ขณะที่ สมบัติ บุญงามอนงค์ ประกาศวันที่ ๒๓ กรกฎาคมนี้ เป็นวันรองเท้าผ้าใบ ‘พร้อม’ และนัดสถานที่จุดหมาย ‘แยกอโศก’ สน.ปทุมวันก็ขยับ ยื่นศาล “ยกเลิกปล่อยตัวชั่วคราวทนายอานนท์ @arnonnampa กล่าวหาว่าทำผิดเงื่อนไขประกันตัว”
ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในม็อบ ๑๙ กรกฎา อานนท์ขึ้นปราศรัย “สิ่งที่เขากลัว คือกฎหมายที่เปลี่ยนแปลงโครงสร้าง กลัวทำให้ทหารอยู่ใต้พลเรือน กลัวการตรวจสอบ กลัวเราจะเอาประวัติศาสตร์ ๖ ตุลา ประวัติศาสตร์ ใครฆ่า ร.๘ บรรจุในตำราเรียน เขากลัวตรงนี้”
ด้าน บก.ลายจุด ออกรายการไล้ฟ์กับ ‘แยม’ ฐปณีย์ เอียดศรีไชย บอกว่าจัดม็อบ ๒๓ กรกฎา เป็นแบบ ‘สาระบันเทิง’ หวังว่าจะมีกลุ่มย่อยๆ คิดรายการของพวกตนมาแสดงแต่ละวงไป กำลังประสานนำ ‘หมูกระทะ’ มาให้ตั้งวงเป็นกระสาย
ส่วนเนื้อหาอยากให้เป็นต้นแบบหรือจุดประกาย สำหรับม็อบอื่นๆ ตามพื้นที่ต่างจังหวัดสืบไป ในแถลงการณ์เขาอ้างถึง การกระทำของพวก สว. “ขัดแย้งต่อเจตจำนงและสาระสำคัญ ในหลักประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ” (กรณี ๑๓ กรกฎา)
มาเห็นจะแจ้งแห่งการกระทำนั้น ในวันที่ ๑๙ ก.ค.ที่ใช้เล่ห์กล นำเอามาตรา ๔๑ มาตีความหลักการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ว่าเสนอชื่อแคนดิเดทอีกครั้งไม่ได้ หลายคนโกรธประธาน ‘วันนอร์’ ว่าสมรู้ร่วมคิด แต่ที่จริงแก ‘แหยง’ มากกว่า
สแกนโซเชียลวันนี้เจออารมณ์ขึ้งจำนวนมาก แต่มาสะดุดที่คำถามหนึ่ง “ถ้าม็อบจุดไม่ติด จะเหลือทางสู้อะไรอีก” นะจังงังไปบ้างเหมือนกัน พอดีมีคำตอบ (โดยบังเอิญ) จาก Pannika Wanich @Pannika_FWP เขียนว่า
“นี่ไม่ใช่เวลาของการท้อแท้ นี่ไม่ใช่เวลาของการร้องไห้ นี่คือเวลาของการต่อสู้ ประโยคนี้เคยพูดในวันยุบพรรคอนาคตใหม่ วันนี้หนังเรื่องเดิมกำลังเริ่มฉายซ้ำ ผู้กำกับคนเดิม แต่จะต้องจบไม่เหมือนเดิม”
ใช่ จบไม่เหมือนเดิม เรามากันไกลอักโขแล้ว