วันอังคาร, กรกฎาคม 09, 2567

‘ทับลาน’ มีเหรียญอีกด้าน ต้องฟังเสียงชาวบ้านถูกประกาศอุทยานทับที่ทำกินกันมาก่อนด้วย

ทับลานมีเหรียญอีกด้าน เนื่องเพราะ เนื้อที่พิพาท ๒.๖ แสนไร่ไม่เฉพาะนายทุนสร้างโรงแรม รีสอร์ท โดยเฉพาะ “ไม่ใช่แค่เรื่องปกป้องป่าไม้ แต่ต้องพูดถึงชาวบ้านในพื้นที่ด้วย” - anchr @_femrt ท้วง

“บางพื้นที่ของอุทยานมีปัญหาเพราะประกาศทับที่ชาวบ้าน และเกิดจากการขับไล่และปราบปรามประชาชนให้ออกจากพื้นที่ มันไม่เป็นธรรมกับชาวบ้าน” แบบเดียวกับพื้นที่ทำกินชาวบ้านก่อนประกาศเป็นป่าสงวนอื่นๆ

“เรื่องชาวบ้านเราก็ต้องรับฟังเขา เพราะอุทยานไม่เป็นธรรมกับเขา จึงต้องมีการปฏิรูปที่ดินทำกินให้เขา...มันไม่เคยมีประชาชนในสมการ คนธรรมดากับป่าอยู่ร่วมกันได้ครับโดยไม่มีปัญหาอะไร แต่นายทุนนี่แหละที่จะเข้ามาถางป่าเพื่อหาผลประโยชน์”

ด้าน อจ.Pinkaew Laungaramsri ชี้ว่ากรณีทางการประกาศเขตป่าสงวนทับที่ทำกินมาเก่าก่อนของชาวบ้าน “กลายเป็นชนวนความขัดแย้ง เผชิญหน้าระหว่างรัฐกับชุมชนเรื้อรังมานานหลายทศวรรษ อุทยานแห่งชาติทับลาน ก็เช่นกัน

ข้อสำคัญ “การใช้วาทกรรม ผืนป่าที่ถูกเฉือน ของกลุ่มอนุรักษ์บางกลุ่ม จึงเป็นการจงใจบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อปั่นกระแสเขียวตกขอบในหมู่ชนชั้นกลางอย่างจงใจ ทั้งที่ในความเป็นจริง ผืนดินทำกินของชาวบ้านต่างหากที่ถูกเฉือนไป”

Apisak Sukkasem ถึงกับบอกว่า “เรื่องเพิกถอนป่าทับลานที่เป็นดราม่าอยู่ตอนนี้ หาข้อมูลที่มาที่ไปดีๆ ก่อนไปลงชื่อคัดค้านนะครับ...เขาไม่ได้เพิกถอนสภาพที่ดินอุทยานในป่าชั้นใน ที่เป็นแหล่งต้นน้ำหรือป่าที่สัตว์อาศัยอยู่นะครับ

เค้าเพิกถอนแนวเขตที่อุทยานทับลานไปประกาศทับซ้อนกับที่ดินชาวบ้าน และที่ดินราชพัสดุครับ” เดิมทีจะเพิกถอนแค่ ๘ หมื่นไร่ ทำไปทำมาพบว่ามีที่ดินรอบๆ อีกมากที่ยังเป็นคดีความบ้าง รวมทั้งนายทุนและผู้ครอบครองใช้ทำธุรกิจโรงแรม

(https://www.facebook.com/apisak.sukkasem.7/posts/NpumKZZhjC, https://www.nationtv.tv/news/region/378945607 และ https://x.com/_femrt/status/1810304557458821534?s=49)