เห็นอาการร้อนรนของ นพดล กรรณิการ์ กับ เสกสถล อัตถาวงศ์ แล้วฟันธงได้เลยละว่า ทั้งคู่เป็น ‘ไอโอ’ ของประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยตรง
พอเสร็จอภิปราย ทั้งที่คะแนน ‘กล้วย’ ทำให้ไถรัฐมนตรีทั้ง ๑๑ คน รวม ๓ ป.ไปต่อกันได้ ก็ยังทำให้นพดลและเสกสถลร้อนรนอยู่ไม่ติด เพราะเที่ยวนี้ฝ่ายประชาชนจริงไม่ยอมทน ไม่เฉย จัดโหวตคู่ขนานกับนักการเมืองในสภา
ผลคะแนนไม่ไว้วางใจนอกสภากว่า ๙๘ เปอร์เซ็นต์ทั้งนั้น ไม่ว่าจะโหวตด้วยการหย่อนบัตร หรือโหวตออนไลน์ผ่านการแสกนคิวอาร์โค้ด ทำให้นพดลรีบออกโพลของตัวเองตามมาบ้าง บอก “ประชาชนเกือบทั้งประเทศเทใจ ไว้วางใจประยุทธ์ทำงานต่อไป”
ที่จริง ‘ซูเปอร์โพล’ ของนพดลเนี่ยน่าจะเรียก ‘ซัปเปอร์โพล’ ข้าวต้มรอบดึก ไม่ได้แค่กินกล้วย ๓ ปี อย่างพวกปลาซิวปลาสร้อยปัดเศษ แต่กินกันมาทุกค่ำคืนกว่าแปดปีเห็นๆ แถมคราวนี้ออกโพลค้านอภิปรายฝ่ายค้านโดยตรง
“ไม่มีเรื่องใหม่ ไร้สาระ ไม่มีน้ำหนัก แนะควรปรับ ครม.เพิ่ม นำคนดีๆ เข้ามาเพื่ออยู่ยาว” ขอบคุณ แมวเกเร @Unrulycat2511 สรุปให้ พอออกมาอย่างนี้ ‘แรมโบ้’ รับลูกทันที “จี้ฝ่ายค้านแหกตาดูซูเปอร์โพล” หาอ่านได้เฉพาะที่สื่อผู้จัดการ
ด้านโฆษกรัฐบาลเอาบ้าง บอกว่าการทำประชามตินอกสภาแค่จัดฉาก รายนี้ C.Veasarach@Veasarach_MFP_N เป็นประธานเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี และกรรมการจังหวัดของก้าวไกล ว่า “ผมเนี่ยเดินไปหาประชาชนทีละคนด้วยตัวเอง” นะ
โฆษกอย่ามั่ว ใครกันแน่จัดฉาก “ถ้ายอมรับเสียงของประชาชนไม่ได้ก็อย่ามาทำงานการเมืองเลย ลาออกซะ” เรื่องนี้อย่าหวัง ไม่หนาพอไม่อยู่มาถึงแปดปีแล้วยังจะไปต่อ พวกเขาเตรียมการไว้หมด ไม่ว่าจะเป็นกลเม็ดเด็ดพราย ไปถึงวิชามาร
อย่างนพดลนี่ลงมือตั้งแต่เห็นว่าการอภิปรายของฝ่ายค้านสกิดแผลกลัดจนหนองจะแตก พอนอกสภาเริ่มโหวต ๒๒ กรกฎา ก็เอาเชียว ออก ‘Rebuttal’ แย้งก่อนรู้ผล ว่าโหวตคู่ขนาน “เป็นยอดที่ปั่นได้ เครือข่ายเสียงประชาชน จริงหรือ”
เขาแจกแจงด้วยความรู้ดีวิธีปั่นทำอย่างไร “คนหนึ่งคนปั่นยอดไม่ไว้วางใจซ้ำๆ ได้ ๔ วิธีคือ ๑.ใช้ incognito mode ๒.เปลี่ยน Browser ๓.ลบ cookies และ ๔.เปลี่ยนอุปกรณ์ ผลที่ตามมาคือ Error และ Bias” ทำความเข้าใจวิธีการเหล่านี้ได้ง่าย
สำหรับผู้ใช้คอมพิวเตอร์และเครื่องมือสื่อสารระบบดจิทัล การใช้โหมดไม่ระบุตัวตน เปลี่ยนระบบเข้าอินเตอร์เน็ต ลบคุกกี้ตัวช่วยแสดงข้อมูล หรือเปลี่ยนอุปกรณ์ เทียบได้กับบัตรผีหรือไพ่ไฟ แต่การดำเนินการของนักวิชาการ ๔ มหาวิทยาลัยไม่ใช่อย่างนั้น
มีการจัดระบบเพื่อรับข้อมูลไม่ให้ซ้ำกัน ผลออกมาคือมีผู้เข้าร่วมโครงการกว่า ๕ แสนคน ที่ ยิ่งชีพ (เป๋า) @yingcheep แห่ง ‘ไอลอว์’ เรียกว่า ‘Active Citizen’ “เป็นเรื่องที่ดี และเป็นอัตราส่วนที่เป็นไปได้” เขาจึงตั้งข้อสังเกตุไว้ตรงเผง
“ถ้าหากใครศึกษาแล้วทราบวิธีการนั่งปั่นยอดโดยคนไม่กี่คน ก็น่ากลัวว่าคนนั้นๆ แหละที่เป็นคนปั่น”