.....
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
15.05 น. ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่งคำร้องขอประกันตัวให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้พิจารณา ทำให้วันนี้ขุนแผนจะต้องถูกควบคุมอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จนกว่าจะมีผลคำสั่งมาในอีก 2 - 3 วัน
ย้อนอ่านเหตุการณ์ : https://tlhr2014.com/archives/70939
.....
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
15.05 น. ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่งคำร้องขอประกันตัวให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้พิจารณา ทำให้วันนี้ขุนแผนจะต้องถูกควบคุมอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จนกว่าจะมีผลคำสั่งมาในอีก 2 - 3 วัน
ย้อนอ่านเหตุการณ์ : https://tlhr2014.com/archives/70939
.....
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
a day ago
·
วันที่ 6 พ.ย. 2567 ทนายความเดินทางไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อเยี่ยม “ขุนแผน” หรือ เชน ชีวอบัญชา ประชาชนวัย 57 ปี ผู้ต้องขังคดีมาตรา 112 และดูหมิ่นศาล ซึ่งถูกศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษาจำคุก 3 ปี 6 เดือน เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2567 จากคดีร่วมกิจกรรมเรียกร้องสิทธิประกันตัวสองนักกิจกรรมทะลุวัง และศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไม่ให้ประกันตัว
.
พบว่า “ขุนแผน” มีอาการร่างกายซีกซ้ายอ่อนแรง ควบคุมกล้ามเนื้อซีกซ้ายไม่ได้ มือซ้ายไม่มีเรี่ยวแรง กล้ามเนื้อมือและตาด้านซ้ายตกลง มีอาการลิ้นแข็งเคี้ยวอาหารไม่ได้ กินข้าวเคี้ยวไม่ถนัด พูดไม่ชัด ทนายความได้ส่งหนังสือขอให้เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ส่งตัวเขาไปรักษาที่ รพ.ราชทัณฑ์แล้ว และยังรอคำสั่งอยู่
.
.
ทนายได้พูดคุยกับขุนแผนผ่านเสียงทางโทรศัพท์ เนื่องจากระบบภาพยังคงไม่สามารถใช้งานได้ ขุนแผนบอกว่าเยี่ยมผ่านโทรศัพท์ก็ดี เพราะจะไม่ต้องเดินออกไปข้างนอก ตอนนี้เดินไม่ค่อยสะดวก ทนายถามไถ่ถึงเรื่องสุขภาพ เนื่องจากก่อนหน้านี้ขุนแผนกำลังรักษาตัวจากอาการป่วยวัณโรค
.
ขุนแผนเล่าว่าเช้าวันศุกร์ที่ผ่านมา (1 พ.ย. 2567) เขารู้สึกไม่มีแรง หยิบขวดน้ำมาจะดื่มก็ทำหล่น ไม่รู้สึกตัวหลายครั้ง และมีอาการชาครึ่งซีกซ้ายทั้งหมด ทั้งหัว ตัว และแขนขา พอผ่านวันแรกไป อาการไม่มีแรงก็เริ่ม ๆ ดีขึ้น แต่อาการชายังคงอยู่เหมือนเดิม ไม่น้อยลงเลย และรู้สึกว่าจะมีอาการมากขึ้นเรื่อย ๆ
.
วันนี้ เขาสังเกตตัวเองและเห็นชัดว่าตาข้างซ้ายเริ่มตกและมุมปากด้านซ้ายก็ตก ยังคงเดินได้ แต่ก็ไม่ปกติ เวลาเดินรู้สึกชาที่เท้า ก้าวแต่ละทีก็จะสะเทือนมาถึงที่ท้องจนต้องเกร็งตัว
.
เมื่อวันจันทร์ (4 พ.ย. 2567) เขาได้ไปแดนพยาบาล 1 ครั้ง เจ้าหน้าที่ก็ถามอาการเบื้องต้น มีการทดสอบกล้ามเนื้อโดยให้หยิบของ ให้ยกขา ให้ออกแรงงัดข้อ และให้วัดความดัน เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่เจออะไรผิดปกติ และขอเจาะเลือดไป
.
เมื่อวาน (5 พ.ย. 2567) ได้ไปแดนพยาบาลอีกครั้ง เจอกับแพทย์อีกคนหนึ่ง ถามอาการเหมือนเดิม ทดสอบเหมือนเดิม แล้วก็ถามว่าอยากไปตรวจละเอียดที่ รพ.ราชทัณฑ์ ไหม เขาก็ตอบว่าอยากไปตรวจ แล้วก็แค่นั้น ไม่ได้บอกว่าจะได้ไปวันไหน ตอนนี้เขาก็ยังรออยู่ ตอนแรกก็คิดว่าจะได้ไปวันนี้เลย แต่ไม่ใช่ อาจจะเป็นพรุ่งนี้หรือมะรืน
.
อาการที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันศุกร์ ทำให้ขุนแผนมีปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวัน เคี้ยวข้าวได้ไม่ถนัด บางทีก็เผลอกัดปากตัวเอง กินข้าวได้น้อยลงแต่ยังคงดื่มน้ำได้ บางทีก็พูดไม่ชัด ต้องตั้งใจจดจ่อกับการพูดมากขึ้นเพราะลิ้นแข็งควบคุมไม่ได้ ซึ่งขณะที่คุยกับทนายก็ยังเป็นอยู่ นอกจากนี้ยังต้องระวังเรื่องการเข้าส้วม และเข้าห้องอาบน้ำมากขึ้นอีก เพราะเดินได้ไม่ปกติ
.
ก่อนหน้านี้พี่สาวของขุนแผนมาเยี่ยม โดยพี่สาวประกอบอาชีพเป็นพยาบาลก็เป็นห่วงมากเมื่อทราบอาการ บอกว่าอยากพาไปรักษาข้างนอก ให้ทางเรือนจำส่งออกมาก็ได้ ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เขาจะจ่ายเอง แต่ก็เผื่อใจว่าอาจไม่ได้ประกันตัวออกไปรักษา และยกกรณีของบุ้งที่ยังไม่ได้ออกไปรักษาจนสุดท้ายเสียชีวิต
.
ขุนแผนเล่าให้ทนายความฟังว่า พ่อของเขาเป็นอัมพฤกษ์ ตอนอายุประมาณ 50-60 ปี แต่จำอายุเป๊ะ ๆ ไม่ได้ เพราะตอนนั้นก็ยังเด็กอยู่ และพ่อก็เสียไปนานแล้ว ซึ่งตอนแกเริ่มเป็นน่าจะอายุพอ ๆ กับขุนแผนตอนนี้
.
พี่สาวบอกว่ามันสืบกันทางพันธุกรรมได้ พ่อมีอาการเส้นประสาทเส้นที่ 7 อักเสบ ตอนนั้นก็เริ่มต้นด้วยการมีอาการเหมือนที่เขาเป็นอยู่ พ่อก็รู้ตัวและไปรักษาตามอาการต่อเนื่อง จึงไม่ได้ถึงกับป่วยติดเตียง แต่ก็ไม่ได้หายขาด เดินได้ ใช้ชีวิตได้ แต่ไม่ปกติ
.
“กลัวว่าจะเป็นหนักเหมือนกัน วันแรกที่เป็นนี่นึกภาพตัวเองนั่งวิลแชร์เลย” ขุนแผนพูดขึ้นเพราะกังวลว่าหากเขาถูกส่งตัวไปรักษาช้า อาการมันจะหนักขึ้นเรื่อย ๆ ถึงขั้นสูญเสียความสามารถในการเดินอย่างปกติ
.
ด้านสภาพจิตใจขุนแผนตอบว่ายังโอเคดี เข้าใจ ชีวิตอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ก็เข้าใจเรื่องสังขาร เกิด แก่ เจ็บ ตาย แต่ถ้ามันมีทางรักษาได้ ก็อยากทำให้เต็มที่ก่อน ขุนแผนรู้ว่าการรักษาในเรือนจำล่าช้าและไม่ดีเท่าข้างนอก เขากล่าวว่าตนไม่ได้กลัวตาย แต่ต้องการสิทธิในการรักษาที่ทันท่วงที ไม่ใช่แค่กรณีเขา ทุกคนในนี้ต้องเจอสภาวะแบบนี้กันหมด ถ้าป่วยก็ทำได้แค่รอ
.
ถึงแม้ขุนแผนเป็นผู้ต้องหาคดีการเมืองคนเดียวในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ที่ถูกขังอยู่ในแดน 8 แต่เขาก็มีเพื่อน ๆ ที่ได้รู้จักในแดนอยู่ สามารถใช้ชีวิตด้วยกัน ช่วยกันดูแล มีของอะไรมาก็แบ่งปันกัน เพื่อน ๆ ที่ไม่มีเงินไม่มีญาติก็กินข้าวด้วยกัน นั่งเล่นนั่งคุยกันได้
.
ขุนแผนเล่าว่าสภาพแวดล้อมในเรือนจำก็ดี ตอนที่เขาป่วยเพื่อน ๆ ก็ดูแลเขาดี ช่วยพาเดิน มาพยุง หาข้าวหาปลามาให้ ทางผู้บริหารแดน 8 ก็เรียกไปสอบถามอาการ บอกว่ามีอะไรให้ไปติดต่อได้เลย
.
หลังทนายความทราบถึงอาการป่วย จึงได้ส่งหนังสือขอให้เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เร่งส่งตัวขุนแผนไปรักษาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ในทันที เพื่อมิให้อาการกำเริบร้ายแรง แต่วันนี้ยังไม่มีคำสั่งจากเรือนจำ ในวันพรุ่งนี้ต้องติดตามความคืบหน้าต่อไป
.
.
อ่านบนเว็บไซต์ : (https://tlhr2014.com/archives/70939)
.....