เจมส์ ฟิตซ์เจอรัลด์
บีบีซีนิวส์
7 พฤศจิกายน 2024
โดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมกลับสู่ทำเนียบขาวอีกครั้ง พร้อมให้คำมั่นว่าจะดำเนินการในประเด็นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น นโยบายเกี่ยวกับการผู้อพยพย้ายถิ่นฐาน เศรษฐกิจ และสงครามในยูเครน
ที่สำคัญ ดูเหมือนว่า ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47 ผู้นี้ยังมีแนวโน้มที่จะได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากสภาคองเกรสในเรื่องนโยบายทางการเมืองของเขา หลังจากพรรครีพับลิกันสามารถครองที่นั่งส่วนใหญ่ในวุฒิสภาคืนมาได้
ในสุนทรพจน์ประกาศชัยชนะของเขา ทรัมป์ให้คำมั่นว่า: "ผมจะบริหารงานโดยยึดหลักคำขวัญง่าย ๆ ว่า คำสัญญาที่ให้ไว้คือ คำมั่นที่ต้องทำให้ได้ เราจะรักษาสัญญาของเรา"
อย่างไรก็ตาม ในบางกรณี เขากลับให้รายละเอียดน้อยมากว่าจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างไร ย้อนกลับไปเมื่อปี 2023 เมื่อเขาถูกถามจากผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ Fox News ว่า เขาจะใช้อำนาจในทางที่ผิดหรือโจมตีฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองหรือไม่ เขาตอบว่าเขาจะไม่ทำ "ยกเว้นวันแรก"
“ไม่ ไม่ ไม่ นอกจากวันแรก เราจะปิดพรมแดน และเราจะเจาะน้ำมัน เจาะน้ำมัน และเจาะน้ำมัน หลังจากนั้นผมก็จะไม่เป็นเผด็จการ"
1. เนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมายกลับประเทศ
ในระหว่างการหาเสียง ทรัมป์สัญญาว่าจะดำเนินการเนรเทศผู้อพยพที่ไม่มีเอกสารครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ
นอกจากนี้ เขายังให้คำมั่นว่าจะสร้างกำแพงกั้นพรมแดนติดกับเม็กซิโกให้เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งเป็นนโยบายที่เริ่มขึ้นในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก
จำนวนการข้ามพรมแดนทางใต้ของสหรัฐฯ ทำสถิติสูงสุดในช่วงปลายปีที่แล้วในสมัยรัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน และรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ก่อนจะลดลงในปี 2024
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวกับบีบีซีว่า การเนรเทศในระดับที่ทรัมป์ให้คำมั่นไว้นั้นจะต้องเผชิญกับความท้าทายทางกฎหมายและด้านโลจิสติกส์อย่างมาก ซึ่งอาจทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัว
2. ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและภาษี
ผลสำรวจหลังการเลือกตั้งหรือเอ็กซิทโพลชี้ว่า ปัจจัยทางเศรษฐกิจเป็นประเด็นสำคัญสำหรับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
ทรัมป์ให้คำมั่นว่าจะ “ยุติภาวะเงินเฟ้อ” ซึ่งพุ่งขึ้นถึงระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์ภายใต้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ก่อนที่จะลดลงอีกครั้งในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม อำนาจของประธานาธิบดีในการควบคุมราคาสินค้าโดยตรงนั้นก็มีจำกัด
นอกจากนี้ เขายังให้คำมั่นว่าจะลดภาษีอย่างกว้างขวาง โดยสานต่อการปฏิรูปที่เริ่มในปี 2017 โดยเขาเสนอให้ยกเว้นภาษีรายได้ที่จัดเก็บจากการได้รับทิป หรือเงินพิเศษที่ได้รับจากการให้บริการ ยกเลิกภาษีการจ่ายประกันสังคม และลดภาษีนิติบุคคล เขายังเสนอให้ใช้ภาษีศุลกากรใหม่อย่างน้อย 10% สำหรับสินค้าจากต่างประเทศส่วนใหญ่เพื่อลดการขาดดุลการค้า โดยการนำเข้าสินค้าจากจีนอาจต้องเสียภาษีเพิ่มอีก 60%
นักเศรษฐศาสตร์บางรายเตือนไว้ว่า มาตรการเหล่านี้อาจทำให้ราคาสินค้าสำหรับผู้บริโภคสูงขึ้น
3. อภัยโทษผู้ก่อเหตุจลาจล วันที่ 6 ม.ค. 2021
ทรัมป์กล่าวว่าเขาจะ "ให้อิสรภาพ" แก่ผู้กระทำผิดบางคนที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดจากเหตุจลาจลในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2021 ซึ่งในขณะนั้นผู้สนับสนุนของเขาบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ (Capitol) เพื่อพยายามขัดขวางชัยชนะในการเลือกตั้งปี 2020 ของโจ ไบเดน
เหตุการณ์ความรุนแรงนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายราย และทรัมป์ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ยุยง
เขาพยายามลดความสำคัญของเหตุจลาจลและแสดงให้เห็นว่าผู้สนับสนุนหลายร้อยคนที่ถูกตัดสินว่า มีความผิดเป็นนักโทษการเมือง
เขายังคงยืนยันว่าหลายคนถูก "จำคุกอย่างไม่ยุติธรรม" แม้ว่าเขาจะยอมรับว่า "บางคน อาจจะมีที่ควบคุมตัวเองไม่อยู่บ้าง"
4. เตรียมจะปลดคนทำคดี
ทรัมป์ให้คำมั่นว่า "ภายในสองวินาที" หลังจากเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเขาจะเซ็นคำสั่งปลดอัยการมากประสบการณ์ที่เป็นผู้นำการสอบสวนคดีอาญาสองคดีต่อตัวเขา
แจ็ค สมิธ ที่ปรึกษาพิเศษ ได้ตั้งข้อหาทรัมป์เกี่ยวกับความพยายามที่จะพลิกผลการเลือกตั้งปี 2020 และการจัดการเอกสารลับอย่างไม่เหมาะสม
ทรัมป์ปฏิเสธว่า เขาไม่ได้กระทำความผิดใด ๆ และสามารถป้องกันไม่ให้คดีใด ๆ เข้าสู่การพิจารณาคดีก่อนการเลือกตั้งได้ เขากล่าวว่าสมิธกำลังทำ "การล่าแม่มดทางการเมือง" ต่อตัวเขา
ทรัมป์กำลังจะกลับเข้าสู่ทำเนียบขาวในฐานะประธานาธิบดีคนแรกที่มีประวัติถูกพิพากษาโทษทางอาญา หลังจากที่ถูกตัดสินว่า มีความผิดในนครนิวยอร์กจากการปลอมแปลงบันทึกทางธุรกิจ
5. ยุติสงครามในยูเครน
ทรัมป์วิพากษ์วิจารณ์การใช้เงินหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ของรัฐบาล ในการสนับสนุนยูเครนในการทำสงครามกับรัสเซีย โดยเขาให้คำมั่นว่า จะยุติความขัดแย้งนี้ “ภายใน 24 ชั่วโมง” ผ่านการเจรจาข้อตกลง
ทว่า เขาไม่ได้กล่าวถึงสิ่งที่เขาคิดว่า ฝ่ายใดควรยอมแพ้ ฝ่ายพรรคเดโมแครตกล่าวว่า การเคลื่อนไหวนี้อาจทำให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย ได้ใจมากขึ้น
ทรัมป์ต้องการให้สหรัฐฯ ถอยออกจากความขัดแย้งในต่างประเทศ อย่างในกรณีของสงครามในกาซา ทรัมป์แสดงตัวเป็นผู้สนับสนุนอิสราเอลอย่างแข็งขัน แต่ได้เรียกร้องให้พันธมิตรอเมริกันรายนี้ยุติปฏิบัติการทางทหารในกาซา
เขายังให้คำมั่นที่จะยุติความรุนแรงที่เกี่ยวข้องในเลบานอนด้วย แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมใด ๆ
6. ไม่สั่งห้ามการทำแท้ง
ทรัมป์กล่าวระหว่างการดีเบตกับกมลา แฮร์ริสว่าเขาจะไม่ลงนามบังคับใช้กฎหมายห้ามทำแท้งระดับชาติ ซึ่งขัดกับความต้องการของผู้สนับสนุนบางส่วน
ในปี 2022 ศาลสูงสุดได้ยกเลิกสิทธิในการทำแท้งตามรัฐธรรมนูญที่เคยมีอยู่ทั่วประเทศออกไป โดยตุลาการศาลสูงสุดดังกล่าวมีเสียงส่วนใหญ่เป็นฝ่ายอนุรักษ์นิยม หลังจากที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก
สิทธิในการเจริญพันธุ์กลายเป็นประเด็นสำคัญในการหาเสียงของแฮร์ริส และหลายรัฐได้ผ่านมาตรการเพื่อปกป้องหรือขยายสิทธิในการทำแท้งในวันเลือกตั้ง ทรัมป์เองได้กล่าวเป็นประจำว่า แต่ละรัฐควรมีเสรีภาพในการกำหนดกฎหมายเกี่ยวกับการทำแท้งตามกฎหมายของรัฐนั้น ๆ แม้ว่าเขาจะพยายามที่สื่อสารเนื้อหาในประเด็นดังกล่าวให้สอดคล้องกันยังไม่ได้ก็ตาม
7. ตัดกฎเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อม
ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก ทรัมป์ได้ยกเลิกกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมหลายร้อยฉบับ และทำให้อเมริกาเป็นประเทศแรกที่ถอนตัวจากข้อตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ครั้งนี้ เขาให้คำมั่นอีกครั้งว่าจะลดกฎระเบียบต่าง ๆ โดยเฉพาะเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ของอเมริกา ทรัมป์วิจารณ์รถยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง และสัญญาว่าจะยกเลิกเป้าหมายของไบเดนที่สนับสนุนการเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
เขายังให้คำมั่นที่จะเพิ่มการผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิลในสหรัฐฯ โดยสัญญาว่าในวันแรกของการเข้ารับตำแหน่ง เขาจะสั่งการให้ “เจาะน้ำมัน เจาะน้ำมัน เจาะน้ำมัน” แทนการสนับสนุนพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานลม เขาต้องการเปิดพื้นที่อย่างเช่น เขตอาร์กติกเพื่อการขุดเจาะน้ำมัน โดยเขาอ้างว่าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ยังคงสงสัยต่อแนวคิดนี้
https://www.bbc.com/thai/articles/cwy5xl9wn7yo
.....
บีบีซีไทย - BBC Thai
15 hours ago
·
คำมั่นของทรัมป์ต่อประเด็นนโยบายการค้ากับจีน รวมทั้งการยุติสงครามในยูเครนและตะวันออกกลาง กำลังจะถูกทดสอบ
.
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่ (https://www.bbc.com/thai/articles/cjw0nnzy060o)