เอ่ ตอนทหารจัดฉายหนังกลางแปลงในค่ายให้ไพร่ราบกำลังพลดูกันนั้น มีใครสงสัยหรืออยากรู้ว่าสิ้นเปลืองเท่าไหร่ ใช้งบประมาณส่วนไหนบ้างมั้ย แต่พอผู้ว่า กทม.จัดที่ลานคนเมือง โหยเม้าท์กันท่าไว้เลย ใช้งบฯ เป็นร้อยล้าน
แบบนี้ต้องว่าไปเลยพวกเชียร์อำนาจนิยม มีอุณหภูมิของความริษยาสูงกว่าพวกหนุนเลือกตั้งประชาธิปไตย อยู่ที่ พอทหารทำอะไรนอกเหนือกงการละก็ ความไม่พอใจอาจมีแค่รุมๆ ครั้นพลเรือนทำเพื่อสัดส่วนของตนบ้าง ปัญหารีบมาเชียว
เพจเฟชบุ๊ครายหนึ่งใส่เลยว่าค่าจ้างหนังจอละ ๘ ล้าน ยี่สิบจอก็ปาเข้าไป ๑๖๐ ล้าน ปั้นเก่งขนาดนี้ถ้าไม่ใช่ไอโอก็สลิ่มริมทางละมัง จนผู้เกี่ยวข้อง เช่น บัณฑิต ทองดี อดีตนายกสมาคมผู้กำกับฯ ต้องแจ้งข้อเท็จจริงยัดใส่กะโหลก
“ว่าการฉายทั้งหมด ๒๕ ครั้ง ใช้เพียง ๑๕๐,๐๐๐ บาท เป็นค่าแรงของทีมงานฉาย เท่ากับจุดละประมาณ ๖,๐๐๐ บาท เท่านั้น” น่าจะน้อยกว่ารายการของทำเนียบรัฐบาลที่คลองผดุงกรุงเกษมด้วยซ้ำ อีกทั้งดาราที่ไปร่วมแสดงบนเวทีก่อนหนังฉายเผยซ้ำ
‘ทราย’ อินทิรา เจริญปุระ เขียนเฟชบุ๊คโต้ “มันไม่ใช่เลย คือเราได้รับความอนุเคราะห์ช่วยเหลือจากหลายฝ่ายมากๆ ที่รักหนัง อยากให้พื้นที่เมืองได้มีชีวิตชีวา ทั้งจอ ทั้งพื้นที่ ทั้งออกร้าน จัดสรรงบที่มีเป็นค่าแรงค่าน้ำมันของพันธมิตร ที่ช่วยเหลือกันเท่านั้นเอง”
นักแสดงทั้งหมด ติ๊ก เจษฎาภรณ์, อุ๋ย นนทรีย์, ทราย เจริญปุระ, เบิร์ดกะฮาร์ท และปั่น ไพบูลย์เกียรติ ไปร่วมงาน โดยไม่มีใครคิดค่าตัวสักคน นี่เป็นการตบหน้าสองฉาด หน้ามือตามด้วยหลังมือ ต่อสถาบัน ‘bowl movement’ อะไรนั่น
ก็คงทำให้แค่แสบๆ คันๆ เท่านั้นมัง เห็นว่าพวกนี้หนาพอ แหลพอ และเหี้ย มพอ
(https://prachatai.com/journal/2022/07/99422 และ https://www.matichon.co.th/entertainment/news_3442910)