วันจันทร์, สิงหาคม 14, 2566

เบี้ยผู้สูงอายุ 600 บาท ถ้วนหน้า กำลังจะถูกปล้นจากเกณฑ์ใหม่ ที่ต้องให้คนพิสูจน์ความจน


ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ระเบียบกระทรวงมหาดไทยฉบับใหม่ "หลักเกณฑ์จ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ พ.ศ. 2566" มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่ 12 สิงหาคม 2566

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงิน เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2566 ลงนามโดย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

ระเบียบดังกล่าวระบุว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุง หลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 69 และมาตรา 77 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 มาตรา 5 และ มาตรา 88 แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 มาตรา 6 และมาตรา 90 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา พ.ศ. 2542 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จึงออกระเบียบไว้ ดังนี้

ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วย หลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2566”

บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่ง ประกาศ หรือมติอื่นใด ซึ่งขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ ให้ใช้ระเบียบนี้แทน

ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจาก วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป (มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป)

สาระสำคัญของระเบียบฉบับนี้

ข้อ 4 ในระเบียบนี้ “ผู้สูงอายุ” หมายความว่า บุคคลซึ่งมีอายุหกสิบปีบริบูรณ์ขึ้นไป “เบี้ยยังชีพ” หมายความว่า เงินที่รัฐมอบให้แก่ผู้สูงอายุตามกฎหมายเพื่อใช้ในการยังชีพ

“องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” หมายความว่า เทศบาล องค์การบริหารส่วนตาบล และเมืองพัทยา “ผู้บริหารท้องถิ่น” หมายความว่า นายกเทศมนตรี นายกองค์การบริหารส่วนตาบล และนายกเมืองพัทยา

หมวด 1 คุณสมบัติของผู้มีสิทธิจะได้รับเงินเบี้ยยังชีพ

ข้อ 6 ผู้มีสิทธิจะได้รับ เงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้

(1) มีสัญชาติไทย
(2) มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
(3) มีอายุหกสิบปีบริบูรณ์ขึ้นไป ซึ่งได้ยืนยันสิทธิขอรับเงิน เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุต่อองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น
(4) เป็นผู้ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพ ตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ตามกฎหมายว่าด้วยผู้สูงอายุกำหนด
(https://www.bangkokbiznews.com/news/news-update/1083332?aoj=)
.....
Sustarum Thammaboosadee@sustarumT ·7h
เบี้ยผู้สูงอายุ600บาทถ้วนหน้ากำลังจะถูกปล้นจากเกณฑ์ใหม่ที่ต้องให้คนพิสูจน์ความจน ในขณะที่พรรคก้าวไกลเรียกร้องบำนาญถ้วนหน้า3,000 นี่คือเหตผลที่ชนชั้นนำจับมือกันถีบก้าวไกล พวกเค้ารักความเหลื่อมล้ำและเกลียดความเท่าเทียม Cr.มิตร #บำนาญถ้วนหน้า #เบี้ยผู้สูงอายุ #เพื่อการโฆษณาเท่านั้น

Sustarum Thammaboosadee
17h
·
แผนปล้นเงินคนแก่ ของรัฐทุนนิยมและรัฐราชการ
อาศัยช่วงวันหยุด
เมื่อเห็นว่า พรรคก้าวไกล - Move Forward Party ที่มีนโยบายบำนาญถ้วนหน้า จะไม่ได้ร่วมรัฐบาล
รัฐราชการจึงงัดแผนที่เตรียมมา คือการ "ตัดระบบเบี้ยผู้สูงอายุถ้วนหน้า" อันส่งผลให้ ผู้สูงอายุกว่า 6 ล้านคนจะถูกตัดออกการรับสิทธิ์ เพียงเพราะมีบ้าน มีรถ มีที่ดิน หรือมีลูกหลาน-มีแนวโน้มจะใช้เกณฑ์เดียวกับ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ส่งให้คนกลับสู่วังวนยากจน
คือความเห็นของทั้ง กระทรวง พม. สอดรับกับกระทรวงการคลัง กับการไม่มองว่าชีวิตคนสำคัญกว่าตัวเลข
.
เบี้ยผู้สูงอายุถ้วนหน้าพิสูจน์มาแล้วว่าสามารถช่วยคนแก่ที่จนที่สุดได้ดีกว่าระบบสงเคราะห์ งบประมาณที่ใช้อยู่ปัจจุบัน ประมาณ 80,000 ล้านบาท หรือ 2%ของงบรายจ่ายประจำปีเท่านั้น
.
ตอนนี้นอกจากเราจะไม่ได้บำนาญถ้วนหน้า 3,000 เบี้ย 600ก็ยังไม่ได้ต่อไปต้องต่อแถวประจานความจนเหมือนหลายสิบปีก่อน
.
ผมเชิญชวนให้ประชาชนผู้โกรธแค้น ประชาชนผู้คาดหวังอนาคต ร่วมกันส่งเสียงต่อต้าน ไม่ให้รัฐบาลใหม่ ทำลายหลักประกันของประชาชน
.
ส่วน พรรคประชาชาติ Prachachat Party และ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ที่แถลงจุดยืนเรื่องรัฐสวัสดิการมาตลอดและตอนนี้มีแนวโน้มร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทยและพรรคสืบทอดอำนาจเผด็จการ ผมเรียกร้องให้ กีดขวางเรื่องนี้ หรือไม่ก็ปฏิเสธการร่วมรัฐบาล ที่ปล้นเงินคนสูงวัยอย่างไม่เห็นหัวประชาชน
.
#บำนาญถ้วนหน้า
·
เชิญชวน คัดค้าน การทำลายบำนาญประชาชน เมื่อวันที่ 12 ส.ค. 66 ที่ผ่านมารัฐบาลรักษาการได้ออกระเบียบกระทรวงมหาดไทย ยกเลิก ระบบเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบ “ถ้วนหน้า” เปลี่ยนเป็นระบบ “อนาถา” ต้องพิสูจน์ความจนก่อนรับ อาจทำให้ผู้สูงอายุมากกว่า 6 ล้านคนไม่ได้เงินส่วนนี้อีกต่อไปเพราะติดเงื่อนไขยังจนไม่พอ #บำนาญประชาชน เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ในสังคมไม่ใช่เศษเงินที่ชนชั้นปกครองจะมาทำเล่น นึกจะโยนให้ก็โยนนึกจะไม่ให้ก็ไล่ให้ไปทำตัวให้จนก่อน
.
ขอแสดงจุดยืนคัดค้านเปลี่ยนระบบเงินผู้สูงอายุประชาชนจากถ้วนหน้าให้ทุกคนเป็นระบบ “อนาถา”สภาวะเศรษฐกิจสังคมแบบนี้ยิ่งต้องเพิ่มจาก 600 เป็น 3,000 บาทถ้วนหน้าด้วยซ้ำ