Pradoem Damrongcharoen
3 days ago
·
พันคำ: มองจากสภาพสังคมไทยในปัจจุบัน อาจมองไม่เห็นภาพ ที่คนไทยเป็นเช่นนี้ได้ ต้องมีความเป็นมาเป็นไป ส่วนหนึ่งของคำเฉลยอยู่ใน
บันทึกการเดินทางของอ็องรี มูโอต์ ในราชอาณาจักรสยาม กัมพูชา ลาว และอินโดจีนตอนกลางส่วนอื่น ๆ
ของ อ็องรี มูโอต์ ชาวฝรั่งเศสซึ่งเดินทางเข้ามาสำรวจในสมัยรัชกาลที่ ๔ แห่งรัตนโกสินทร์ (ช่วงต้นพุทธศตวรรษที่ ๒๔) ความว่า
“... ผู้ด้อยกว่าจะต้องยอบกายเนื้อตัวสั่นเทาต่อหน้าผู้เหนือกว่า... แสดงทีท่าว่ายอมสยบให้
… สังคมทั้งสังคมในทุกระดับชั้น ล้วนตกอยู่ในสภาวะหมอบราบอย่างถาวรทั่วทุกหัวระแหง ทาสหมอบกราบนาย นายเล็กนายใหญ่หมอบกราบนายบ้าน ผู้นำทางทหาร พระสงฆ์ และไพร่ฟ้าทุกๆ คน ต่างหมอบกราบกษัตริย์
… การแสดงความเคารพด้วยอากัปกิริยานี้ไม่ใช่เฉพาะต่อกษัตริย์เท่านั้น แต่หมายรวมถึงต่อราชวังที่ประทับด้วย ยามใดที่พวกเขาผ่านไปทางประตูวัง ก็จะต้องแสดงความเคารพให้เห็น พวกข้าราชบริพารแถวหน้าต้องหุบกลดบังแดดของตน ไม่ก็หันหน้ายอบตัวไปทางทิศนั้น ข้างชาวเรือบนเรือนับพันๆลำที่แจวขึ้นล่องอยู่ในลำน้ำ ก็จะต้องนั่งคุกเข่า ถอดหมวกออก จนกว่าจะผ่านเลยราชวัง
ตลอดแนวกำแพงวังมีพลธนูพร้อมอาวุธกระสุนดินเหนียวยิงได้รัศมีไกลเฝ้ารักษาการณ์อยู่ตามช่องเชิงเทินคอยควบคุมให้เป็นไปตามกฎ และลงโทษผู้ฝ่าฝืน
เห็นจะต้องกล่าวเพิ่มเติมปิดท้ายว่า ประชากรที่อยู่ในสถานะหมอบราบกับพื้นเช่นนี้ นับจำนวนได้อย่างน้อยถึงหนึ่งในสาม หรือบางทีอาจถึงกึ่งหนึ่งของประเทศ ถ้าไม่นับชุมชนชาวจีน ประชากรที่ตกเป็นทาสทั้งทางกายและทางสินทรัพย์เหล่านี้น่ะหรือที่เรียกตัวเองว่าไท อันหมายถึงเสรีชน!!! …”
นำเสนอให้พิจารณา
*****
พันคำ: มองจากสภาพสังคมไทยในปัจจุบัน อาจมองไม่เห็นภาพ ที่คนไทยเป็นเช่นนี้ได้ ต้องมีความเป็นมาเป็นไป ส่วนหนึ่งของคำเฉลยอยู่ใน
บันทึกการเดินทางของอ็องรี มูโอต์ ในราชอาณาจักรสยาม กัมพูชา ลาว และอินโดจีนตอนกลางส่วนอื่น ๆ
ของ อ็องรี มูโอต์ ชาวฝรั่งเศสซึ่งเดินทางเข้ามาสำรวจในสมัยรัชกาลที่ ๔ แห่งรัตนโกสินทร์ (ช่วงต้นพุทธศตวรรษที่ ๒๔) ความว่า
“... ผู้ด้อยกว่าจะต้องยอบกายเนื้อตัวสั่นเทาต่อหน้าผู้เหนือกว่า... แสดงทีท่าว่ายอมสยบให้
… สังคมทั้งสังคมในทุกระดับชั้น ล้วนตกอยู่ในสภาวะหมอบราบอย่างถาวรทั่วทุกหัวระแหง ทาสหมอบกราบนาย นายเล็กนายใหญ่หมอบกราบนายบ้าน ผู้นำทางทหาร พระสงฆ์ และไพร่ฟ้าทุกๆ คน ต่างหมอบกราบกษัตริย์
… การแสดงความเคารพด้วยอากัปกิริยานี้ไม่ใช่เฉพาะต่อกษัตริย์เท่านั้น แต่หมายรวมถึงต่อราชวังที่ประทับด้วย ยามใดที่พวกเขาผ่านไปทางประตูวัง ก็จะต้องแสดงความเคารพให้เห็น พวกข้าราชบริพารแถวหน้าต้องหุบกลดบังแดดของตน ไม่ก็หันหน้ายอบตัวไปทางทิศนั้น ข้างชาวเรือบนเรือนับพันๆลำที่แจวขึ้นล่องอยู่ในลำน้ำ ก็จะต้องนั่งคุกเข่า ถอดหมวกออก จนกว่าจะผ่านเลยราชวัง
ตลอดแนวกำแพงวังมีพลธนูพร้อมอาวุธกระสุนดินเหนียวยิงได้รัศมีไกลเฝ้ารักษาการณ์อยู่ตามช่องเชิงเทินคอยควบคุมให้เป็นไปตามกฎ และลงโทษผู้ฝ่าฝืน
เห็นจะต้องกล่าวเพิ่มเติมปิดท้ายว่า ประชากรที่อยู่ในสถานะหมอบราบกับพื้นเช่นนี้ นับจำนวนได้อย่างน้อยถึงหนึ่งในสาม หรือบางทีอาจถึงกึ่งหนึ่งของประเทศ ถ้าไม่นับชุมชนชาวจีน ประชากรที่ตกเป็นทาสทั้งทางกายและทางสินทรัพย์เหล่านี้น่ะหรือที่เรียกตัวเองว่าไท อันหมายถึงเสรีชน!!! …”
นำเสนอให้พิจารณา
*****
เป็น 8 วิที่โคตรขนลุก นี่แหล่ะนักแสดง 🥹 pic.twitter.com/H9mMNJsTyh
— lolifroyd 🎀 (@_lolifroyd) June 21, 2024