อ่าว เป็นซะหยั่งงี้ ไอ้ ม.๑๑๒ นี่ คนฟ้องมั่วซั่วอย่างไรก็ได้ ชงไปให้ศาลตัดสินก้มหน้าก้มตา ‘ฟัน’ สถานเดียว
สรยุทธ
สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
21
พ.ค.67 นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ
ออกจดหมายชี้แจง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาจำคุก 6 เดือน
“ผมเป็นผู้แจ้งเบาะแสทุจริต แต่กลับกลายเป็นผู้ต้องหาคดีทุจริต?-
สืบเนื่องจากคดีการทุจริตซึ่งเกิดขึ้นกับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
ตามที่ปรากฏในข่าว เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2567
โดยมีผมเข้าไปเกี่ยวข้องเป็นจำเลยในคดีนี้
ผมขอชี้แจงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว
ดังนี้
1) ผมและคณะทำงานในขณะนั้น
ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเช่าที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
โดยได้ดำเนินการเป็นไปตามระเบียบและขั้นตอนตามกฎหมายตามที่เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินฯ
ได้แจ้งกับผมและทีมงานทุกประการ
แต่ต่อมาภายหลัง
ผมได้ทราบว่าเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้หลอกลวงผม
ด้วยการปลอมแปลงเอกสารของสำนักงานทรัพย์สินฯ
2) เมื่อผมได้ทราบว่าถูกเจ้าหน้าที่คนนี้หลอก
ก็แสดงความบริสุทธ์ใจ โดยรีบแจ้งข้อเท็จจริงถึงเรื่องดังกล่าวไปยังสำนักงานทรัพย์สินฯ
จนเป็นเหตุทำให้สำนักงานทรัพย์สินฯ ดำเนินคดีอาญากับบุคคลนี้
จนศาลพิพากษาลงโทษเขาพร้อมกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้อง และคดีถึงที่สุดไปแล้ว
3) ระหว่างสอบสวนคดีดังกล่าวในช่วงปี
2562 ผมยังเคยได้รับเชิญไปให้การในฐานะผู้เสียหายจากกรณีดังกล่าวด้วย
แต่เนื่องจากในขณะนั้นผมติดภารกิจสำคัญอยู่ที่ต่างประเทศ
จึงไม่ได้ไปให้การเป็นพยานกับพนักงานสอบสวน
4) ในช่วงระหว่างการดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่หลอกลวงปลอมแปลงเอกสารสำนักงานทรัพย์สินฯ
กลุ่มนี้ ตั้งแต่ในชั้นสอบสวนกระทั่งถึงในชั้นศาล
พนักงานสอบสวนไม่เคยดำเนินคดีใดๆกับผมทั้งสิ้น
5) แต่หลังจากนั้น กลับมี“นักร้อง” ไปร้องให้ดำเนินคดีผม
หาว่าผมรู้เห็นเป็นใจกับบุคคลนี้
และเป็นผู้ใช้ให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวไปกระทำการทุจริต
6) ผมขอตั้งคำถามให้ทุกท่านลองพิจารณาด้วยใจเป็นธรรม
ว่าหากผมมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดดังกล่าวจริงแล้ว เหตุใดผมจะต้องวิ่งไปแจ้งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการหลอกลวงดังกล่าว
เพื่อให้ตัวเองเดือดร้อนถูกดำเนินคดีไปด้วย?
ผมคือผู้เสียหายจากการหลอกลวงของเจ้าหน้าที่รัฐ
ไม่ใช่จำเลย
การที่ผมเป็นผู้เริ่มคดีขึ้นเสียเองด้วยการแจ้งเบาะแสการทุจริตไปยังสำนักงานทรัพย์สิน
ก็เพราะไม่อยากให้สำนักงานทรัพย์สินฯ
ได้รับความเสื่อมเสียจากการที่มีบุคลากรแอบแฝงกระทำการหลอกลวงผู้อื่นเช่นที่ผมพบเจอด้วยตนเอง
ผมเคารพในคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
แต่ผมขอใช้สิทธิต่อสู้คดีจนถึงที่สุด และพร้อมที่จะชี้แจงข้อเท็จจริง
เพื่อพิสูจน์ความสุจริตใจของผมตามครรลองของกระบวนการยุติธรรมต่อไป
สกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ
21 พฤษภาคม 2567”
https://www.facebook.com/sorrayuth9115/posts/212zsVhXZYN ภาพจากมติชนออนไลน์