วันเสาร์, มีนาคม 18, 2566

ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แถลงโต้ พรรคภูมิใจไทย


https://www.facebook.com/ChuvitKamolvisit/videos/1946165862449508
ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์
Yesterday

เรียนพี่น้องประชาชนคนไทย
.
ที่ผ่านมา พี่น้องได้เห็นบรรดาพรรคการเมืองต่างๆ ซื้อเสียง มีบรรดา ส.ส. ย้ายพรรคไปมาจนประชาชนสับสน
.
ทั้งนี้ เหตุเกิดจากการที่พรรคการเมืองมีการสะสมทุนจากการบริหารงาน ทุจริตคอรัปชั่นงบประมาณในรูปแบบต่างๆ กับโครงของรัฐ
.
จวบจนถึงการเลือกตั้งในวาระอันใกล้นี้ พรรคการเมืองยังนำเสนอรูปแบบการเมืองที่ไม่มีอุดมการณ์
.
หนักกว่าเดิม คือ การสมคมคิด วางแผน ครอบงำ เพื่อร่วมจัดตั้งรัฐบาล โดยใช้ประชาชนเป็นเพียงเครื่องมือผ่านระบบการเลือกตั้ง
.
หลังการเลือกตั้ง จะเห็นการตระบัดสัตย์ของนักการเมืองที่พูดไว้อย่าง แต่กลับกระทำการในทิศทางตรงกันข้าม
.
เช่น การบอกว่า “ไม่ร่วมผสมพันธุ์กับเผด็จการ” แต่ภายหลังยอมเสียอุดมการณ์ไปร่วมด้วย เพียงเพื่อจะได้เข้าไปเป็นฝ่ายบริหาร เสมือนหนึ่งการหลอกลวงประชาชนทั้งประเทศ
.
ทั้งนี้เพื่อจะได้ทุจริต สะสมทุนทางการเมืองและกลับมาเป็นรัฐบาลอีก
.
ในขณะที่คอรัปชั่นกัดกินไปทุกวงการ ต้นเหตุจากพรรคการเมือง ที่ยึดถือเอาทุนการเมืองมากกว่าอุดมการณ์
.
การต่อสู้ของผมนั้น กระทำในนามประชาชน จำเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้พรรคการเมืองได้เรียนรู้ว่า ประชาชนไม่ใช่เครื่องมือของพรรคการเมืองอีกต่อไป
.
ขอยกตัวอย่าง กรณีกัญชาเสรี นับว่าเป็นเรื่องร้ายแรงที่พรรคการเมืองอย่าง “พรรคภูมิใจไทย” ปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติด ด้วยความไม่ระมัดระวัง และเร่งรีบ เพื่อนำผลงานไปใช้ในการหาเสียง
.
ความเป็นจริง กัญชาไม่ใช่ยาวิเศษ ที่จะรักษาโรคได้ทุกโรค แต่กลับมีโทษมหันต์ โดยไม่มีการควบคุม มีเพียง “กฎกระทรวง” เท่านั้น
.
ผลลัพธ์ของกัญชา สะท้อนไปถึงพ่อแม่ที่มีลูก เด็กและเยาวชนเข้าถึงกัญชาได้ง่าย
.
ผมเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่าจำเป็นต้องควมคุมกัญชาที่อ้างว่า “เพื่อการแพทย์” แต่ไม่ได้ให้แพทย์เป็นผู้ออกใบสั่งยา
.
มีการซื้อขายอย่างเสรี โดยไร้การควมคุมอย่างจริงจัง
.
อีกทั้ง พรบ.กัญชากัญชง ยังไม่ผ่านสภา แสดงให้เห็นว่ามีพรรคการเมืองในสภาที่ไม่เห็นด้วยต่อร่างกฎหมายดังกล่าว
.
การรณรงค์ของผมในนามประชาชน ที่ต่อต้านกัญชาเสรี ย่อมเป็นสิทธิที่รับรองในรัฐธรรมนูญ
.
ทั้งเรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่มีการเสนอผลประโยชน์ตอบแทนให้รัฐแตกต่างกันถึง 1,000 เท่า
.
โดยบริษัทที่ถูกกีดกัน เสนอผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่รัฐ 70,000 ล้านบาท ภายใน 30 ปี
.
แต่บริษัทที่ชนะการประมูล กลับเสนอผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่รัฐเพียง 7,000 ล้านบาท ภายใน 30 ปี
.
ย่อมแสดงให้เห็นถึงความไม่ชอบมาพากลเป็นอย่างยิ่ง และทำให้รัฐสูญเสียประโยชน์ที่ควรจะได้ถึงกว่า 60,000 ล้านบาท
.
ที่ไม่อาจทราบได้ว่า ผลประโยชน์เหล่านั้นไปตกอยู่กับผู้ใด
.
ในการประชุม ค.ร.ม. ที่ผ่านมา มีความพยายามที่จะอนุมัติโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มให้ทันก่อนมีการยุบสภา ทั้งๆที่ มีการฟ้องร้องอยู่ที่ศาลปกครอง 2 คดี
.
ทั้งสองเรื่องเป็นผลประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ ไม่ได้เป็นเรื่องส่วนตัวแต่อย่างใด
.
พรรคภูมิใจไทย มีการจัดตั้งในรูปแบบพรรคการเมือง มีการหาเสียง เป็นการสื่อสารถึงประชาชน
.
การที่ประชาชนโต้ตอบสื่อสารกลับ ย่อมเป็นสิทธิอันชอบธรรม
.
ผมไม่ได้นำเรื่องส่วนตัวมากล่าวโจมตี ตรงกันข้าม พรรคภูมิใจไทยและสื่อพันธมิตรอย่างผู้จัดการ ได้ใช้ทุกเรื่องเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของผมมาโจมตี อย่างในการแถลงข่าวของพรรคภูมิใจไทย
.
การต่อต้านของผม เป็นไปด้วยความสุจริต และไม่ได้ทำให้ประชาชนทั่วไปเดือดร้อน ไม่ได้ปิดถนน ไม่ได้ปิดสนามบิน หรือทำให้สังคมมีปัญหาแต่อย่างใด
.
พฤติกรรมการฟ้องร้องประชาชนของพรรคภูมิใจไทย ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า เป็นการกลั่นแกล้งประชาชนเพียงคนเดียว
.
โดยการขู่ว่า บรรดาผู้สมัคร ส.ส. ของตัวเองรุมกลั่นแกล้ง ใช้การฟ้องร้องเพื่อให้ประชาชนอย่างผมเดือดร้อน
.
เป็นการกระทำที่ส่อให้เห็นความไม่สุจริต ทั้งนี้ เพื่อให้ผมเกรงกลัว โดยใช้ช่องทางของกฎหมายปิดปาก
.
ผมยินดีที่จะสู้ตามกระบวนการใช้วิถีทางประชาธิปไตยในการต่อสู้
.
ทั้งนี้เพื่อให้เห็นว่า การที่ประชาชนไม่เห็นด้วยกับนโยบายของพรรคการเมืองย่อมเป็นสิทธิอันชอบธรรม
.
หากประชาชนคนใดเห็นด้วย สามารถโหวตให้พรรคภูมิใจไทย และหากใครไม่เห็นด้วย ก็สามารถไม่โหวตให้พรรคภูมิใจไทยได้
.
การกล่าวหาต่างๆ ของผมนั้นเน้นในเรื่องนโยบายและผลประโยชน์ของสังคม ประเทศชาติส่วนรวมเป็นหลัก
.
และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ปรากฏตามข่าวที่สื่อมวลชนและสังคมได้เห็น
.
ผมขอยืนยันอีกครั้งว่า การต่อต้านจะดำเนินต่อไปในอนาคต โดยเฉพาะในช่วงการรณรงค์การเลือกตั้ง
.
ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินใจด้วยตัวเอง ว่าควรตัดสินใจเลือกพรรคใด และเป็นการให้บทเรียนแก่พรรคการเมืองไม่ให้กระทำการตามอำเภอใจ โดยไม่เห็นแก่ประโยชน์ ต่อส่วนรวม
.
ได้รับรู้การทุจริตคอรัปชั่น เพื่อให้สังคมได้ตื่นตัว ตระหนักถึงภัยต่อสังคม
.
และท้ายสุดทำให้ประเทศไทย ได้พัฒนาเทียบเท่าอารยประเทศ
.
ขอให้ประชาชนคนไทยทุกคนจงได้รับชัยชนะ มีสติปัญญา ในการตัดสินใจตามระบอบประชาธิปไตย
.....

ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์
10h

400 รุม 1 ปิดปากประชาชน
.
พรรคการเมืองอย่าง “ภูมิใจไทย” ย่อมต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้โดยประชาชน ที่จะต้องไปลงคะแนนเลือกตั้ง
.
การสนับสนุน หรือต่อต้าน ย่อมเป็นสิทธิอันชอบธรรมของประชาชน
.
แต่เมื่อ “ความกลัว” เข้าครอบงำ จึงต้อง “ปิดปาก” ประชาชนด้วยการขู่
.
ถึงขนาดจะนำผู้สมัคร ส.ส. ทั่วประเทศ 400 เขต มารุมฟ้องร้องคนคนเดียว
.
อ้างว่าผม “รับงาน” แต่ไม่บอกว่ารับจากใคร ไม่สุจริตอย่างไร เอาแต่ใส่ร้ายว่า “มือไม่สะอาด”
.
ผมจึงล้างมือให้สะอาดก่อน เพื่อพิสูจน์ให้ดู พบว่า “ไม่สกปรก”
.
และยื่นหนังสือให้ กกต. สอบสวนยุบพรรคภูมิใจไทย
.
โดยยึดบทบัญญัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 72 ห้ามมิให้พรรคการเมืองและผู้ดํารงตําแหน่งในพรรคการเมืองรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่า มีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
.
หัวใจคือ รู้ว่าเงินที่ได้รับบริจาค ได้มา หรือมีแหล่งที่มาไม่ชอบด้วยกฎหมาย
.
จึงต้องยุบพรรคภูมิใจไทย และกรรมการต้องเว้นวรรคทางการเมือง 10 ปี หรือตลอดชีวิต หลังจาก กกต. ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน
.
ที่พรรคภูมิใจไทยบอกว่า ผมใช้ “ศาลเตี้ย” ยังสงสัยว่าเตี้ยตรงไหน?
.
เพราะศาลรัฐธรรมนูญไม่น่าจะใช่ศาลเตี้ยแน่นอน
.
ตอนนี้ พรรคทั้งพรรค รุมกลั่นแกล้งเล่นงานผมคนเดียว
.
นายอนุทิน หัวหน้าพรรค พูดถึงผมว่า “ไม่มีต้นทุน”
.
นายศักดิ์สยาม เลขาฯ พรรค บอกว่าผม “สติไม่ดี”
.
นายศุภชัย นายทะเบียนสมาชิกพรรค บอกว่าผม “มือไม่สะอาด”
.
ทุกๆ คำของพรรคภูมิใจไทย ล้วนเป็นการพูดสนุกปาก ไม่มีเหตุผลโต้ตอบในเรื่องนโยบายที่ผมนำมาให้สังคมพิจารณา
.
สมองคงกลวง ได้แต่สวมพวงมาลัย ยกมือไหว้ ขึ้นเวทีปราศรัยไม่รู้เรื่องไปวันๆ
.
ป่านนี้คงนอนไม่หลับ กลัวหาเสียงฟรี โอกาสถูกยุบพรรคสูง จะก่อนหรือหลังเลือกตั้งเท่านั้นเอง
.
แปลกจริงๆ พรรคทั้งพรรค ที่มีบุคลากร กำลังเงินเพียบพร้อม กลับกลัวผม ประชาชนเพียงคนเดียว
.
เครือข่ายหัวคะแนน รูปแบบการเมืองใหญ่โต ดันหมดหนทางไปต่อเอาดื้อๆ
.
ถึงขนาดต้องออกมาขู่ “ปิดปาก”
.
คงใช้เงินจนเสียนิสัย พอเจอลูกเล่นของผมเข้าหน่อย ไปไม่เป็นล่ะสิท่า
.
โถ ยังไม่ได้เผาจริงเลย
.
นี่แค่ “เผาหลอก” อยู่นะครับ