เรื่อง พล.อ.พิศาล ผู้ต้องหาคดีตากใบ ชิงลาออกจากสมาชิกพรรค และสมาชิกภาพ ส.ส.บัญชีรายชื่อเพื่อไทย นี่จะทำให้พ้นมลทินกันเมื่อคดีหมดอายุความไหม คำตอบคือไม่เลย ทั้งตัวเองและพรรคได้สูญเสียความน่าเชื่อถือไปแล้ว
แม้ในทางกฎหมายอาจทำให้ปลอดภัยในทางอาญา แต่จะไม่ปลอดโปร่งในทางจริยธรรมอย่างแน่นอน เพราะเห็นๆ ว่าผู้ต้องหาหนีคดี โดยมีพรรคที่สังกัดสมรู้ร่วมคิด และรัฐบาลทำแชเชือน ไม่เร่งดำเนินการให้ทันกรอบอายุความ
กระทั่งตัวนายกรัฐมนตรีเอง เพิ่งทราบว่ามีจดหมายลาออกเมื่อถูกซักถามความเห็นจากนักข่าว แสดงว่าใครก็ตามในรัฐบาลที่รับผิดชอบเรื่องนี้ พยายามด้อยค่าของปัญหา ด้วยแนวคิดที่ว่าคดีถูกปล่อยให้หงอยตายมาตั้งยี่สิบปีแล้ว จะมารื้อฟื้นอะไรกันตอนนี้
คดีตากใบนี้มีสองคดีคู่ขนานกัน ผู้ต้องหาต่างกัน ยกเว้น พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี คนเดียวที่ซ้ำกัน คดีของอัยการผู้ต้องหาเกือบทั้งหมดเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อย ผู้กระทำการตามสั่ง ส่วนคดีของประชาชนฟ้องต่อระดับผู้บังคับบัญชาเป็นหลัก
พรรคเพื่อไทยซึ่ง พล.อ.พิศาล เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พยายามปัดความรับผิดชอบให้พ้นตัวมาแต่แรกเริ่ม อ้างว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคลที่หนีคดีไป ไม่เกี่ยวกับพรรค พอได้รับจดหมายลาออกจึงได้แถลงข่าวด้วยใบหน้ายิ้มร่า สบอารมณ์ ถูกใจ
จดหมายระบุว่า “พรรคเพื่อไทยมิได้มีความเกี่ยวข้องต่อเรื่องราวดังกล่าวแต่อย่างใด” เขาชิงลาออกเพื่อไม่ให้คดีของเขากระทบพรรค ทำให้เสื่อมเสีย ซึ่งก็สายไปเยอะแล้ว ใครเขาจะเชื่อ จดหมายยังบอกด้วยว่าเขาจะมาชี้แจงด้วยตัวเอง
“เมื่ออาการป่วยของผมทุเลาลง” นั่นก็หมายความว่าคดีได้ขาดอายุความไปแล้ว จะชี้แจงอย่างไรก็ได้ มันจะเป็นเพียงดราม่า ข้อความคอมเม้นต์ต่อข่าวลาออกนี้จำนวนมาก พูดเป้นเสียงเดียวว่า กว่าจะอาการทุเลาคดีก็หมดอายุความไปนานแล้ว
ทางด้านกระทรวงยุติธรรม โดย รมว.ทวี สอดส่อง ก็แถลงเหมือนกัน ถึงกรณีที่มีเสียงเรียกร้องให้ตำรวจทำการ ออกหมายแดงเพื่อจับกุมตัว พล.อ.พิศาลว่า “การออกหมายแดงเป็นหน้าที่ของ ‘อินเตอร์โพล’ ตำรวจสากล สามารถปฏิบัติได้
พูดเหมือนปัดภาระกลายๆ แม้จะบอกว่า “รัฐบาลเห็นใจประชาชน จึงพยายามทำให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม" และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ เพราะเหลืออายุความแค่ ๑๐ วัน เพิ่งมาพูดเอาตอนนี้ที่ค่อนข้างแน่ว่าคดีคงล่มเพราะหมดอายุความ
(https://www.khaosod.co.th/politics/news_9459248, https://www.facebook.com/PPTVHD36/posts/cQV37K3QsAX และ https://www.facebook.com/TheReportersTH/posts/mebUPkVnxcDww)