วันเสาร์, มิถุนายน 22, 2567

Today Jom Petchpradab is an American Citizen. Here is his story.

https://www.facebook.com/jom.petchpradab/posts/10161172941408965?ref=embed_post

Jom Petchpradab
16 hours ago·

การได้เป็น“พลเมืองอเมริกา” ที่ได้มาโดยไม่คาดหวัง.
10 ปีเต็มบนเส้นทางผู้ลี้ภัยการเมืองในต่างประเทศ ในที่สุดก็เดินทางถึงเป้าหมาย ที่ไม่เคยคิดว่าจะเป็นเป้าหมายของชีวิต นั่นคือการได้เป็นพลเมืองอเมริกันอย่างสมบูรณ์
เพราะเป้าหมายของการลี้ภัย ทิ้งแผ่นดินเกิดมาเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เพียงเพราะต้องการอาสาทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียง สะท้อนความอัดอั้น คับแค้นใจของพี่น้องคนไทย ที่ถูกกดขี่ เอารัดเอาเปรียบ ถูกควบคุม ทำร้าย ทำลายสิทธิเสรีภาพและศักดิ์ศรีของความเป็นพลเมืองไทย..ในหลายทศวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะการทำรัฐประหาร วันที่ 22 พฤกษภาคม 2557 ที่ผ่านมา แต่เพียงเท่านั้น.
“อเมริกา” จึงเป็นเพียงประเทศที่หวังจะมาขอพักพิงชั่วคราว ทำหน้าที่อย่างปลอดภัย จนกว่าคนไทยจะได้สิทธิเสรีภาพและศักดิ์ศรีความเป็นพลเมืองไทยกลับคืนมา. แต่ 10 ปีผ่านไป กลับได้เห็นเพียงแสงวูบวาบของความหวัง แต่สุดท้ายก็ถูกทำลายให้ดับสูญไปในชั่วพริบตา จนต้องกลับมาสู้กันใหม่..
ผู้ลี้ภัยที่สิ้นไร้ไม้ตอกในเวลานั้น กลับได้รับการดูแล เยียวยา เอาใจใส่ในทุกด้านจากรัฐบาลและพลเมือง“อเมริกา” ทั้งในยามเจ็บป่วย ยามเกิดโรคภัยพิบัติ อีกยังให้หลักประกันด้วยว่าจะดูแลให้อยู่ในประเทศนี้อย่างปลอดภัย. ชีวิตที่สิ้นไร้ไม้ตอกค่อย ๆ เริ่มต้นเติมเต็มนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง
ความรู้สึกอบอุ่นมั่นใจที่ได้ใช้ชีวิตอย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีหลักประกันเช่นนี้ นำไปสู่เป้าหมายของชีวิตที่ไม่เคยคิดวางแผนเอาไว้มาก่อนเลย นั่นก็คือการได้เป็น “พลเมืองอเมริกันที่สมบูรณ์”
วันที่เข้ารับการสาบานตน ( 20 มิถุนายน 2567) เพื่อการเป็นพลเมืองอเมริกาที่ครบถ้วนสมบูรณ์ หลังผ่านการสอบและการคัดกรองหลายชั้นก่อนหน้านี้
วินาทีที่ต้องลุกขึ้นกล่าวสาบานตนด้วยข้อความที่ว่า “จะต้องปกป้องรักษา รัฐธรรมนูญ กฎหมาย อธิปไตย และประชาธิปไตยของอเมริกา” รวมทั้งในเอกสารที่จะต้องระบุว่า จะต้องสัญญาว่าจะ “Give up loyalty to other countries and to be loyal to the United States of America”
เป็นช่วงเวลาที่มีความรู้สึกทั้งสับสน ปนเปกันทั้งความเสียใจและดีใจ สับสนและเสียใจเพราะ “เราต้องเลือกที่จะละทิ้งความจงรักภักดีกับประเทศแผ่นดินเกิด” และดีใจที่จะได้จงรักภักดีกับประเทศที่มีบุญคุณกับเรา และช่วยเหลือโอบอุ้มเราในวันที่เรากำลังจะหมดสิ้นความหวัง.
จำได้ที่เคยได้โพสต์เอาไว้เมื่อ 6 ปีก่อนที่เคยคาดหวังไว้ว่า หากถึงวันที่ท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ พลเมืองไทยจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ขึ้นมาจริง ๆ “จะเป็นวันที่ผมจะเสียใจมากที่สุดหากจำต้องสละสัญชาติไทย” ในเวลานั้น แต่แล้ววันนั้นกลับยังมาไม่ถึง แต่วันนี้กลับเป็น วันที่ผมต้องสละสัญชาติไทย.....
ทำใจยากจริง ๆ ครับ.
หลายคนอาจจะแย้ง ตำหนิ และดูแคลผมว่า สิ่งที่ผมทำลงไปขณะลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศ เป็นการกระทำของคนชังชาติ ทำลายชาติไทย ทำไปเพราะเกลียดประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง.
ผมเคยพูดและโพสต์มาหลายครั้งว่า ผมไม่เคยแม้แต่จะคิดชังชาติซึ่งเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง หากชาติคือประชาชนคนไทย แต่ผมเกลียดและชิงชังรัฐบาลเผด็จการ หรือกลไกแห่งอำนาจรัฐไทย ที่ใช้อำนาจโดยไม่เคยเชื่อ ไม่เคยยอมรับ ไม่เคยให้โอกาสพลเมืองไทยได้เป็นเจ้าของประเทศอย่างแท้จริงเสียทีต่างหาก.
อย่างไรก็ตาม แม้วันนี้ผมได้สาบานตนและสัญญาว่า จะรักษาและปกป้อง ผลประโยชน์ อำนาจอธิปไตยของอเมริกา แต่ด้วยเชื้อชาติไทยในตัวตน ผมก็คงไม่ละเลยที่จะหยิบยื่นความห่วงใย และเอาใจใส่ความเป็นไปของพลเมืองไทย ในประเทศแผ่นดินเกิดของผมด้วยเช่นกัน
รักและห่วงใจพี่น้องคนไทยเสมอครับ
จอม เพชรประดับ
20 มิถุนายน 2567
( ครั้งหน้า ผมจะเขียนถึงเนื้อหาจุดเน้น ที่หากใครต้องการจะมาเป็นพลเมืองอเมริกานั้น จะต้องผ่านการเรียนรู้ ทำความเข้าใจอะไรบ้างเกียวกับการเมืองและสังคมอเมริกา และทุกความรู้ความเข้าใจนั้นจะนำไปสู่การสร้างเสริมทัศนคติความคิด ความเชื่อในหลักการสำคัญสูงสุดของประเทศอเมริกาอย่างไร...นัยยะหนึ่งคือ ชาตินิยมอเมริกาสร้างมาจากอะไร ? น่าสนใจสำหรับพลเมืองของประเทศที่ต้องการให้ประเทศของตัวเองเป็นประชาธิปไตยครับ )