยากกว่าด้วยซ้ำ
---------------------
คำถามสำคัญก็คือ ถ้าเรามองว่าชนกลุ่มน้อยมีส่วนพัวพันกับยาเสพติด ยิ่งมาล้ำแดนด้วย ทำไมถึงไม่โจมตีถล่มให้ราบไปเลย
คำตอบก็คือใช่ว่าเราไม่เคยทำแบบนั้น เราเคยทำมาแล้ว เป็นปฏิบัติการทางทหารขนาดใหญ่ ใช้ทั้งกำลังทางอากาศและกำลังทางบก ถล่มก็ถล่มราบจริง ๆ แต่สุดท้ายโรงงานยาเสพติดมันก็กลับมาใหม่ แล้วนี่มันคือวิธีแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืนจริง ๆ หรือ
ถ้ามีสงครามแบบสะใจคนในเมืองหรือคนในอินเตอร์เน็ต แต่เศรษฐกิจชายแดนเสียหาย การท่องเที่ยวเสียหาย ที่สำคัญคือสูญเสียชีวิตผู้คน มันไม่คุ้มกันแน่นอน โดยเฉพาะในกรณีที่ยังใช้เครื่องมืออื่นได้เช่นการเจรจาหรือการกดดันทางอื่น
และการที่ว้าแดงมาขึ้นโต๊ะเจรจา ก็ควรมองเป็นสัญญาณที่ดีว่าทั้งสองฝ่ายยังคุยกันได้ ยังแสวงหาข้อตกลงแบบสันติได้โดยการใช้ความสัมพันธ์ของคนในพื้นที่เป็นตัวกลาง อย่างน้อยในตอนนี้เราคุยกันได้ก็ควรจะคุยไปก่อน
----------------------
การแสดงความเข้มแข็งไม่ใช่การใช้กำลังอย่างเดียวในทุกกรณี แบบนั้นเรียกอันธพาล แต่เป็นการใช้กำลังแบบมีวุติภาวะ ใช้ไม้อ่อนหรือไม้แข็ง และเก็บทางเลือกในการใช้อาวุธเป็นทางเลือกสุดท้าย
ดังนั้นอยากให้คนในอินเตอร์เน็ตเข้าใจ โดยเฉพาะคนที่พยายามปั่นกระแสชาตินิยมแบบผิด ๆ หรือคนที่มองว่าไทยแสดงท่าทีอ่อนแอ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน คุณต้องพยายามเข้าใจและมีวุฒิภาวะกันบ้าง เพราะตอนนี้ชัดเจนว่า หลายคนเอาสนุกหรือสะใจกันอย่างเดียวโดยไม่มีเหตุผลรองรับ
ถ้าเรายังเชียร์กันแบบไม่มีสติอยู่แบบนี้ ทุกอย่างจะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ ดังนั้นมีสติกันบ้าง พยายามทำความเข้าใจประเด็นต่าง ๆ ที่ซับซ้อนบ้าง อย่าเอาแต่สนุกอย่างเดียว เรื่องจริงมันไม่ใช่เอาสนุกแบบที่พวกคุณพูดกันอยู่แบบนี้ครับ

https://www.facebook.com/thaiarmedforce/posts/1126019882320876