วันอาทิตย์, มิถุนายน 02, 2567

กลไกพิเศษสหประชาชาติ ส่งหนังสือเตือนไทย ใช้ กม.อาญา ม.๑๑๒ รุนแรงเกินไป จำเพาะคดี ‘บัสบาส’ จำคุกถึง ๕๐ ปี

อีกครั้งเดียวก็จะครบเท่าจำนวนรัชกาลจักรีละนะ คำเตือนที่องค์กรเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนสหประชาชาติส่งถึงไทย ว่าบังคับใช้กฎหมายหมิ่นกษัตริย์รุนแรงมาก เกินธรรมชาติมนุษย์มะนา จำเพาะคดีที่ตัดสินจำคุก บัสบาสถึง ๕๐ ปี

หนังสือจาก UN Special Procedures หลายหน่วยร่วมกันส่งถึงรัฐบาลไทย แสดงกังวลว่าเอาอีกแล้ว “ใช้มาตรา 112 ในทางที่ผิด (abuse) โดยกีดกันและปิดปาก (deter and silence) นักวิจารณ์ ศัตรูทางการเมือง นักข่าว ภาคประชาสังคม นักปกป้องสิทธิมนุษยชน”

รวมถึง “บุคคลที่ต้องการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นสาธารณะ และการวิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์” นี่เป็นครั้งที่ ๙ ซึ่งองค์กรอันเป็นกลไกพิเศษของสหประชาชาติในด้านสิทธิมนุษยชน ส่งถึงไทยนับแต่ปี ๒๕๖๓ เป็นต้นมา

หนังสือเจาะจงระบุว่า “ดูเหมือนจะเป็นรูปแบบการคุกคามและการกลั่นแกล้งอย่างเป็นระบบ อันเนื่องมาจากการที่เขาใช้สิทธิในการชุมนุมอย่างสงบทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์” ตามข้อหาที่ มงคล ถิระโคตร ถูกพิพากษา

เมื่อ ๑๘ มกราปีนี้ ศาลอุทธรณ์ภาค ๕ พิพากษาพ่อค้าขายเสื้อผ้าออนไลน์และนักกิจกรรมในจังหวัดเชียงรายวัย ๓๐ ปีผู้นี้จากข้อหาว่าโพสต์เฟชบุ๊ค ๒๗ ครั้งช่วงเดือนมีนาและเมษา ปี ๒๕๖๔ เป็นความผิด ม.๑๑๒ และ พรบ.คอมพิวเตอร์

เฉพาะความผิดชุดนี้ ๑๔ กระทง ให้จำคุก ๒๘ ปี รวมความผิดที่ศาลชั้นต้นยกฟ้องไปแล้วในคดีก่อนหน้านี้อีก ๑๑ กระทง ๒๒ ปี เป็นโทษจำคุกทั้งหมด ๕๐ ปี ซึ่งหนังสือยูเอ็นบอกว่า การลงโทษสูงมากอย่างนี้ สร้างบรรยากาศหวาดระแวงในเสรีภาพ

(https://prachatai.com/journal/2024/05/109419)