วันพฤหัสบดี, สิงหาคม 04, 2565

อัฟเดท ชีวิตผู้ลี้ภัยวงไฟเย็นที่ฝรั่งเศส โอกาสครบ3ปีบนบ้านหลังใหม่ของชีวิต


Nithiwat Wannasiri
Yesterday

2 สิงหาคม 2022
ชานเมืองปารีส ลมหนาวเริ่มมาเยือนได้2วันในยามค่ำคืน
ครบ3ปีแล้วที่เรามาเหยียบยืนบนบ้านหลังใหม่ของชีวิตที่ปารีส
เป็น3ปีที่ไม่ง่ายเลยของชีวิตเรากับการปรับตัวลงหลักปักฐานให้ที่ใหม่ที่ไม่คุ้นเคยแม้แต่แรกเริ่มการนั่งเครื่องบิน
ตลอดชีวิตเราเคยนั่งเครื่องบินเพียง2ครั้ง คือครั้งแรกจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ และครั้งล่าสุดคือจากเวียงจันทน์มาสู่ปารีส ถ้าไม่นับรวม5ปีในสปป.ลาว ฝรั่งเศสก็คือ"แผ่นดินประเทศอื่น"ที่แรกในชีวิตที่เราได้เดินทางไกล
ปีแรกที่ฝรั่งเศสผ่านไปอย่างยากลำบาก การยื่นหนังสือเอกสารเพื่อเข้าสถานะผู้ลี้ภัยที่ได้รับความคุ้มครองจากรัฐไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับคนที่ไม่รู้ภาษาฝรั่งเศสแม้แต่น้อย ต้องเดินทางขึ้นลงปารีส-บอร์กโดซ์เกือบสิบครั้งเพื่อสมัครเข้าระบบผู้ลี้ภัยที่นั่น เนื่องจากในปารีสคิวยาวเหยียดโทรติดต่อขอคิวยื่นลี้ภัยกับหน่วยงานไม่สำเร็จกว่า2อาทิตย์จนถอดใจไปยื่นที่เมืองอื่นซึ่งจำนวนคนยื่นเบาบางกว่า
หลายครั้งต้องตื่นตั้งแต่ตี4เพื่อไปต่อคิวยาวเหยียดเพื่อยื่นเอกสาร ทำเอกสาร รับเอกสารใหม่ กับหน่วยงานของรัฐ ที่ไม่พูดภาษาอังกฤษกับเราเลย ซึ่งโคตรลำบาก ต้องขอบคุณความช่วยเหลืออย่างมากมายจากพี่น้องฝ่ายประชาธิปไตยในฝรั่งเศสที่ช่วยเหลือด้านที่พัก ปัจจัย อาหาร และการเดินทาง มาโดยตลอด
ตลอด3ปีมานี้ ด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัยที่หาที่พำนักใหม่ ระหว่างรอเข้าระบบ รอทำบัตรผู้พำนัก10ปี เราต้องย้ายที่พักชั่วคราวมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6-7 ครั้ง ตามแต่รัฐจะจัดหาที่เหมาะสมให้ และมีช่วง2ปีที่หนักหนาสาหัสกับวิกฤติโควิด-19 เรายังชีพอยู่ได้ด้วยเงินชดเชยผู้ว่างงานจากรัฐ เงินรายได้เล็กๆน้อยๆจากยูทูป และรับจ็อบนวดฝ่าเท้าลุงๆป้าๆเสื้อแดงในปารีส
การเรียนภาษาฝรั่งเศสเป็นอะไรที่โคตรปวดหัวที่สุด ขนาดภาษาอังกฤษเราเรียนตั้งแต่ป.4 ยังพูดได้แค่งูๆปลาๆแกรมม่าวิบัติ มาเจอภาษาฝรั่งเศสที่อัดเข้าสู่สมองเราภายในสองปี ก็ปะปนกับภาษาอังกฤษเดิมในหัว โคตรเบลอแล้วก็ยังพูดได้แค่งูๆปลาๆมาจนถึงวันนี้
ที่พักใหม่เราเริ่มอยู่ตัวแล้ว แม้จะออกนอกเมืองมาไกลสักหน่อย แต่ก็กว้างขวาง วิวดี อากาศดี เพื่อนร้วมบ้านซึ่งเป็นผู้ลี้ภัยจากอัฟกานิสถานและกีนีโกนาครีก็เป็นมิตรดีทุกคน เพียงแต่เราต้องปรับตัวนิดหน่อยเพราะเพื่อนร่วมบ้านใหม่3คนเป็นเพื่อนมุสลิมทั้งหมด เราก็คงต้องงดเว้นการทำอาหารจากเบค่อนไปก่อนเพื่อไม่ให้กลิ่นควันและเศษอาหารไปรบกวนเตาและซิ้งค์น้ำรวมของเพื่อนร่วมบ้านอีก3คน
แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับเราเท่าไหร่เพราะปกติก็ไม่ค่อยทำกับข้าว และเนื้อกับไก่ที่ฝรั่งเศสมันคุณภาพสูงจนเราก็กินได้ไม่เบื่อเช่นกัน บางวันเพื่อนร่วมบ้านแบ่งปันอาหารฮาลาลให้กินบ้าง ปั่นนมสดกับกล้วยและอินทผาลัมให้ดื่มบ้าง ก็อร่อยมิใช่น้อย
เราไม่ได้คิดถึงบ้านเท่าไหร่ เพราะปกติอยู่ไทยก็เดินสายขึ้นเหนือล่องใต้ร้องเพลง แทบไม่ได้อยู่บ้านเป็นหลักเป็นแหล่งอยู่แล้ว และชีวิตใหม่ที่ปารีสนี่ก็มีความสุขมากที่มีเสรีภาพเหนือกฎหมายทุกมาตราในประเทศกะลาแลนด์ (ดังนั้นส่วนตัวจึงไม่ขอรับการนิรโทษกรรมทางการเมืองใดๆที่ออกมาจากสภาโจรของระบอบกษัตริย์)
สองปีก่อนเราถูกลอบทำร้ายพร้อมผู้ลี้ภัย112อีกคนนึงในปารีส จากฝีมือแก๊งค์มาเฟียรับจ้างจากสาธารณรัฐเช็ค ซึ่งไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใครว่าจ้างพวกมันข้ามประเทศมา เพราะเราไม่เคยมีเรื่องกับใครอื่นนอกจากพวกเจ้า แต่โชคดีที่ที่นี่ฝรั่งเศส ตำรวจจับพวกมันได้ทันควันและสั่งจำคุกปีกว่าๆและเนรเทศออกจากฝรั่งเศส5ปี
อัพเดทความเปลี่ยนแปลงบนแผ่นดินใหม่ บ้านหลังใหม่ ในวันครบรอบ3ปีที่ได้มาเหยียบแผ่นดินฝรั่งเศสไว้ประมาณนี้ก่อนละกัน