วันพุธ, พฤษภาคม 31, 2566

โถตูบ “มันไม่สมควร” ยังไงล่ะ ในเมื่อ “หน่วยงานราชการเชิญมาเอง...ทำให้ประชาชนมีความหวัง”

โถตูบ เคยอยู่แต่กับในรั้วในค่าย ไม่เคยเห็นภาคเอกชนเขาทำงานกันแบบนี้ ลงไม้ลงมือตั้งแต่ไก่โห่ ยังไม่ถึงการโหวตเลือกตัวนายกฯ เขาก็เดินสายไปรับฟังปัญหาหลายแห่งแล้ว ไม่ต้องค้อนขวับ ทำมึนตึงใส่ก็ได้น่า หรือว่าแอบคิดอะไรอยู่

นักข่าวก็ช่างถามเซ้าซี้ จี้ใจดำ “เหมือนมีนายกฯ ซ้อน” ไหมล่ะ ไปคุยกับสมาคมผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ทำคะแนนเพิ่มอีกตั้ง ไหนจะ #ยกเลิกเกณฑ์ทหาร กันละ แถมเข้าไปดู ศอ.บต.เตรียมงานรื้อเจรจาสันติสุขใหม่ ตูบก็ฉุนสิ

แต่ต้องพยายามเก็บปากเก็บคำ หลุดออกมาแค่ “ก็ทำให้ได้ก็แล้วกันน้อ” เรื่องเกณฑ์ทหาร ส่วนทรานซิชั่นทีม หรือเรื่องคณะเตรียมการเปลี่ยนผ่าน ที่เพิ่งตั้งท่ามกลางบรรยากาศชื่นมื่น เลยทำให้ออกอาการเล็กน้อย “มันไม่ควร

มันไม่สมควร ส่วนราชการเขายังอยู่กับรัฐบาลปัจจุบัน วันหน้าเขาก็เตรียมข้อมูลต่างๆ ส่งมอบ ซึ่งผมก็ย้ำไปหลายครั้งแล้ว” แท้จริงเพราะเขาพร้อมแล้วไง ถึงได้เชิญว่าที่นายกฯ ไปคุย อย่างที่ พิธา โต้ทันควัน ไม่ได้กระหือรือแต่อย่างใดเลย

ก็ “หน่วยงานราชการเชิญมาเอง...ไม่เคยไปละลาบละล้วงสั่งงาน” อย่างที่ตูบเป็นห่วงเสียหน่อย ไม่ได้เป็นภาระต่อราชการสักนิด แต่กลับ “ทำให้ประชาชนมีความหวัง” ใครๆ เขาก็ดีใจทั้งนั้น ว่าที่รัฐบาลก้าวไกล ว่องไวรวดเร็ว

ดูรายชื่อกรรมการประสานงานเปลี่ยนผ่าน แต่ละคนจากทุกพรรคร่วม ล้วนขันแข็งทั้งนั้น ศิริกัญญา ตันสกุล เผ่าภูมิ โรจนสกุล ทวี สอดส่อง อนุดิษฐ์ นาครทรรพ วิรัตน์ วรศสิริน กัณวีร์ สืบแสง วสวรรธน์ พวงพรศรี และเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ

แล้วยังมีคณะทำงานย่อยลงไปเฉพาะเรื่องอีก ๗ คณะ ซึ่งบุคคลากรล้วนมาจาก ๘ พรรคร่วมทั้งนั้น อย่าว่าแต่เตรียมการเข้าบริหารบ้านเมือง อย่างจงใจแน่วด้วยความจริงจังสูงเท่านั้น งานตรวจสอบของฝ่ายค้านก็ยังแข็งขันไม่มีการเกียร์ว่าง

ดูได้จากการจับส่วยของ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร นั่นสิ ที่ตูบอ้างว่าได้สั่งการไปแล้ว เพิ่งมาเห็นผลเอาตอนที่ จิรภพ ภูริเดช ผู้การฯ ทางหลวง มะงุมมะงาหราไม่ไหว สั่งย้ายซะแล้ว นี่ก็ ส่วยสติกเกอร์ล็อตเตอรี่ อีกอย่าง หลังถูกวิโรจน์เปิดก็พบว่า “มีอยู่จริง”

ทีม กรรมกรข่าว ลงพื้นที่ไปเจอที่ตลาดปากน้ำ ไม่ได้ใช้ภาพการ์ตูนเหมือนส่วยรถบรรทุก แต่ใช้ข้อความ “คุณ...(ชื่อคน)” และคำ “ซีฟู้ด” พร้อมอักษรย่อ เดือน ปี เพื่อที่จะได้ไม่โดนจับปรับเรื่องขายเกินราคาครั้งละหลายพัน แต่ยอมเสียส่วยแค่เดือนละ ๘๐๐ บาท

ในรายการ คุยนอกจอ ของ กรรมกรข่าว วิโรจน์บอก เตรียมลุยต่อ รถตู้-แรงงานต่างด้าว-ศุลกากร ครบเครื่องเรื่องส่วยกันเลยเชียวละ

(https://www.facebook.com/asatreerat/posts/SZ3FUxrol และ https://www.facebook.com/watch?v=1188179158538792)


 

ใครถ่ายรูปนี้วะ


joe black @joe_black317 ·8h
สังเกตถสีหน้าของ เลขาฯประเสริฐ์กับพี่ภูมิธรรม ตอนพิธากับหมอชลน่าน จับมือโอบคอกัน


 


ดูคลิปนี้แล้วจะเข้าใจ รัฐสวัสดิการสำคัญไฉน



คุณยายวัย 95 ปี ขายผัดไทยประทังชีวิต

เรื่องเล่าเช้านี้

May 30, 2023 

ชีวิตไม่เคยท้อ! ชื่นชมคุณยายวัย 95 ปี ยึดอาชีพขายผัดไทยหาเลี้ยงชีพ เผยเหลือตัวคนเดียว แม้อายุมากแต่ต้องเข็นรถไกล 1 กม. ออกจากบ้าน ส่วนใจยังสู้ไม่ยอมแพ้โชคชะตา

LIVE! แถลงข่าวผลประชุม 8 พรรคร่วม ทิศทางการจัดตั้งรัฐบาล และคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านฯ

LIVE! แถลงข่าวผลประชุม 8 พรรคร่วม ทิศทางการจัดตั้งรัฐบาล และคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านฯ

VOICE TV

Streamed live 11 hours ago

https://www.youtube.com/watch?v=5PkXelBJxr4

มาทำความรู้จัก ชัยธวัช ตุลาธน...คนหลังม่าน คีย์แมนการเมืองก้าวไกล ให้มากขึ้น

 
.....

ชัยธวัช ตุลาธน - Chaithawat Tulathon ·
June 19, 2020
·
[ #saveวันเฉลิม #saveโรม: เมื่อรัฐเป็นภัยต่อความมั่นคงของประชาชน ]
.
เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2563 ผมเป็นตัวแทนของพรรคก้าวไกลไปร่วมเวทีเสวนาเรื่อง "ตามหาวันเฉลิม: ตามหาหลักประกันความปลอดภัยของประชาชนจากการถูกบังคับสูญหาย (และทรมาน)" ในโอกาสนั้น ผมได้ตั้งข้อสังเกตว่า หลังจาก Rangsiman Rome - รังสิมันต์ โรม ลุกขึ้นตั้งกระทู้ถามรัฐบาลต่อกรณีการอุ้มหายคุณวันเฉลิม ก็มีคนพูดกันว่า สงสัยคงต้องออกมาช่วยกัน #saveโรม ด้วย กรณีนี้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ประชาชนในประเทศนี้รู้ดีว่า หากเราไปแตะต้องผู้มีอำนาจ หากเราไปแตะต้องการกระทำผิดของรัฐ เราจะไม่มีความปลอดภัยในชีวิตอีกต่อไป
.
สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนว่าประชาชนรับรู้โดยไม่ต้องพูดกันว่า เรามีระบบกฎหมายและวัฒนธรรมที่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่รัฐละเมิดสิทธิประชาชนได้โดยไม่ต้องรับผิด
.
ยิ่งไปกว่านั้น นับตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา รัฐไทยยังได้เผยแพร่ความคิดว่ามีประชาชนบางกลุ่มเป็น “ภัยต่อความมั่นคง” เป็นภัยต่อสถาบันหลักของชาติออกมาอย่างต่อเนื่อง มีการสร้างความเชื่อมโยงใส่ร้ายเรื่องผังล้มเจ้าที่นำไปสู่การล้อมปราบผู้ชุมนุมเสื้อแดงในปี 2553 และหลังรัฐประหาร 2557 มีการออกคำสั่งเรียกให้ประชาชนจำนวนมากไปรายงานตัวต่อคณะรัฐประหาร มีการดำเนินคดีในฐานความผิดเรื่องความมั่นคง เกิดคลื่นผู้ลี้ภัยทางการเมืองระลอกใหญ่อีกครั้งนับตั้งแต่หลังรัฐประหาร 6 ตุลาคม 2519 ตลอดจนมีการทำร้ายร่างกายนักกิจกรรมและประชาชนที่ออกมาต่อต้านคณะรัฐประหาร ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่สามารถนำตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษได้
.
นี่คือปรากฏการณ์และบริบทแวดล้อมที่แสดงให้เห็นว่ารัฐไทยกำลังมอง “ประชาชน” เป็น “ศัตรู” ราวกับยังอยู่ในยุคสงครามเย็น และในกรณีการอุ้มหายคุณวันเฉลิมยิ่งตอกย้ำความรู้สึกของประชาชนที่ว่า เจ้าหน้าที่รัฐและผู้มีอำนาจในรัฐไทยเป็น “ภัยต่อความมั่นคงของประชาชน” ประชาชนไม่สามารถไว้วางใจได้ว่าจะมีอะไรเป็นหลักประกันถึงสิทธิเสรีภาพในชีวิตและร่างกายของพวกเราบ้าง
.
กรณีคุณวันเฉลิมจึงเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทุกคน ที่ผ่านมาผู้มีอำนาจในรัฐเชื่อว่าประชาชนจะไม่กล้าพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ และเรื่องจะเงียบไปเองในที่สุด เราต้องกล้าที่จะไม่เงียบ และช่วยกันสร้างระบบกฎหมายที่เป็นหลักประกันว่ารัฐและเจ้าหน้าที่รัฐจะไม่สามารถกระทำการใดๆ อันเป็นการละเมิดชีวิตและร่างกายของประชาชนได้โดยไม่ต้องรับผิดอีกต่อไป
.
#ก้าวไกล #ประชุมสภา #saveวันเฉลิม #saveโรม


 

แฉส่วยทางหลวง เปิดเกมก่อนเปิดสภาฯ | มุมการเมือง | 29 พ.ค. 66


Thai PBS
1d
.
"วิโรจน์" แฉส่วยทางหลวง เปิดเกมก่อนเปิดสภาฯ | มุมการเมือง
.
ประเด็นร้อนที่มีการพูดถึงในโลกโซเชียล เริ่มที่ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร โพสต์ด้วยความสงสัยว่า สติ๊กเกอร์ หลากหลายภาพ เช่น รูปพระอาทิตย์ กระต่าย ใบไม้ ที่ติดอยู่หน้ารถบรรทุก ติดไว้ทำอะไร และในรูปเหล่านี้ มีตัวเลข ระบุอยู่ด้วย ทำให้หลายคนมาคอมเมนต์
.
ในลักษณะที่เข้าใจได้ว่า เป็นใบผ่านทาง ตัวเลขคือเดือน เป็นสติ๊กเกอร์ สัญลักษณ์ของการจ่ายส่วย รายเดือน 3,000- 5000 บาทต่อเดือน ปีหนึ่งกว่า 20,000 ล้าน
.
บ้างก็บอกว่า เป็น VIP Easy Pass หรือไม่ แบบโบกได้แต่ห้ามถาม ไม่ต้องผ่านด่านชั่งน้ำหนัก ด้านการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ออกมาโพสต์ ชี้แจงว่า รถบรรทุกไม่สามารถผ่านช่องทาง Easy Pass ได้
.
และยังมีแชทไลน์ ที่หลุดออกมา ในลักษณะให้แกะสติ๊กเกอร์ออกทุกคันพอเรื่องแดงออกมาติดเพื่ออะไร ติดไว้ทำไม เมื่อมีข้อมูลแบบนี้ จะดำเนินการอย่างไรต่อ
.
พูดคุย กับวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล

ยัน มาร์ฉัล โพสต์ ตกใจและเสียใจที่รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางถูกตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเนื่องจากกดไลค์โพสต์เค้า - ??


ยัน มาร์ฉัล - Yan Marchal
4h
·
ผมตกใจและเสียใจที่รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางถูกตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเนื่องจากกดไลค์โพสต์ผม
การมี "คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง" ที่สบส่วนความจงรักภักดีต่อลัทธิบูชาบุคคล มันเป็นดิสโทเปียเหมือนกับหนังสือของ จอร์จ ออร์เวลล์ ว่าไม่แยกแยะระหว่างลัทธิกับความเป็นจริง
มันเป็นการลงโทษหนักตามอำเภอใจจากรัฐบาลที่อีกไม่กี่เดือนจะออกไปแล้ว ผมรู้สึกว่าเนื้อหาของผมเป็นเพียงแค่ข้ออ่างในเหตุการณ์นี้ เพื่อที่จะให้คนใดๆแก้แค้นต่อคนอื่น
อย่างไรก็ตาม แม่กระตังว่าผมชอบที่มีคนเยอะที่มากดไลค์ค กดแชร์ และแสดงความคิดเห็น ผมแนะนำให้ผู้มีตำแหน่งทุกคนต้องระมัดระวังนะครับ ผมไม่อยากให้คนบริสุทธิ์ใดๆมีปัญหาเพราะตอบสนองเนื้อหาของผมครับ

Somsak Jeamteerasakul
5h
·
กดไลค์ถูกสืบสวนข้อเท็จจริง!?
นายจำลักษ์ กันเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ถูกตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเนื่องจาก "มิได้จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยได้แสดงพฤติการณ์ในที่สาธารณะทางเฟซบุ๊กว่า ถูกใจในเพจนี้ ถูกใจกับนายยัน มาร์ฉัล ชาวฝรั่งเศส..."



Nithiwat Wannasiri
1h
·
ไอ้ปลัด"เก่ง สุทธิพงษ์" นี่ตัวแสบ สลิ่มแปดริ้ว ข้าราชการฝ่ายขวาจัดล่าแม่มด และแบ็คหนาเมียรวย
แต่ไอ้สิ่งที่มันทำเนี่ย การไปตั้งกรรมการสอบรองผู้ว่าลำปางแค่เพราะกดไล้ค์เพจ ยัน มาร์ฉัล - Yan Marchal เนี่ย มันไม่ทำให้คนรักสถาบันมากขึ้นหรอก แต่มันสร้างความหวาดกลัวในหมู่ข้าราชการและฝังความเกลียดชังสถาบันให้ลึกลงไปอีก มีโอกาสเมื่อไหร่ข้าราชการที่เขาโกรธแค้นเขาคงไม่ปล่อยระบอบนี้ไว้แน่

การที่ใครจะฟ้องใครต่อศาลอาจจะเป็นการใช้สิทธิโดยสุจริต หรืออาจจะเป็นเพียงการฟ้องโดยไม่ได้หวังที่จะชนะคดี แต่ต้องการปิดปากคนที่ถูกฟ้องให้ต้องเสียเวลา เสียเงินเสียทองไปกับการต่อสู้คดี - ข้อเรียกร้องต่อศาลกรณีฟ้องปิดปาก (SLAPP)


Thawat Damsa-ard is feeling hopeful.
Yesterday
·
**ข้อเรียกร้องต่อศาลกรณีฟ้องปิดปาก (SLAPP)**
การที่ใครจะฟ้องใครต่อศาลอาจจะเป็นการใช้สิทธิโดยสุจริต หรืออาจจะเป็นเพียงการฟ้องโดยไม่ได้หวังที่จะชนะคดี แต่ต้องการปิดปากคนที่ถูกฟ้องให้ต้องเสียเวลา เสียเงินเสียทองไปกับการต่อสู้คดี บางครั้งเป็นเวลาหลาย ๆ ปี จนหลายคนเลือกที่จะปิดปากไม่พูดในเรื่องนั้น ๆ บรรลุวัตถุประสงค์ในการฟ้องปิดปาก
จึงเป็นการยากที่จะไปห้ามไม่ให้ใครฟ้องเสียตั้งแต่ต้น และยากทีจะขอให้ศาลไม่รับฟ้อง
แต่หลังจากที่คดีดำเนินไป มีการสืบพยานทั้งสองฝ่ายจนเห็นได้ว่าการฟ้องคดีนั้นเป็นการใช้สิทธิทางศาลโดยสุจริต หรือเป็นแค่การฟ้องปิดปาก ผู้ทำหน้าที่เป็นศาลก็น่าจะทำอะไรได้มากไปกว่าเพียงพิพากษายกฟ้อง ไม่ว่าจะทั้งในคดีแพ่งและคดีอาญา
ราวสามปีก่อน ผมเป็นทนายให้จำเลยหลายคนที่ถูกบริษัทยักษ์ใหญ่รายหนึ่งฟ้องคดี ในสายตาของเราเห็นว่าคดีมันไม่มีมูลเลยแม้แต่น้อย แต่โจทก์ยังนำคดีมาฟ้องต่อศาล
หลังจากคดีดำเนินไปเป็นปี สุดท้ายศาลก็ยกฟ้องจำเลยทุกคน แต่ศาลในคดีดังกล่าวทำอะไรที่มากกว่าการพิพากษายกฟ้อง โดยที่ตอนหนึ่งของคำพิพากษาระบุว่า
“แต่การที่โจทก์กล่าวอ้างว่าจำเลยทำผิดสัญญาหรือละเมิดโดยไม่มีพยานหลักฐานใน ๆ มานำสืบ หรือหวังให้จำเลยดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนเป็นการส่วนตัว และเสื่อมเสียต่อชื่อเสียงที่ต้องถูกดำเนินคดีในศาล จึงเห็นสมควรให้โจทก์ต้องรับผิดชอบในเรื่องค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดีของบุคคลดังกล่าวตามควร โดยกำหนดค่าทนายความให้แก่จำเลยที่ 1ถึงที่ 9 จำนวน 500,000 บาท จำเลยที่ 10 ถึง 18 จำนวน 1,000,000 บาท จำเลยที่ 19 ถึงที่ 20 จำนวน 300,000 บาท และจำเลยที่ 21 ถึงที่ 23 จำนวน 200,000 บาท”
คนที่เป็นทนายมานานคงจะเห็นว่าจำนวนค่าทนายที่ศาลในคดีดังกล่าวสั่งให้โจทก์จ่ายให้จำเลยนั้นสูงมากทีเดียว แต่ก็เป็นเรื่องเล็กของโจทก์ที่เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในตลาดและไม่ใช่ประเด็นที่ผมต้องการสื่อ
หากแต่ข้อความที่ศาลระบุว่า “แต่การที่โจทก์กล่าวอ้างว่าจำเลยทำผิดสัญญาหรือละเมิดโดยไม่มีพยานหลักฐานใน ๆ มานำสืบ หรือหวังให้จำเลยดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนเป็นการส่วนตัว และเสื่อมเสียต่อชื่อเสียงที่ต้องถูกดำเนินคดี” นั้นย่อมมีคุณค่าต่อกระบวนการยุติธรรมเพราะเป็นการที่ศาลกำหนดบรรทัดฐาน (norm) และประกาศว่า ศาลยุติธรรมเห็นเช่นไร และจะไม่อดทนต่อการฟ้องปิดปาก ซึ่งเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต
เป็นข้อเรียกร้องที่ทำได้

เบนซ์หรูนี้ ท่านได้แต่ไดมา


 

11 เหตุผลที่การเลือกตั้ง 2566 หักปากกาเซียน


Thanapol Eawsakul
22h
·
11 เหตุผลที่การเลือกตั้ง 2566 หักปากกาเซียน
.....
ขณะที่การเลือกตั้ง 2562 หักประกาศเซียนที่พรรคอนาคตใหม่มาเป็นอันดับ 3 ได้ 81ที่นั่ง
การเลือกตั้ง 2566 หักประกันเซียนยิ่งกว่าเมื่อพรรคก้าวไกลได้มาเป็นอันดับที่ 1 จำนวน 151 ที่นั่ง
ผมลองประมวล 11 เหตุผลมาดังนี้
1..ความเชื่อที่ว่าระบบเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบจะทำให้พรรคเพื่อไทยชนะแลนด์สไลด์ (ขณะที่พรรคก้าวไกลจะได้น้อยกว่า 50 ที่นั่ง) หลังปิดหีบเลือกตั้ง
เศรษฐา ทวีสินก็ยังเชื่อว่าเพื่อไทยได้มากกว่า 200 ที่นั่ง โดยก่อนหน้านั้น 2 วันเชื่อว่าได้ 280 ที่นั่งเป็นอย่างน้อย
2. ความเชื่อที่ว่านโยบายเศรษฐกิจและผลงานในอดีต จะเป็นตัวรับประกันว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะแลนด์สไลด์ "นโยบายที่ดีใครก็พูดได้ แต่พรรคที่ทำได้คือพรรคเพื่อไทย"
ความคิดดังกล่าวเราจะได้เห็นจากหมอมิ้ง พรหมมินทร์ เลิศสุริเดชแทบทุกเวที
3. ประเมินผลของนโยบายแจกเงิน 10,000 บาทสำหรับคน 16 ปีขึ้นไปของพรรคเพื่อไทย สูงเกินไป โดยเฉพาะในชนบท
(ลองกลับไปดูบทวิเคราะห์ของเซียนการเมืองช่วงที่เศรษฐา ทวีสินประกาศ ตัวเลขเมื่อวันที่ 5 เมษายน)
4. ความเชื่อที่ว่านโยบายและจุดยืนทางการเมืองจะขายไม่ออก ส่งผลต่อการประเมินความเกลียดที่มีต่อประยุทธ์และประวิตรต่ำเกินไป
การที่พรรคเพื่อไทยไม่มีความชัดเจนมากเพียงพอต่อประวิตร ขณะที่พรรคก้าวไกล ประกาศชัดเจนว่ามีลุง ไม่มีเรา กลายเป็นจุดแตกต่างอย่างมีนัยยะสำคัญ
5. ประเมินผลงานของพรรคก้าวไกลต่ำเกินไปโดยเฉพาะผลงานในสภา ทั้งการเสนอกฎหมายและการอภิปรายที่สามารถเจาะกลุ่มต่างๆได้ชัดเจน
6. ทักษิณประเมินความสำคัญของตัวเองสูงเกินไปโดยเฉพาะประเด็นกลับบ้านมาติดคุกและการกลับมารับใช้เจ้านายที่คาดว่าจะส่งผลให้คะแนนพุ่งถล่มทลาย
7. ประเด็นการจัดวางตำแหน่งแห่งที่ของสถาบันกษัตริย์ ผ่านมาตรา 112 มีความสำคัญต่อการตัดสินใจ ดังเห็นได้จากทุกเวทีในการดีเบตต้องมีการสอบถามเรื่องประเด็น 112
(แม้หลังการเลือกตั้งในการแถลงเรื่อง MOU คำถามส่วนใหญ่ก็ยังวนอยู่ที่ 112)
8. กำเนิดหัวคะแนนธรรมชาติผ่านโซเชียลมีเดียโดยเฉพาะเพลทฟอร์มติ๊กต๊อก ที่สามารถนำนโยบายและจุดยืนทางการเมืองของพรรคก้าวไกล มาขยายผลต่อ ด้วยปริมาณที่มากกว่าพรรคการเมืองอื่นๆอย่างชัดเจน
9. ชาติกำเนิดและการส่งต่อความนิยมผ่านทางสายเลือดของตระกูลชินวัตร เสื่อมมนต์ขลัง เมื่อเทียบกับปี 2554 ที่ส่งให้ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชนะเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อเทียบกับแพทองธาร ชินวัตรในการเลือกตั้ง 2566 กลับทำไม่ได้
10. การทำงานในพื้นที่อย่างต่อเนื่องและทรัพยากรอย่างมหาศาลของพรรคภูมิใจไทยสามารถตรึงพื้นที่ และขยายความนิยมได้มากขึ้นโดยเฉพาะในภาคอีสาน ทำให้พรรคเพื่อไทยไม่สามารถได้พื้นที่ในภาคอีสานอยากเป็นกอบเป็นกำเช่นเดิม
11. บรรดาเซียนเลือกตั้งไม่ยอมอ่านผลโพล ที่กราฟความนิยมของพรรคก้าวไกลเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยะสำคัญหรืออ่านแล้วก็หาเหตุผลมาหักล้างผลโพล เพื่อยืนยันความเชื่อเดิม แม้กระทั่งตัวคนทำโพลเอง คือสุวิชา เป้าอารีย์ของนิด้าโพล
ทั้งหมดทั้งปวงยืนยันความเชื่อเดิมของผมด้วยว่า
บรรดาเซียนการเมืองส่วนใหญ่ยังอยู่กับความเคยชินในอดีต


 

โจนาธาน เฮด สัมภาษณ์พิเศษ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และออกอากาศทางช่อง BBC News แต่ผู้ชมในไทยบางส่วนไม่สามารถรับชมผ่านโทรทัศน์ได้ผ่านผู้ให้บริการบางราย . รับชมคลิปสัมภาษณ์ฉบับเต็มที่นี่

https://www.facebook.com/watch/?v=211596495023314

Exclusive: พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กับหนทางสู่การเป็นนายกฯ คนที่ 30 [Full Version] - BBC News ไทย

May 30, 2023โจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวบีบีซี สัมภาษณ์พิเศษ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคก้าวไกล หลังได้รับคะแนนเสียงมาเป็นอันดับหนึ่งและอยู่ในระหว่างการจัดตั้งรัฐบาล ถึงความรู้สึก ทิศทางอนาคต และมาตรา 112 

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bbc.com/thai/articles/c2x...

Sawasdee ka Thailand! 🇹🇭 BBC, CNN รวมถึง Al Jazeera โดน @TrueVisions เซ็นเซอร์ข่าวเมืองไทยมานานแล้วจ้า




Kittiphum (Earth) @KEarthling ·12h
คือสงสัย ถ้าเบสจากข้อมูล ในประกาศหาตำแหน่ง จนท เซ็นเซอร์ข่าวต่างประเทศ แสดงว่า ทาง True Visionเอง สามารถตัดสินเองใด้ใช่มั้ย ว่าข่าวไหนขัดมาตรา 112 หรือแค่ว่าทางTrue Visionไม่อยากรับความเสี่ยง จึงตัดสินใจแบนข่าวนั้นเองเลย

Kittiphum (Earth) @KEarthling
Producer@Al Jazeera English based in Thailand. All tweets/retweets are not endorsements. opinions are my own
โปรดิวเซอร์ข่าวสำนักข่าว อัลจาซีร่า ประจำประเทศไทย
.....

ประชาไท Prachatai.com
13h
·
ทรูวิชั่นตัดสัญญาณภาพรายการข่าวบีบีซีชิ้นสัมภาษณ์ "ทิม พิธา" เกี่ยวกับผลการเลือกตั้งและกระแสต่างๆ ที่มีต่อพรรค ก่อนหน้านี้บริษัทก็เคยทำมาแล้วหลายครั้งกับข่าวที่เกี่ยวกับการเมืองไทยและบริษัทยังเคยเปิดรับสมัครตำแหน่งเซ็นเซอร์ข่าวต่างประเทศ

อ่านต่อ https://prachatai.com/journal/2023/05/104362

วันอังคาร, พฤษภาคม 30, 2566

ตำรวจเพิ่งขยับ ‘ส่วย’ สติ๊กเกอร์รถบรรทุก เน้นสั่งกวดขันน้ำหนักเกิน ยันจัดการเด็ดขาดเจ้าหน้าที่มีเอี่ยว ถ้าตรวจพบนะ

เป็นข่าวปูดมาเกือบอาทิตย์ได้แล้ว ส่วยสติ๊กเกอร์รถบรรทุก ตำรวจเพิ่งขยับ แถมบอกว่าแค่ปลายเหตุ ไอ้การฉ้อราษฎร์บังหลวงของเจ้าพนักงานนี่น่ะ แต่ปัญหาหลักอยู่ที่รถบรรทุกน้ำหนักเกิน สั่งเข้มงวดตรวจจับ พร้อมทั้งติดปลายนวมไว้หน่อย

หากมีเจ้าหน้าที่รัฐ หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง นอกเหนือจากการดำเนินการทางกฎหมายแล้วต้องถูกดำเนินการทางวินัยด้วยอย่างเคร่งครัด ยืนยันว่าจะทำอย่างจริงจังแบบถอนรากถอนโคน” วลีทองสำเร็จรูปของทุกวงราชการ

ก็เรื่องมันโจ่งแจ้งแดงแจ๋อย่างนี้ แทนที่จะรีบตะครุบ ถ้าไม่เคยรู้เบาะแสอะไรมาก่อนดังเช่นที่ออกตัวละก็ แต่นี่สหพันธ์ขนส่งทางบกฯ ประกาศแน่วว่า “เรื่องนี้มีอยู่จริง ตนมีหลักฐานทั้งรายชื่อบริษัทและเจ้าหน้าที่ที่กระทำผิด” แล้วโทนโท่

ผู้บัญชาการตำรวจทางหลวงยังอุตส่าห์เน้นแต่มาตรการเล่นงานรถบรรทุกที่น้ำหนักเกิน แท่นที่จะมองให้ทะลุเนื้อของปัญหา ว่าเพราะมีส่วยจึงมีรถบรรทุกน้ำหนักเกินเต็มไปหมด (ข้อมูลของสหพันธ์ฯ ราว ๑ แสน ๕ หมื่น ถึง ๒ แสนคัน)

ผบ.ตร.บอกว่าสั่งการให้หน่วยต่างๆ ของตำรวจ ที่เกี่ยวข้อง “ลงตรวจสอบกรณีดังกล่าวโดยเร่งด่วน ว่ามีข้าราชการตำรวจหน่วยใดกระทำผิดลักษณะดังกล่าวหรือไม่” เอ๊า ยังมีกั๊กอีกแน่ะ ทำเหมือนไม่ค่อยเชื่อเรื่องที่ถูกปูด แล้วใครจะเชื่อว่ายินดีรับข้อมูล

#วิโรจน์ (ลักขณาอดิสร) บอก “ต้องถามกลับว่า ขยะอยู่ในบ้านตัวเอง ต้องให้คนอื่นมาชี้หรือว่าขยะอยู่ตรงไหน...ทั้งที่มีมานานกว่า ๓๐ ปีแล้ว ท่านไม่รู้ระแคะระคายเลยเหรอ ส่วยสติ๊กเกอร์มีรายได้ปีละ ๑-๒ หมื่นล้านเลยนะ ไม่ใช่น้อยๆ”

ในเมื่อตำรวจทำไขสือ และ/หรือมั่วนิ่มอย่างนี้ ทางสหพันธ์รถบรรทุกจึงเลือกที่จะส่งข้อมูลการกระทำความผิดจะแจ้ง พร้อมภาพถ่ายยืนยัน ไปให้พรรคก้าวไกลจัดการต่อ มีข้อมูลอยู่แล้วมากมาย เช่นที่มาของสติ๊กเกอร์ กว่า ๕๐-๖๐ แบบ

ทางพรรคก้าวไกลนั้น ระหว่างที่ตำรวจยังมะงุมมะงาหรา “#วิโรจน์ เปิดอีกประเด็น #ส่วยลอตเตอรี่@joe_black317 แฉ “ฝากประชาชนช่วยดูตามแผงขายลอตเตอรี่ว่าใครแผงไหนติดสติ๊กเกอร์หรือไม่ เพราะมีส่วยสติ๊กเกอร์ลอตเตอรี่แล้ว

...อันนี้ฝากประชาชนช่วยกันดู ลอตเตอรี่ใบนึงขายได้ไม่กี่บาท คุณยังมารีดส่วยกับเขาอีก ขนาดแผงลอตเตอรี่ยังต้องมาจ่ายให้พวกคุณ” วิโรจน์ตบท้ายตลบหัว

(https://www.thairath.co.th/news/local/2697853 และ https://twitter.com/joe_black317/status/1663365502532726791/photo/1) 

หากเพื่อไทยไม่ต้องการก้าวไกล แล้วไปร่วมกับอีกฝ่าย อย่าหวังว่า แคนดิเดตนายกฯทั้งสาม และอุ๊ง​อิ๊ง​จะได้นั่งนายกฯ ป้อม ตู่ ไม่ยอมแน่

·
แกนนำเพื่อไทยและพวกแบกคุยว่า "ก้าวไกลต้องการเพื่อไทย แต่เพื่อไทยไม่มีก้าวไกลก็ได้" หรือก้าวไกลต้องพึ่ง "ความเมตตา" จากเพื่อไทย
ถูกต้อง ถ้าพท.ดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อเป็นรบ.ให้จงได้ พท.ก็ไม่ต้องการก้าวไกลด้วยการหันไปสืบทอดรัฐประหาร ผสมพันธ์ุกับพรรคทหารจำแลงและกัญชาเสรีเพื่อค้ำจุนโครงสร้างนายทุนขุนศึกศักดินาที่กดทับปชช.อยู่ แต่ถ้าพท.ยังต้องการรักษายี่ห้อ "ปชต." และฐานมวลชนส่วนใหญ่ที่เหลืออยู่ พท.ก็ยังต้องการก้าวไกลในรบ.โดยไม่มีพรรคทหารจำแลงและกัญชาเสรี
ส่วนก้าวไกลวันนี้ต้องการพท.เพื่อเป็นรบ.ก็จริง แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ต้องการพท.และยินดีไปเป็นฝ่ายค้านหากพท.เลือกหนทางเผด็จการ
#เลือกตั้ง66 #ก้าวไกล
.....
หมอเรน ตำรับยา
เพื่อไทยไม่ต้องการก้าวไกล แล้วไปร่วมกับอีกฝ่าย เชื่อได้ว่าไม่มีทางตั้งรัฐบาล​ได้ แคนดิเดตนายกฯทั้งสาม และอุ๊ง​อิ๊ง​ไม่มีทางได้นั่งนายกฯ, ผลจะไปตกที่ประยุทธ์​ได้ตั้งรัฐบาล​

Yuttana Krittasampan
คิดคล้ายผมครับ แต่ผมว่าตั้งได้ แต่ พท ไม่ได้นายก ป้อม ตู่ ไม่ยอมให้ขี่คอแน่
.....
https://fb.watch/kQPiQt45fV/

มีการนัดทานข้าวกันถี่มากตามบ้านบุคคลสำคัญ สรุปออกมาเป็น MOU ฉบับทิพย์ดังนี้


ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี
1d
·
ผีดิบคืนชีพเพราะกล้วย
เกิดข่าวลับลวงพรางออกมา ไม่พูดไม่ได้ มีการนัดทานข้าวกันถี่มากตามบ้านบุคคลสำคัญ สรุปออกมาเป็น MOU ฉบับทิพย์ดังนี้
1. ห้ามลุงโยนผ้าขาว
2. ลุงต้องออกไปตรวจราชการตามปกติ แต่ห้ามพูดมากและให้หลีกเลี่ยงด้อมส้ม
3. ใครสัญญาจะแจกกล้วยกับใครไว้ ก็อย่าเบี้ยว
4. ไปสืบหาด้อมส้มและติ่งแดงที่มีใจแปรพักตร์
เหตุการณ์อย่างนี้ประมาทไม่ได้เด็ดขาด อยากเตือนเจ้าบ่าวเจ้าสาวว่า แม้เธอทั้งสองจะไม่ได้รักใคร่กันมาก่อน คือเป็นแค่เพื่อนบ้านกันแถวถนนเพชรบุรี แต่ตอนนี้สถานการณ์มันบังคับให้ต้องเป็นทองแผ่นเดียวกัน หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่งแล้วก็อยู่คนละบ้าน(กระทรวง) อาทิตย์หนึ่งเจอกันเฉพาะวันอังคาร(ครม.) ก็น่าจะ OK. นะ
ส่วนเจ้าบ่าวซึ่งยังซิงๆอยู่ ก็เบาๆหน่อย อย่าหักโหมโจมตีบ่อยนัก สำหรับเจ้าสาวหม้ายเนื้อหอมเป็นรัฐบาลมาแล้วหลายครั้งก็ขอให้ใจเย็นๆ เอ็นดูเด็กมันหน่อยก็แล้วกัน คิดเสียว่า มันยังไม่เคย (เป็นรัฐบาล เป็นรัฐมนตรี) ส่วนลูกเต้าก็อย่าเพิ่งคิดมี เพราะอีก 2ปีมีกฎบ้านใหม่ (รัฐธรรมนูญ)ออกมา ยังไงก็ต้องแยกทางกันอยู่ดี ทำไงได้ บุญวาสนามันมีกันเพียงเท่านี้ เพียงแต่ตอนนี้ต้องระวังอย่าให้ผีดิบคืนชีพมาก็แล้วกัน
เพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็พอได้แล้ว พวกคุณไม่ได้ร่วมหอลงโลงกับเขาสักหน่อย เวลานอนเขาก็อยู่กันสองคน คุณไปอยู่กับเขาด้วยหรือ มันสมรสเดี่ยวนะครับ ไม่ใช่สมรสหมู่เหมือนบวชพระหมู่ อีกเรื่องคือ แกนหนุ่มทั้งหลายหยุดพูดบ้างก็จะดี เห็นว่า กำลังเจรจาสินสอด(ตำแหน่ง)กันอยู่มิใช่หรือ มันเป็นความลับนะ ระวังตอนประชุมครม. เขาห้ามใช้โทรศัพท์(มีเครื่องตัดสัญญาณ) เดี๋ยวตอนนั้นจะลงแดงกันหมด
ส่วนสองลุง ผมก็บอกไปหลายทีแล้วว่า พอเถอะ อายุอานามก็เลข 7 จะเป็นเลข 8 อยู่แล้ว จะไปแข่งแต่งงานกับเขาทำไม มีแรงแยะหรือไง แถมคงจะไม่แข็งแรงอีกด้วยต่างหาก
ผมขอยืนยันครั้งที่ 501 (เลขที่บ้านผมที่ประตูน้ำ) เจ้าสาวผมจะแต่งกับรูปหล่อพิธาน้องเลิฟ BCC (กรุงเทพคริสเตียน)ของผมแน่นอน สำหรับผู้อยากได้กล้วยก็ให้มาเอาที่บ้านผม หากมีบุญวาสนาเอาไปบ่ม อาจจะกลายเป็นทองก็ได้นะ

คนเท่ากัน ไม่ได้มีอยู่จริง สิทธิในการเข้าถึง บริการสาธารณสุข อย่างเท่าเทียม ก็ไม่มีจริง หาก คนเท่ากัน มีอยู่จริง กิ๊ฟ ต้นน้ำเพชร ก็คงไม่ตาย


Thapanee Eadsrichai
1d
·
คนเท่ากัน ไม่ได้มีอยู่จริง
สิทธิในการเข้าถึงบริการสาธารณสุขอย่างเท่าเทียม ก็ไม่มีจริง
หญิงนักต่อสู้คนหนึ่ง ตายไปเพราะโรคไข้เลือดออก

าจเป็นความเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นได้ แต่สำหรับชาวบางกลอย
นี่คือการสุญเสียที่ไม่ควรเกิดขึ้น
หาก คนเท่ากัน มีอยู่จริง
แด่ กิ๊ฟ ต้นน้ำเพชร
.....

ฅนกะเหรี่ยง
4d
·
ค่ำวานทราบจากการโพสของน้ำ คีตาญชลี ว่า กิ๊ฟ ต้นน้ำเพชร ได้จากพวกเราไปแล้วเมื่อ 6 โมงเย็น จากการเป็นโรคไข้เลือดออก ถามน้ำไปว่าแล้วศพอยู่ที่ไหน น้ำบอกตอนนี้ยังไม่ทราบ น้องจันยังไม่ตอบ เพราะคงไม่เสร็จจากการจัดการศพแม่ที่โรงพยาบาล
ผมรู้สึกเสียใจเศร้าใจต่อการจากไปของกิ๊ฟ เธอเป็นชาวบางกลอยที่ถูกกระทำจากนโยบายอันไม่เป็นธรรมของรัฐ เธอและพี่น้องบางกลอยถูกเผาบ้านไล่ที่ลงมาจากบ้านของตัวเอง จนทำให้ต้องทำมาหากินยากลำบาก เพราะที่บางกลอยล่างที่ให้มาอยู่เป็นที่ดินเสื่อมโทรม ชาวบ้านต้องเป็นโรคขาดสารอาหาร และกิ๊ฟมีปัญหาเลือดจางไม่แข็งแรงเหมือนก่อน จากการที่สุขภาพไม่แข็งแรงอยู่แล้ว เมื่อต้องมาเผชิญกับไข้เลือดออก น่าจะทำให้เธอมีภูมิคุ้มกันไม่พอ จนต้องเสียชีวิตไป
ผมหวังและลุ้นเป็นอย่างยิ่งว่าหากได้รัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย เราจะสามารถผลักดันให้ชาวบางกลอยกลับไปอยู่ที่เดิม ให้เขามีชีวิตอย่างที่เขาเคยมี เขามีสิทธิ์นั้นเต็มที่ ผมพยายามทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อช่วยเขา
ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 สิงหาที่ผ่านมา กิ๊ฟและน้องจันเดินทางมาขึ้นศาล พวกเธอมาพักที่มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย เมื่อผมทราบจึงรีบไปหาพร้อมเอาเสื้อไปฝากกิ๊ฟ ผมขอสัมภาษณ์น้องจันเสร็จ ก็ชวนพวกเธอมากินข้าว ทีแรกกิ๊ฟปฏิเสธ แต่ผมคะยั้นคะยอ กะว่าจะพาไปกินร้านอาหารดีๆ แต่น้องจันบอกแม่ไม่อยากไปไกล ไม่อยากไปนาน แม่อยากกินกะเพราปลาหมึก เอาร้านง่ายๆ ผมจึงพามากินร้านอาหารตามสั่งในซอยเทพลีลา ได้เลี้ยงข้าวแม่ลูกคู่นี้ ผมนับเป็นเกียรติมากกว่าไปกินข้าวกับศิลปินแห่งชาติที่ไม่เห็นคุณค่าความลำบากของประชาชนรากหญ้า แต่กลับไปสวามิภักดิ์ให้กับพวกศักดิ
นาและเผด็จการอย่างไร้ยางอาย
ผมคิดว่ากิ๊ฟมีเกียรติ เธอได้ทำหน้าที่ของมนุษย์ ทวงสิทธิเสรีความเป็นธรรมที่ชาวชาติพันธุ์พึงมีพึงได้ และเธอจากไปอย่างมีเกียรติ สู่สุขคตินะกิ๊ฟ
..
Wara Chanmanee
4d
.
ค่ำวานทราบจากการโพสของน้ำ คีตาญชลี ว่า กิ๊ฟ ต้นน้ำเพชร ได้จากพวกเราไปแล้วเมื่อ 6 โมงเย็น จากการเป็นโรคไข้เลือดออก ถามน้ำไปว่าแล้วศพอยู่ที่ไหน น้ำบอกตอนนี้ยังไม่ทราบ น้องจันยังไม่ตอบ เพราะคงไม่เสร็จจากการจัดการศพแม่ที่โรงพยาบาล
ผมรู้สึกเสียใจเศร้าใจต่อการจากไปของกิ๊ฟ เธอเป็นชาวบางกลอยที่ถูกกระทำจากนโยบายอันไม่เป็นธรรมของรัฐ เธอและพี่น้องบางกลอยถูกเผาบ้านไล่ที่ลงมาจากบ้านของตัวเอง จนทำให้ต้องทำมาหากินยากลำบาก เพราะที่บางกลอยล่างที่ให้มาอยู่เป็นที่ดินเสื่อมโทรม ชาวบ้านต้องเป็นโรคขาดสารอาหาร และกิ๊ฟมีปัญหาเลือดจางไม่แข็งแรงเหมือนก่อน จากการที่สุขภาพไม่แข็งแรงอยู่แล้ว เมื่อต้องมาเผชิญกับไข้เลือดออก น่าจะทำให้เธอมีภูมิคุ้มกันไม่พอ จนต้องเสียชีวิตไป
ผมหวังและลุ้นเป็นอย่างยิ่งว่าหากได้รัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย เราจะสามารถผลักดันให้ชาวบางกลอยกลับไปอยู่ที่เดิม ให้เขามีชีวิตอย่างที่เขาเคยมี เขามีสิทธิ์นั้นเต็มที่ ผมพยายามทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อช่วยเขา
ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 สิงหาที่ผ่านมา กิ๊ฟและน้องจันเดินทางมาขึ้นศาล พวกเธอมาพักที่มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย เมื่อผมทราบจึงรีบไปหาพร้อมเอาเสื้อไปฝากกิ๊ฟ ผมขอสัมภาษณ์น้องจันเสร็จ ก็ชวนพวกเธอมากินข้าว ทีแรกกิ๊ฟปฏิเสธ แต่ผมคะยั้นคะยอ กะว่าจะพาไปกินร้านอาหารดีๆ แต่น้องจันบอกแม่ไม่อยากไปไกล ไม่อยากไปนาน แม่อยากกินกะเพราปลาหมึก เอาร้านง่ายๆ ผมจึงพามากินร้านอาหารตามสั่งในซอยเทพลีลา ได้เลี้ยงข้าวแม่ลูกคู่นี้ ผมนับเป็นเกียรติมากกว่าไปกินข้าวกับศิลปินแห่งชาติที่ไม่เห็นคุณค่าความลำบากของประชาชนรากหญ้า แต่กลับไปสวามิภักดิ์ให้กับพวกศักดินาและเผด็จการอย่างไร้ยางอาย
ผมคิดว่ากิ๊ฟมีเกียรติ เธอได้ทำหน้าที่ของมนุษย์ ทวงสิทธิเสรีความเป็นธรรมที่ชาวชาติพันธุ์พึงมีพึงได้ และเธอจากไปอย่างมีเกียรติ สู่สุขคตินะกิ๊ฟ
.....

Lertchai Sirichai
3d
·
ยิ่งเศร้าสะเทือนใจต่อชะตากรรมของป้ากิ๊บ บางกลอย
ผมเรียก “ป้ากิ๊บ” ตามที่คนอื่นเรียกกัน ที่จริงอายุของเธอเพิ่ง 44 ปีเท่านั้น
เมื่อคืนวานผมเขียนบทความด้วยความรู้สึกเจ็บปวด พร้อมกับตั้งคำถามว่าถ้าป้ากิ๊บเป็นเหมือนคนไทยกลุ่มอื่น ไม่ใช่กลุ่มชาติพันธ์ โดยเฉพาะกลุ่มชาติพันธ์กะเหรี่ยงบางกลอย ป้ากิ๊บจะตายง่ายๆ เหมือนระบบสาธารณสุขไทยยังเป็นแบบบ้านป่าเมืองเถื่อนอย่างนี้ไหม
วันนี้ผมได้ข้อมูลเพิ่มเติม ยิ่งทำให้ผมเศร้าสะเทือนใจเพิ่มอีกหลายเท่า
วันอาทิตย์ 21 พ.ค. ป้ากิ๊บอาการไม่ดี สามีจึงพยายามพาไปโรงพยาบาล แต่ว่าหมู่บ้านพวกเขาอยู่ในป่า ระยะทางไกลมากจากเมือง หนทางก็ยากลำบาก เงินทองพวกเขาก็ไม่ค่อยมี ทำให้เวลาที่ป้ากิ๊บไปถึงโรงพยาบาลก็บ่ายแล้ว คือประมาณบ่าย 2-3 โมง
โรงพยาบาลที่ว่านี้คือโรงพยาบาลระดับอำเภอของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งหากป้ากิ๊บต้องการใช้สิทธิ์บัตรทองหรือรักษาฟรีก็ต้องมาที่นี่เท่านั้นตามที่ทางราชการกำหนดไว้ หากจะเลือกไปที่อื่นก็ต้องออกเงินเอง ซึ่งสำหรับชาวกะเหรี่ยงบางกลอยไม่มีสิทธิ์ที่จะทำเช่นนั้นแน่ เพราะแม้จะมีอาหารกินไปแต่ละวันก็ยังยาก
สามีพาป้ากิ๊บไปถึงโรงพยาบาล ด้วยรู้อยู่เต็มอกว่าป้ากิ๊บอาการหนักแล้ว แต่คำตอบที่พวกเขาได้รับจากผู้รับผิดชอบของโรงพยาบาลในบ่ายวันนั้น คือ หมดเวลาเจาะเลือดแล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ ทั้งที่เวลาตอนนั้นยังไม่ถึง 4 โมงเย็นด้วยซ้ำ
ลองคิดดูสิครับสามีที่หอบหิ้วภรรยาที่ป่วยหนักไปถึงโรงพยาบาลอย่างแสนยาก เขาก็คิดว่าคงจะได้รับความเมตตา เพราะใครๆย่อมคิดว่าผู้ป่วยหนักเมื่อไปถึงโรงพยาบาลไม่ว่าเวลาไหน โรงพยาบาลต้องดูแล ผมเองก็เพิ่งทราบว่าโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขจะรับรักษาผู้ป่วยหนักที่มาโรงพยาบาลก็เฉพาะเวลาทำการ(ยังมีการเจาะเลือดอยู่)เท่านั้น
เมื่อรับคำตอบจากทางโรงพยาบาลเช่นนั้น สามีป้ากิ๊บก็พูดอะไรไม่ออกเพราะไม่สันทัดภาษาไทยกลาง ยิ่งป้ากิ๊บยิ่งไม่ต้องถามเพราะนอกจากกำแพงด้านภาษาแล้ว เรี่ยวแรงที่พอจะประคองชีวิตอยู่ก็แทบไม่มี สามีจึงได้แต่ประคองภรรยากลับอย่างปวดใจ
ผมลองถามดูนะครับ หากผู้ป่วยหนักบ่ายวันนั้นไม่ใช่เป็นป้ากิ๊บ แต่เป็นคนรวย คนมีอำนาจ ทางโรงพยาบาลแห่งนี้จะปฏิเสธไหม ถ้าผู้ป่วยเป็นญาติของหมอ ของพยาบาล ของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลจะปฏิเสธรับตัวไว้ตรวจรักษาไหม
คืนนั้นป้ากิ๊บและสามีพักกับคนรู้จักในเมือง อาการของป้ากิ๊บหนักตลอดคืน รุ่งขึ้นสามีจึงรีบนำป้ากิ๊บไปโรงพยาบาลแต่เช้า ตามเวลาที่ไปป้ากิ๊บควรจะได้รับการเจาะเลือดเป็นคนแรกๆ แต่ปรากฏว่าคนที่ไปทีหลังแซงหน้าเข้ารับการเจาะเลือดไปทั้งหมด ป้ากิ๊บกลายเป็นผู้ได้รับการเจาะเลือดเป็นคนสุดท้ายหรือเกือบสุดท้าย ซึ่งตอนนั้นก็เวลาเที่ยงวันแล้ว ตลอดเวลาที่รอการเจาะเลือดอาการป้ากิ๊บทรุดลงตลอด
หลังการเจาะเลือดแทนที่ทางโรงพยาบาลจะรีบนำป้ากิ๊บเข้าห้องรักษา แต่กลับต้องรอผลตรวจเลือดและให้สามีทำเรื่องอะไรอีก ซึ่งใช้เวลาอีกพอสมควร กว่าจะมีการนำป้ากิ๊บเข้าห้องผู้ป่วยในและให้น้ำเกลือเวลาก็ผ่านไปอีกนาน
อาการป้ากิ๊บทรุดลงตลอด จนเวลาประมาณ 3 ทุ่มทางโรงพยาบาลจึงพิจารณาว่าอาการหนักเกินกว่าโรงพยาบาลจะดูแลได้ จึงส่งตัวต่อไปที่โรงพยาบาลจังหวัด
โรงพยาบาลจังหวัดรับตัวป้ากิ๊บไว้รักษาตามขั้นตอน และดำเนินการรักษาตามปกติ แต่อาการของป้าก๊บก็ทรุดลงเรื่อยๆ พร้อมความทุกข์ทรมานที่หนักขึ้นตลอดเวลา รุ่งขึ้นทางโรงพยาบาลได้นำป้ากิ๊บเข้าห้องไอซียู จากนั้นร่างที่มีชีวิตป้ากิ๊บก็ไม่มีโอกาสออกมาจากห้องไอซียูอีกเลย ป้ากิ๊บอยู่ในห้องไอซียูตั้งแต่ตอนเที่ยงของวันที่ 23 จนถึงเวลาประมาณ 6 โมงเย็นของวัยที่ 24 พฤษภาคม 2566
ข้อมูลที่ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลคือ ป้ากิ๊บเป็นโรคไข้เลือดออก แต่อาการหนักมากแล้วจึงไม่อาจรักษาได้
ป้ากิ๊บลงมาจากหมู่บ้านแบบยังมีชีวิตอยู่ และมีความหวังว่าโรงพยาบาลจะช่วยให้เขาหายจากความเจ็บป่วยและกลับมามีชีวิตตามปกติ แต่อนิจจา........
คำถามคือ ทำไมโรงพยาบาลระดับอำเภอจึงไม่รับป้ากิ๊บไว้ตรวจรักษาตั้งแต่วันแรก กระทรวงสาธารณสุขคงไม่ตอบเหมือนโรงพยาบาลนะครับว่า เพราะเวลาเจาะเลือดหมดแล้ว และทำไมวันรุ่งขึ้นจึงไม่รีบเจาะเลือดให้ป้ากิ๊บทั้งที่เธอไปถึงโรงพยาบาลแต่เช้า กระทรวงสาธารณสุขคงไม่ตอบว่าเป็นขั้นตอนทางการแพทย์นะครับ
เราคงได้ยินหลักการของกระทรวงสาธารณสุขมากมายที่ประกาศมา และพยายามบอกว่ามาตรฐานของระบบสาธารณสุขไทยนั้นเทียบเท่ากับระดับสากลโดยอ้างถึงหลักการที่ประกาศดังกล่าว เช่น หลักการประชาชนสามารถเข้าถึงการดูแลสุขภาพอย่างเท่าเทียมกัน หลักการสิทธิของผู้ป่วย 10 ประการ ฯลฯ นอกจากนี้สิทธิของผู้ป่วยนี้ยังได้การรับรองจากรัฐธรรมนูญ และหลักการสิทธิมนุษยชนกับการรักษาผู้ป่วย
เมื่อพิจารณาจากหลักการดังกล่าว จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่าไม่มีทางเลยที่โรงพยาบาลจะปฏิเสธการรับป้ากิ๊บไว้ตรวจรักษา แม้ผู้ป่วยจะไปถึงโรงพยาบาลนอกเวลาการเจาะเลือดก็ตาม
จึงเหลือคำถามเดียวที่ผมจะถามกระทรวงสาธารณสุข คือ เพราะโรงพยาบาลเห็นป่ากิ๊บไม่ใช่คน หรือมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ต่ำกว่าคนทั่วไปใช่หรือไม่ และมีคำถามย่อยตามมาอีก 1 ข้อ คือ เพราะป้ากิ๊บเป็นกลุ่มชาติพันธ์ที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในเขตป่า โดยเฉพาะป้ากิ๊บเป็นชาวกะเหรี่ยงบางกลอยใช่หรือไม่
ผู้สนใจลองอ่านแค่สิทธิผู้ป่วย 10 ประการ ซึ่งเป็นนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขโดยตรงก็ได้ อ่านเฉพาะข้อ 2 และข้อ 4 ก็ได้ อ่านแล้วน่าจะได้ข้อสรุปตรงกันว่า ป้ากิ๊บไม่ได้รับสิทธิ์ในฐานะผู้ป่วยตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข สำหรับผมขอเพิ่มว่า “อย่าว่าแต่ไม่ได้รับสิทธิในฐานะผู้ป่วยเลย แม้สิทธิความเป็นมนุษย์อย่างคนอื่นป้ากิ๊บก็ไม่ได้รับจากโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขแห่งนี้”
ยิ่งน่าหดหู่ใจเพิ่มขึ้น เมื่อได้รับทราบว่าป้ากิ๊บไม่ใช่คนแรกของชาวกะเหรี่ยงบางกลอยที่ถูกปฏิเสธการตรวจรักษาจากโรงพยาบาลแห่งนี้ และในวันที่ป้ากิ๊บเสียชีวิตยังมีชาวกะเหรี่ยงบางกลอย 3 คน ซึ่งป่วยเป็นไข้เลือดออกเหมือนกัน ถูกปฏิเสธรับตัวไว้รักษาจากโรงพยาบาลแห่งนี้ (ในช่วงนี้ในพื้นที่อยู่อาศัยของชาวบางกลอยมีฝนตกมาก จึงมียุงลายชุกชุม คนจึงเป็นไข้เลือดออกกันมาก)
ชาวบางกลอยจึงกลัวว่า 3 คนนี้จะเสียชีวิตตามป้ากิ๊บไปอีก
สำหรับแพทย์ พยาบาล บุคลากรอื่นๆของโรงพยาบาล การเสียชีวิตของหญิงชาวกะเหรี่ยงบางกลอยคนหนึ่งอย่างป้ากิ๊บคงไม่มีความหมายอะไรในสายตาพวกเขา แต่สำหรับครอบครัวของป้ากิ๊บ ญาติมิตร และชาวบางกลอยแล้ว เหตุการณ์ครั้งนี้มีความหมายอย่างมากสำหรับพวกเขา
ป้ากิ๊บทิ้งลูกเล็กๆไว้ 2 คน ลูกเล็กๆนี้จะเติบโตขึ้นมาอย่างไร สามีของป้ากิ๊บซึ่งร่วมทุกข์ร่วมยากมาด้วยกันในทุกสถานการณ์จะอยู่ต่อไปอย่างไร ลูกๆที่โตแล้วกลัวว่าพ่อของเขาจะคิดสั้นติดตามแม่ไป
สำหรับชาวบางกลอย นี่คือความเจ็บปวดใจ ความคั่งแค้นใจอีกครั้ง ที่พวกเขาถูกกระทำจากหน่วยงาน จากเจ้าหน้าที่รัฐ
มีผู้ถามสามีป้ากิ๊บด้วยเจตนาดีว่าจะให้ช่วยอะไรไหม สามีของป้ากิ๊บตอบกลับออกไปทันที่ว่า ช่วยย้ายโรงพยาบาลแห่งนี้ออกไปจากพื้นที่ได้ไหม นี่เป็นคำตอบที่ออกมาจากชายชาวกะเหรียงที่แสนจะธรรมดาคนหนึ่ง แต่มีความเจ็บปวดใจอย่างยากที่จะอธิบายออกมาได้
ชาวกะเหรี่ยงบางกลอยถูกกระทำจากหน่วยงานรัฐ เจ้าหน้าที่รัฐ และกระบวนการยุติธรรม เหมือนพวกเขาไม่ใช่คนมาโดยตลอด พวกเขาจึงเป็นกลุ่มชาติพันธุ์กลุ่มหนึ่งที่มีชีวิตอยู่อย่างเจ็บปวดรวดร้าวที่สุด
บัดนี้มีข้อพิสูจน์ชัดเจนเพิ่มขึ้นอีกว่าเมื่อเขาเจ็บป่วย แม้กระทั่งอยู่ในภาวะอาการหนักเสี่ยงที่จะเสียชีวิต เขาก็ถูกปฏิบัติเหมือนกับเขาไม่ใช่คนจากโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข
มีใครหรือหน่วยงานไหนที่พอจะหยิบเรื่องนี้มาพูดคุย หรือพิจารณาต่อไปบ้าง เพื่ออย่างน้อยก็เป็นการส่งเสียงว่ายังมีคนที่เห็นชาวกะเหรี่ยงบางกลอยมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ไม่แตกต่างจากคนกลุ่มอื่น
(ภาพครอบครัวป้ากิ๊บ ขวาสุดคือสามี นอกนั้นคือลูกๆ)

“ใช่ครับ นโยบายพรรคก้าวไกลไม่ได้ออกแบบมาเพื่อพวกคุณ เค้าออกแบบมาเพื่อคนส่วนใหญ่ของประเทศครับ”


.....
Supanat Kantha
Yesterday
·
“ใช่ครับ นโยบายพรรคก้าวไกลไม่ได้ออกแบบมาเพื่อพวกคุณ
เค้าออกแบบมาเพื่อคนส่วนใหญ่ของประเทศครับ”

ช่วงนี้เริ่มเห็นคนพูดถึงนโยบายเศรษฐกิจของพรรคก้าวไกลมากขึ้น โดยเฉพาะในเพจการเงินดังๆหลายเจ้า โดยเฉพาะเพจการลงทุน คอมเมนท์มักจะไปในทางแซะและแซว รวมถึงแสดงความกังวลเกี่ยวกับนโยบายของก้าวไกลว่า จะทำตลาดหุ้นพัง นักลงทุนหนีหาย หลายคนก็แซะไปว่า ก็คนส่วนใหญ่เขาเลือกแบบนี้นิ ส่วนตัวในฐานะที่ทำงานอยู่ภาคการเงิน ขอแชร์ความคิดเห็นประมาณนี้ละกันครับว่า
.
ใช่ครับ นโยบายพรรคก้าวไกลไม่ได้ออกแบบมาเพื่อพวกคุณ
เค้าออกแบบมาเพื่อคนส่วนใหญ่ของประเทศครับ
.
ทำไมผมถึงกล้าพูดแบบนี้ เพราะสถิติของคนไทยมันบอกอยู่น่ะสิครับ
.
คุณรู้ไหมว่า ปัจจุบัน ถ้าเอาคนไทยมายืนเรียงต่อกัน 66 ล้านคน
คนที่อยู่ลำดับที่ 33,000,000 หรือ ตรงกลางของประเทศ มีรายได้ต่อเดือนเท่าไหร่?
.
คำตอบคือ 7,000 บาท/เดือนครับ (ข้อมูลปี 2564)
.
ใช่ครับ 50% หรือครึ่งหนึ่งของคนไทย มีรายได้ต่อเดือนไม่ถึง 7,000 บาทต่อเดือน!
.
ที่น่าตกใจคืออะไรรู้ไหมครับ
.
ถ้านับต่อไป ไปหาคนที่ยืนอยู่ตำแหน่งที่ 10% ที่รวยที่สุดในประเทศ
รายได้เฉลี่ยต่อเดือนเท่าไหร่ ทราบไหมครับ
.
คำตอบคือ 34,463 บาทต่อเดือน

แปลว่า ถ้าวันนี้ คุณมีเงินเดือนเยอะกว่า 35,000 บาทต่อเดือน
คุณรวยกว่าคนอีก 59 ล้านคนในประเทศไทย หรือ 90%ของประเทศ

และก็ใช่ครับ พวกคุณเป็นคนส่วนน้อยของประเทศนี้ รวมถึงผมด้วย

นโยบายทั้งเรื่องรัฐสวัสดิการและการเก็บภาษีตลาดทุน รวมถึงการเก็บภาษี Wealth tax การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามลดความเหลื่อมล้ำนี้ ย่อมส่งผลกระทบทางลบระยะสั้นต่อตลาดทุนแน่นอน
.
ถ้ามองในมุมกลับ ถ้าเราเชื่อว่าการประกาศนโยบายต่อสู้กับกลุ่มทุนผูกขาดทำให้ตลาดหุ้นลง แปลว่า เรากำลังยอมรับว่า ประเทศนี้ตลาดทุนถูกผูกขาดโดยกลุ่มธุรกิจเพียงไม่กี่กลุ่มเท่านั้นไม่ใช่หรือแล้วเรายังจะกล้าคาดหวังว่าตลาดทุนจะเติบโตต่อในอนาคตระยะยาวได้อย่างไรในสภาวะที่ตลาดมีการผูกขาด หากเป็นแบบนี้ยิ่งควรสนับสนุนนโยบายยกเลิกการผูกขาดเหล่านี้เลยไม่ใช่หรือ?
.
แถมนิดหน่อย : นโยบาย เบี้ยผู้สูงอายุ 3,000 บาท
มีคนมองว่า ไม่ได้ก่อให้เกิด productivity ใดๆ ทำไมต้องไปให้ด้วย แล้วยังต้องใช้เงินกว่า 6แสนล้านมา อาจมีปัญหากับวินัยการคลังได้ในอนาคต

ขอเสนอความเห็นแบบนี้ครับ 3,000 นี้ไม่ได้ก่อให้เกิด productivityทางตรงครับ แต่มันก่อให้เกิด productivity ทางอ้อมจากลูกหลานคนในครอบครัวครับ

ตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้อง 3,000 แต่พอไปดูตัวเลขสถิติก็เข้าใจ
เพราะประเทศไทยนั้น เส้นความยากจนอยู่ที่ 3,000 บาทต่อเดือนครับ

พูดง่ายๆก็คือ 10% ที่อยู่ฐานล่างสุดของไทยมีรายได้เฉลี่ยนต่อเดือนที่ 2,100 บาทเท่านั้นเองการสนับสนุนเงินจำนวนเท่านี้คือการดึงกลุ่มคนออกจากพื้นฐานเส้นความยากจน …“ทั้งประเทศ” แบบไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังจริงๆ

สิ่งที่ตามมาคือ ลูกหลาน สามารถออกไปเรียน ไปทำงาน โดยไม่ต้องเป็นห่วงพ่อแม่ปู่ย่าตายาย ไม่ต้องคอยส่งเงินกลับมาให้ สามารถทำงาน เก็บออม ลงทุน สร้างโอกาสในชีวิตให้ตัวเองได้มากขึ้น สุดท้ายแล้วมันจะเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพด้วยตัวของคนๆนั้นเอง และผลตอบแทนของสิ่งนี้จะวนมาอยู่ในรูปแบบของการบริโภคที่เพิ่มขึ้น ขยาย purchasing power หรือ อำนาจการซื้อของแต่ละบุคคล สุดท้ายก็จะเป็น consumptionที่ทำให้ GDP โตขึ้นในอนาคตครับ

ปล. สำหรับนักลงทุนรายย่อยที่กังวล อยากจะบอกว่า ตลาดหุ้นไทยไม่ไปไหนมาจะ10ปีแล้วนะครับ คนที่รวยขึ้นมีแค่เจ้าของธุรกิจรายใหญ่ ส่วนเม่าไทยก็อยู่ที่เดิมทั้งหมดแหละครับ หุ้นจะลงรอบนี้ก็เตรียมซื้อครับ ไม่ใช่เตรียมขาย

อีกนิดนึง รอบนี้ดอกเบี้ยขึ้นตั้งแต่ต้นปี ตลาดหุ้นจะเอาที่ไหนมาขึ้นล่ะครับ

เดี๋ยวแปะลิงค์ ref ข้อมูลสถิติรายได้ไว้ให้ในคอมเมนท์นะครับ

Edit : แปะ ref ตรงนี้เลยละกัน
ข้อมูลจาก สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ครับ
ข้อมูลดิบ version excel
https://www.nesdc.go.th/main.php?filename=social...

---
บทวิเคราะห์ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ครับ
https://www.nesdc.go.th/ewt_dl_link.php?nid=13081

คนเค้าจะรัก ฉิบหายเค้าก็รัก


สมเด็จพระนางเจ้าศศิเฌอปรางวัชรสุภางควดี พระบรมราชินีนาถ
21h
.....
Nipatpong Jeentang ·
ทนมาแปดปีไม่รู้สึกอะไร พอโผรัฐมนตรีออกเสือกส่ายหัว
..
Uptooil SD
คนเค้าจะรัก ฉิบหายเค้าก็รักตั้ม 
..
ซามาดะ เคโกะ
ได้ข่าวว่าเจ๊งไปแล้วไม่ใช่เหรอร้านนี้ ขาดทุน=กำไร
.....

สมเด็จพระนางเจ้าศศิเฌอปรางวัชรสุภางควดี พระบรมราชินีนาถ
1d
·
กังหันน้ำชัยพัฒนาคือเครื่องตีอากาศลงน้ำธรรมดา ๆ ที่ทีมงานประดิษฐ์มาตั้งโชว์ตามสถานที่ราชการต่าง ๆ เพื่อโฆษณาว่าเป็นสิทธิบัตรของ ร.๙ ทำเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร บ่อเลี้ยงกุ้ง ฯลฯ
ในทางอุตสาหกรรมจริง ๆ ไม่มีใครใช้กัน เพราะซื้อปั๊มอัดอากาศลงน้ำของเอกชนประหยัดกว่า ประสิทธิภาพสูงกว่า อายุการใช้งานนานกว่า กรองขยะได้ด้วย แถมไม่ทำให้เสียทัศนียภาพ ส่วนแหล่งน้ำนิ่งตามสวนสาธารณะก็ติดน้ำพุเอา
ป่าวประกาศโฆษณาทั้งประเทศ แต่ไม่มีใช้จริง อวยกันแบบไม่มีเขินเลยนะแก
.....
วูล์ฟ คอร์เนอร์
เรื่องจริงๆ ที่เห็นกับตา ณ สถานที่ราชการแห่งหนึ่ง เอากังหันตีน้ำลงสระแบบปิด เปิดกังหันในสระแบบปิดทุกวัน แต่ผลที่ได้คือ น้ำยังเน่า ตะไคร่ขึ้นเขียว จนเป็นอันตราย แต่คนในที่นั้นยุคเบบี้บลูมเมอร์ ก็ยังไม่ตาสว่าง

ไม่ต้องไปเชื่อ ตรรกะบ้งๆ - ไม่ต้องยกเลิกนโยบายว่าที่รัฐบาลใหม่ก็เขียวทั้งกระดาน-ตลาดหุ้นไทยวันนี้เขียวแล้วนะ


ดร.ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
14h ·
ตรรกะบ้งๆ
...
ไม่ต้องยกเลิกนโยบายว่าที่รัฐบาลใหม่ก็เขียวทั้งกระดาน-ตลาดหุ้นไทยวันนี้เขียวแล้วนะ แม้ว่าที่รัฐบาลไม่ต้องยกเลิกนโยบายทั้งหมดตามที่พี่ตู่ วรวรรณ ธาราภูมิ กองทุนบัวหลวงแนะนำก็ตาม และปัจจัยการเมืองก็มีผลต่อตลาดน้อยลง หันไปรับผลบวกเรื่องสหรัฐตกลงเรื่องเพดานหนี้กันได้แทน
ผมให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย นาที20นาทีเป็นต้นไปในคลิปนี้
https://fb.watch/kQkiRnlOiY/?mibextid=v7YzmG
.....
Sarinee Achavanuntakul - สฤณี อาชวานันทกุล
20h
·
ยุ่งมากจนไม่มีเวลาตามข่าวหลายเรื่องและเขียนหลายเรื่องที่อยากเขียน แต่พอเห็นมุก "ยกเลิกทุกนโยบายของว่าที่รัฐบาล เขียวทั้งกระดานทันที" ของประธาน บลจ. ที่อดีตเป็นกรรมการ ตลท. ด้วย ที่คงโพสขำๆ แต่จากคอมเม้นมากมายก็ชัดเจนว่าหลายคนอยากเห็นสิ่งนี้จริงๆ (55) ก็คิดว่าควรแสดงความเห็นของตัวเองสักหน่อยนะคะ
ในฐานะคนที่เคยทำงานในแวดวงตลาดทุน ทำวิจัยเรื่องธรรมาภิบาลตลาดทุน และตอนนี้ก็เป็นนักลงทุนรายย่อย (แมงเม่า) ที่ตามดูนโยบายตลาดทุนอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ
(ไม่ได้ตั้งใจจะเรียบเรียงความเห็นต่อไปนี้เป็นเรื่องเป็นราว และอาจไม่มีเวลามาตอบทุกเม้น แต่ถ้าท่านไหนสนใจจะเอาข้อไหนไปขยายต่อ อภิปรายต่อ ก็จะยินดีมาก)
1. รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลประชาชนและสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ ไม่มีรัฐบาลไหนมีหน้าที่ "ทำให้หุ้นขึ้น" (และก็ไม่มีหน้าที่ “พยุงตลาดหุ้น” ในภาวะตลาดขาลงด้วย) แต่แน่นอนว่า ถ้าเศรษฐกิจมีแนวโน้มจะดี ตลาดหุ้นก็มีแนวโน้มจะเขียวเพราะนักลงทุนจะคาดหวังว่าบริษัทในตลาดหุ้นจะได้ประโยชน์จากการเติบโตของเศรษฐกิจ
2. นักลงทุนหลายคนกังวลว่า นโยบายต่างๆ ของพรรคก้าวไกลจะสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจได้จริงหรือไม่ เพราะดูจะเน้นการสร้างรัฐสวัสดิการและ "กระจาย" ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ (แบ่งเค้ก) มากกว่า "สร้างการเติบโต" (ขยายขนาดเค้ก) แต่ในความเป็นจริงสองสิ่งนี้เกี่ยวข้องกันเสมอ
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากนโยบายก้าวไกลสามารถเพิ่มความเป็นธรรมในสนามแข่งขัน ขจัดส่วย ลดต้นทุนพลังงาน ลดต้นทุนสวัสดิการ (เพราะเพิ่มสวัสดิการภาครัฐ) ได้จริง สิ่งเหล่านี้ก็จะช่วยลดต้นทุนของภาคธุรกิจ ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนจำนวนมาก อีกทั้งถ้า SMEs ได้ประโยชน์กันเยอะๆ ตลาดทุนก็น่าจะได้เห็น IPOs (การระดมทุนในตลาดหุ้นครั้งแรก) จากธุรกิจที่มีความหลากหลายและเข้มแข็งกว่าในอดีต
(ไม่ได้กำลังบอกว่านโยบายเหล่านี้จะสำเร็จหรือไม่มีอุปสรรคใดๆ แต่กำลังบอกว่า แม้แต่นโยบายแนวที่คนมองว่า "แบ่งเค้ก" ก็ส่งผลลัพธ์เชิงบวกกับหุ้นในตลาดได้ ไม่ใช่ไม่มีผลกระทบเลยหรือมีแต่ผลกระทบเชิงลบ)
3. ส่วนนโยบายที่หลายคนกังวลว่าจะส่งผลกระทบเยอะมากต่อธุรกิจในตลาดหุ้น เช่น การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ อันนี้ก็ต้องถกเถียงค้นคว้าและหาแผนการลงมือทำที่ช่วยลดผลกระทบต่อผู้ประกอบการรายย่อยต่อไป แต่ก็ไม่มีใครควรอนุมานง่ายๆ ว่า ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ -> เงินเฟ้อสูง -> ว่างงานสูง -> เศรษฐกิจแย่ เพราะตลาดแรงงานในไทยเป็น monopsony มากกว่า perfect competition อีกทั้งในภาวะที่เงินเฟ้อสูงเกิดจาก cost-push (ต้นทุนเพิ่ม) ไม่ใช่ demand pull การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำก็ยิ่งสำคัญใหญ่ในแง่วิธีคุ้มครองแรงงานรายได้น้อยจากค่าครองชีพที่เพิ่มสูงมาก และผลกระทบต่อเงินเฟ้ออาจมีเพียงเล็กน้อยและอยู่ไม่นาน คุ้มค่ากับการเพิ่มกำลังซื้อของแรงงานรายได้น้อย (ทั้งหมดนี้หมายเหตุว่านักเศรษฐศาสตร์ต้องออกมาถกกันต่อไป แค่จะบอกว่าอนุมานง่ายๆ ไม่ได้)
4. ถ้าอยากให้ตลาดทุนดึงดูดนักลงทุนมากกว่านี้ ก็ต้องให้ความสำคัญกับ "คุณภาพ" ของของในตลาด มากกว่าการอัด "โปรโมชั่น" ลดแลกแจกแถม และควรมองหากลไกต่างๆ ที่จะขยายฐานนักลงทุนด้วย
ตัวอย่างวิธีเน้น "คุณภาพ" ของของในตลาด เช่น เรียกร้องให้ ก.ล.ต. ทำงานอย่างเป็นมืออาชีพ ตรงไปตรงมาไม่เลือกปฏิบัติ จัดการกับ "เจ้ามือ" และ "หุ้นปั่น" ทั้งหลายอย่างจริงจัง รวมถึงทบทวนกฎการบังคับถอดหุ้นออกจากตลาด (involuntary delisting rules) ให้เข้มกว่านี้ ไม่ใช่ปล่อยให้มีบริษัทห่วยๆ มากมายที่ไม่ได้ทำกิจการอะไรเป็นชิ้นเป็นอันแล้ว งบการเงินไม่น่าเชื่อถือแล้ว เป็นเพียงบริษัทกล่องที่หลอกล่อแมงเม่ามาเชือด
กลไกต่างๆ ที่จะขยายฐานนักลงทุนให้กระจายประโยชน์สู่ประชาชนมากขึ้น มีอาทิ ส่งเสริมการตั้งกองทุนแบบ Bumiputera Fund ในมาเลเซีย หรือ unit trust ในสิงคโปร์ ที่ประชาชนสามารถซื้อได้ด้วยเงินจำนวนน้อยมากๆ
เห็นว่าประเด็นข้างต้นคือตัวอย่างของสิ่งที่นักลงทุน และผู้เชี่ยวชาญตลาดทุนทั้งหลายควรช่วยกันอภิปราย คิดและนำเสนอรัฐบาลใหม่อย่างสร้างสรรค์ มากกว่าเล่นมุกที่อาจทำให้คนเข้าใจผิดค่ะ

คงไม่ใช่บังเอิญที่มีคนมากล้าแฉส่วยรถบรรทุกช่วงนี้ เพราะผลงานก้าวไกลที่ผ่านมา บวกกับข่าวคนที่จะมาคุมมหาดไทย


Wiroj 77 @wirojlak ·5h
ต้นเหตุจะเป็นอะไรก็ช่าง แต่ตำรวจจะเอามาอ้างเป็นเหตุในการรีดไถ เก็บส่วยไม่ได้!!!
10h
·
คงไม่ใช่บังเอิญที่มาแฉส่วยรถบรรทุกช่วงนี้ มันมีมานานแล้ว ขนาดรถที่ทำถูกทุกอย่างยังต้องเตรียมเงินจ่ายตำรวจตลอดเส้นทาง โดยเก็บจากลูกค้า
เวลาจ่ายงานคนขับ(บริษัทที่ผมเคยอยู่)จะมีค่าใช้จ่ายให้คนขับรถ...
น้ำมัน...ออกเป็นใบเบิก โดยเหมาจ่ายตามระยะทาง คนขับจะรู้ว่าใช้จริงเท่าไหร่ ส่วนที่เหลือ(หรือเกินจากที่ใช้จริง)ก็จะขายให้คนคุมน้ำมันของบริษัท
เบี้ยเลี้ยง
ค่าน้ำ..อันนี้คือทิปจากลูกค้า ชื่อเต็มคือ "ค่าน้ำใจ"
สุดท้าย....ค่าตำรวจ...อันนี้มีคนของบริษัทสำรวจเส้นทางทั่วประเทศก่อนแล้ว มีข้อมูลครบทั้งระยะทางแต่ละช่วง แต่ละช่วงอยู่เขตตำรวจไหนบ้าง เข่น สภ. หรือตำรวจทางหลวง เป็นต้น....ค่าตำรวจจึงคำนวณจากพื้นที่จริงตามธรรมเนียมที่ต้องเจอ
ขนาดรถที่ทำถูกกฎหมายทุกอย่าง ไม่ว่าจะป้ายวงกลม(ภาษีรถ) น้ำหนักบรรทุก ก็ยังต้องเตรียมเงินไว้เสียตามรายทาง
ไม่ใช่ทุกบริษัทจะทำได้เป๊ะ ส่วยรายเดือนจึงเป็นทางออก สติ๊กเกอร์ไม่เพียงบรรทุกน้ำหนักเกิน ลืมติดป้ายวงกลม ลืมต่อภาษี...ผ่านหมด
แล้วทำไมมาแฉกันในช่วงนึ้....ผู้ประกอบการรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง โวยในรัฐบาลเผด็จการนอกจากไม่ได้ผลแล้วยังซวยได้
กับผลงานก้าวไกลที่ผ่านมา บวกกับข่าวคนที่จะมาคุมมหาดไทย ถึงได้กล้าแฉ
.....

เปิดโผรัฐบาล “พิธา” คาดก้าวไกลส่ง “วิโรจน์” คุมมหาดไทย | เลือกตั้ง 66 วาระคนไทย

May 19, 2023 
https://www.youtube.com/watch?v=fxRoNewt_I8



 

เมื่อสังคมต้องการความเปลี่ยนแปลง แต่ขั้วอำนาจเดิมไม่ยอมปล่อย... ก้าวไกลกำลังนำเสนอความสัมพันธ์ใหม่กับชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ภายใต้สังคมไทยที่เปลี่ยนแปลงไป


 


เมื่อสังคมต้องการเปลี่ยน แต่ขั้วอำนาจเดิมไม่ยอมปล่อย : The Active (27 พ.ค. 2566)

May 27, 2023 

ท่ามกลางเส้นทางการจัดตั้งรัฐบาลที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ‘ศ.ชัยวัฒน์ สถาอานันท์’ นักรัฐศาสตร์ มธ. ออกมาเตือนให้ ก้าวไกล พึงระวังรอยร้าวที่เกิดภายในพรรคก้าวไกล ซึ่งน่ากลัวกว่าปัจจัยภายนอก 
.
เพราะผลคะแนนการเลือกตั้งครั้งนี้ชี้ชัดว่า “ก้าวไกล ไม่มีอะไรต้องแลก แต่กำลัง ผลักให้ ส.ว. และ ส.ส.ต้องเลือก สังคมจะเห็นเองว่าคนกลุ่มนี้ สนับสนุนประชาธิปไตย และ ความเปลี่ยนแปลงใที่กำลังเกิดขึ้นหรือไม่...” 
.....

คนเสื้อแดงไม่จำเป็นต้องใส่เสื้อแดง คนที่ใส่เสื้อสีแดงอาจไม่ใช่คนเสื้อแดงจริง


ยูดีดีนิวส์ - UDD news
10h
·
ธิดา ถาวรเศรษฐ : คนเสื้อแดง VS คนใส่เสื้อสีแดง
.
คนเสื้อแดง เป้าหมายการต่อสู้
.
1. การเมืองในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขที่อำนาจเป็นของประชาชนแท้จริง
2. ต่อสู้ด้วยสันติวิธี ไม่ได้จับอาวุธขึ้นสู้กับอำนาจรัฐ
3. ต่อสู้ทั้งวิถีทางในรัฐสภาและนอกรัฐสภา
4. ต่อสู้เพื่อนิติรัฐนิติธรรม รัฐธรรมนูญ และกฎหมายโดยประชาชนเพื่อประชาชน
.
หลักการของคนเสื้อแดงของนปช.ก็มีอย่างนี้ และเมื่อผ่านการต่อสู้บาดเจ็บล้มตายนับร้อยนับพัน ก็จะเข้มข้นด้วยความต้องการคือทวงความยุติธรรมให้ประชาชน ให้ผู้ถูกกระทำจากอำนาจรัฐ ไม่ว่าจะบาดเจ็บ ล้มตายกลางถนน หรือถูกจับกุมคุมขังอย่างไม่ถูกต้อง หรือถูกอุ้มฆ่า ทั้งในอดีต โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังรัฐประหารจนถึงปัจจุบัน
.
ดังนั้น ในวิถีทางรัฐสภา คนเสื้อแดงก็จะถือเป็นส่วนสำคัญของการต่อสู้ด้วย มิใช่มีแต่ถือการต่อสู้เฉพาะบนท้องถนน ในอดีต คนเสื้อแดงทั้งหมดก็ถือเป็น Fc พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย เพราะมีพรรคฝ่ายประชาธิปไตยพรรคเดียว เวลาผ่านจากปี 2550 ถึง 2566 ผ่านมา 16 ปี เกิดสถานการณ์ใหม่ มีการทำรัฐประหารซ้ำ 2 ครั้ง มีการฆ่าคนกลางถนน โดยผู้กระทำลอยนวลพ้นผิด ประเทศชาติพังพินาศทางเศรษฐกิจ การเมือง สังคม เกิดพรรคการเมืองใหม่ คนเสื้อแดงและประชาชนผู้รักประชาธิปไตยและความยุติธรรมก็แยกกันสนับสนุนพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย ก็เกิด Fc พรรคเพื่อไทย, Fc พรรคก้าวไกล, Fcพรรคไทยสร้างไทย, Fc พรรคประชาชาติ หรือ Fc พรรคเสรีรวมไทย เป็นต้น ซึ่งจะมีดีกรีความเข้มข้นหนักเบาของ Fc เหล่านี้ต่างกัน ในทัศนะดิฉัน คนเสื้อแดงจริงจะมีจุดยืนและผลประโยชน์ของประชาชนไทยโดยรวมเป็นหลัก และสนับสนุนพรรคการเมืองเฉพาะฝ่ายประชาธิปไตยพรรคใดก็ได้
.
ดังนั้น Fc ของพรรคต่าง ๆ ถ้ายึดผลประโยชน์หรือชัยชนะของพรรคที่ตัวเองสนับสนุนเป็นหลักอย่างเดียว หมายความว่า เขาจะเป็นคนใส่เสื้อสีแดงที่เป็น Fc พรรคการเมืองเท่านั้น ยังไม่ใช่คนเสื้อแดงตัวจริง แต่การเป็น Fc ของพรรคใดพรรคหนึ่งฝ่ายประชาธิปไตย ก็ยังถือเป็นหมู่มิตร แม้นจะขาดหรืออ่อนไปในอุดมการณ์ประชาธิปไตยและชัยชนะของประชาชน ก็ควรจะใช้ท่าทีต่อกันแบบ มิตร มิใช่ศัตรู ไม่ใช่ใช้ภาษาต่อว่าต่อขานรุนแรงที่หนุนพรรคประชาธิปไตยต่างกัน หรือดูหมิ่นดูถูกกันและกัน แม้จะสนับสนุนพรรคต่างกัน
.
ในสถานการณ์นี้ต้องสามัคคีกันตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยของประชาชนให้ได้ และเป็นไปได้ว่า อาจตั้งรัฐบาลของประชาชนไม่ได้! ต้องสามัคคีกันต่อสู้กับฝ่ายเผด็จการสืบทอดอำนาจที่ยังไม่วางมือจากการเมือง โดยมีองค์กรอิสระ, วุฒิสมาชิก เป็นตัวช่วย แม้ผลการเลือกตั้งประชาชนจะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะเหนือพรรคจารีตอำนาจนิยม แต่นี่เพียงบันไดขั้นแรกเท่านั้น อาจถูกฟันฉับ ๆ ทีละพรรคก็เป็นได้
.
อย่าเป็นเพียงคนใส่เสื้อสีอะไรก็ได้ที่เป็นเพียง Fc พรรคการเมือง เพราะถ้าเราเป็นนักต่อสู้ ต้องยึดฝ่ายประชาธิปไตยและชัยชนะของประชาชนเป็นหลักยิ่งกว่าพรรคการเมือง นี่คือศักดิ์ศรีของคนเสื้อแดงที่ไม่จำเป็นต้องสวมเสื้อสีแดง ในทำนองเดียวกัน คนที่สวมเสื้อสีแดงก็อาจไม่ใช่คนเสื้อแดงจริง!
.
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #คนเสื้อแดง #ธิดาถาวรเศรษฐ