ดูแถลงการณ์จากพรรคเพื่อไทย ที่เพิ่งออกมาวันนี้ หลังจากที่พรรคก้าวไกล แถลงไปก่อนหน้าว่า “เปิดทางพรรคอันดับสองตั้งรัฐบาล พร้อมเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ จากเพื่อไทย” แล้วทำให้เกิดความรู้สึกว่า คงต้องมีการเจรจากันอีกเยอะ
“เบื้องต้นพรรคเพื่อไทยจะได้หารือกับ ๘ พรรคการเมืองเดิม เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น” ประโยคนี้ดูเหมือนจะยังปรับจูนคลื่นความถี่ไม่ลงร่องดีนักกับ ‘เอ็มโอยู’ เดิม ๘ พรรคที่ร่วมตั้งรัฐบาลโดยมีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ
ข้อ ๒ ในแถลงการณ์พรรคเพื่อไทย ระบุว่า “ข้อตกลง ๘ พรรคการเมืองเดิม” สามารถรวบรวมเสียงได้เพียง ๓๑๒ แล้ว “เสียงส่วนใหญ่ในรัฐสภาไม่เห็นชอบ เนื่องจากมีเงื่อนไขสำคัญที่เกี่ยวกับประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒”
เป็นที่รู้กันแล้วว่า เงื่อนไขดังกล่าวไม่อยู่ในเอ็มโอยู แต่พรรคก้าวไกลขอสงวนไว้สำหรับพรรคของตนเท่านั้น ที่จะเสนอเข้าสู่การอภิปรายในสภา การแลกเปลี่ยนความเห็นที่พรรคเพื่อไทยระบุ จะอยู่ที่กรณีแก้ไข ม.๑๑๒ นี้ละมัง
เพื่อที่จะนำไปสู่เป้าหมายข้อ ๓ ในแถลงการณ์เพื่อไทย คือ “มีความจำเป็นต้องหาเสียงสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภาเพิ่มเติม เพื่อให้ได้เสียงเกินกว่า ๓๗๕ เสียง” ทั้งนี้โดย “ขอเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา และจากพรรคการเมืองอื่นๆ”
ซึ่งเป็นที่รู้ๆ กันอยู่อีกเหมือนกัน ว่าเสียงสนับสนุนเหล่านั้น เป็นเสียงที่คว่ำการจัดตั้งรัฐบาลพรรคก้าวไกล โดยอ้าง ม.๑๑๒ ซึ่งแถลงการณ์ของก้าวไกลบอกว่า “เอาเรื่อง ม.๑๑๒ มาบังหน้า และอ้างความจงรักภักดีมาปะทะกับการเลือกตั้งของประชาชน”
ดังนี้ “การแลกเปลี่ยนความเห็น” ที่เพื่อไทยว่า จึงอยู่ที่การขอให้พรรคก้าวไกลยกเลิกนโยบายแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ ซึ่งกล่าวกันว่า ทำให้พรรคก้าวไกลได้รับเลือกตั้งมากเป็นอันดับ ๑ นั่นเอง
(https://twitter.com/PheuThaiParty/status/1682284607755141128 และ https://twitter.com/MFPThailand/status/1682254807351058432)