ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เปิดเอกสาร JC 2544 ว่านี่คือสารตั้งต้นของ MOU 2544 ทำให้ถือได้ว่าเป็นสนธิสัญญาระหว่างไทยกับกัมพูชา “โดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และไม่ได้มีพระบรมราชโองการ”
โดยมีทั้ง ทักษิณ ชินวัตร และ เสด็ดเดโช ฮุนเซน ลงนามรับรองไว้เมื่อ ๑๘ มิถุนา ๔๔ ซึ่งได้รับการต่อยอดโดยรัฐบาล ‘แพทองธาร’ ผ่านทางกระทรวงกลาโหม ซึ่งมี ภูมิธรรม เวชยชัย ว่าการ ด้วยการตั้งคณะกรรมการร่วมทางเทคนิค
“เพื่อจัดสรรผลประโยชน์ร่วมทางทะเล ระหว่างไทยและกัมพูชา” ที่เรียกว่า JTC ครั้นนักข่าวเจอ รมว.พลังงาน จึงถามว่าเรื่องนี้ไปถึงไหนแล้ว พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค กลับตอบว่าไม่ทราบ ไม่รู้ “ยังไม่เคยได้รับแจ้ง” เรื่องใหญ่ระหว่างประเทศนี่นะ
คือไม่มีการเปิดประมูลตามปกติ แต่เป็นการอนุมัติโดยไม่เปิดให้สาธารณะได้เห็นก่อน มูลค่าสัญญา ๗,๑๗๐ ล้านบาท ด้วยเหตุผลเพียงว่า บริษัท สหกลอิควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SQ เป็นผู้ชนะการประมูลลักษณะเดียวกันมาแล้วในปี ๒๕๖๖
ประจวบเหมาะกับ วรภพ วิริยะโรจน์ @WoraphopV พูดถึงเรื่องแบบเดียวกันนี้ไว้ตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมาว่า “รัฐบาลก็ยังคงเลือกที่จะเดินหน้ารับซื้อพลังงานหมุนเวียน ปี ๒๕๖๗ โดยยังคงใช้หลักเกณฑ์เดียวกันกับรอบปี ๒๕๖๕ ที่มีประเด็นปัญหา”
การระงับจัดซื้อจัดจ้าง “เหมาขุด-ขนถ่านหิน” เกี่ยวกับพลังงานหมุนเวียนตรงที่ ถ่านหินแม่เมาะนั้นสำหรับเอาไปใช้ในการผลิตไฟฟ้า “ที่มีต้นทุนการผลิตต่ำกว่า...โรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงจากการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว” ซึ่งในส่วนหนึ่งจะมาจาก ‘เอ็มโอยู ๔๔’ นั่นละ
ตานี้ละก็ จะโอละพ่อกันไปอีก เพราะถ้ายกเลิกจัดซื้อถ่านหินแม่เมาะ “อาจส่งผลต่อค่าไฟ” เมื่อถ่านหินไม่มา “ทำให้ต้องลดกำลังการผลิตลง” ขณะเดียวกันหากต้องเปิดการประมูลใหม่ ผู้ยื่นเสนอราคาครั้งที่แล้วไว้ถูกต้องแต่ถูกข้ามขั้น ก็จะโวย
แถมกระทรวงพลังงานดันประกาศ ‘มอบของขวัญปีใหม่ ๒๕๖๘’ ที่ ‘สรยุทธ์’ อุทาน “อ้าว นึกว่าลด” น้องไบร๊ท์สานต่อ “ตรึงค่ะ ตรึงค่าไฟ (๔.๑๘ บาท เป็นเวลา ๔ เดือน) ตรึงค่าน้ำมัน (ดีเซลไม่เกิน ๓๓ บาทต่อลิตร)” แล้วพี่ยุทธ์สรุป “ไม่ขึ้นก็บุญแล้ว”
(https://x.com/lo6dfu8jt/status/1861236860158386524, https://x.com/WoraphopV/status/1846404932116926933, https://www.posttoday.com/business/716173?=IwY2xjaw และ https://www.thaipost.net/hi-light/696825/)