เอ้า มาอีกคนพวกแก่พรรษา อยู่มานาน ๔๐ ปี แถมมี ๓ ปริญญา ทั้งตรีโทเอก และเอกด้านกฎหมายเสียด้วย เฉลิม อยู่บำรุง ตั้งปุจฉา “หากคนรุ่นเก่ายังมีสติปัญญา มีความรู้ดีกว่าคนรุ่นใหม่ แล้วจะเอาคนรุ่นเก่าไปไว้ที่ไหน” โถปู่ก็คงลืมไป
สติปัญญาศตวรรษที่ ๒๐ กับ ๒๑ ไม่เหมือนกัน ไม่ใช่ใครเก่งกว่าดีกว่าใคร แต่ไม่เหมือนกันเข้าใจไหม จะเอาบริบทสมัยโน้นมาใช้กับสมัยนี้ไม่ได้ โดยเฉพาะในประเด็นที่ว่าเป็น “ด็อกเตอร์ออฟลอว์” พวกด็อกแบบนี้ใช้มาตราไม่ตรงเนื้อในเยอะแยะ
ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองจะติดหล่มจมปลักมานานขนาดนี้เหรอ เพราะติดยึดแต่กับของโบราณ โดยเฉพาะมุ่งแต่จะดูแคลนฝักฝ่ายที่มีความเห็นไม่ตรง หรือในทางกลับกัน ตนเองไล่ตามพลวัตแห่งยุคสมัยไม่ทัน แล้วดันไปว่าเขาเสียอีก
หารู้ไม่ว่าการมีวิสัยทัศน์แบบนั้น ‘งั่ง’ ยิ่งกว่า หาว่า “พรรค ก.ไก่ อะไรก็เอาแต่พรรคตัวเอง” เรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ ที่ก้าวไกลต้องการเพื่อเป็นหลักประกันไม่โดน ‘วิชามาร’ ช่วงชิงปัดตกร่าง กม.ขจัดความเหลื่อมล้ำที่ประชาชนสนับสนุน
มีวิเคราะห์ออกมาชี้ให้เห็นท่าทีป่วนข้อเสนอในการเจรจาตัวแทน ๘ พรรค ที่เพื่อไทยจะไม่เอาตำแหน่งประธานสภา แต่ได้รองประธานฯ ทั้งสองตำแหน่ง ซึ่ง อดิสร เพียงเกษ โวยวายไปแล้วถึงขนาดจะงดออกเสียง ถ้าไม่ได้อย่างหวัง
นั่นคือ เฉลิมกับอดิสรเคยกระเสือกกระสนด้วยกันอยู่ในพรรคมวลชน อุ้มชูกันมา ร่วมหัวบ้าง แยกทางบ้าง กระทั่งมาอยู่ด้วยกันที่เพื่อไทยล่าสุด ฉะนั้นไม่แปลกที่เฉลิมจะป่วนข้อตกลงรัฐบาลผสม ในทางเดียวกับอดิสร ที่ว่าบวชนานพรรษาแก่นั่นแหละ
ทว่าลึกกว่านั้นคงเป็นแนววิเคราะห์ของ ธนพร ศรียากูล ปริญญาเอกเท่ากับเฉลิมนั่นละ ให้ความเห็นกับ อ๊อฟ ชัยนนท์ ในรายการ ‘เดอะ สแตนดาร์ด นาว’ ว่า ‘ป๋าเหลิม’ เสริมอดิสรเนี่ย “ถ้าเกมนี้เพื่อต้องการเอาตำแหน่งประธานสภาจริง
เกมมันจะไม่โฉ่งฉ่างแบบนี้ มันจะเงียบกริบเลย แล้วไปหักกันในวันลงมติ แต่อันนี้มันคือต้องการต่อรองเก้าอี้กันภายในพรรคเพื่อไทย ไม่เกี่ยวกับก้าวไกล”
เขาว่าถ้าเพื่อไทยแลนด์สไลด์มาอันดับหนึ่ง จะไม่มีปัญหาแบบนี้ “แต่บังเอิญเป็นพรรคอันดับสอง ตำแหน่งมีน้อย
ถ้ายืนคอยก็นานหน่อย ฉะนั้นลุงแก่แล้ว ขอลุงก่อน ก็ต้องออกเสียงเจี๊ยวจ๊าวแบบนี้” ไง
(https://thestandard.co/thestandardnow220666/ และ https://ch3plus.com/news/political/ch3onlinenews/354341)