ไม่ต้องดูไกล ปัญหาสายสื่อสารระโยงระยางและขยุกขยุ้ยริมทาง จน รัสเซิ่ล โครว์ ดาราออสซี่เก็บภาพไปลงทวิตเตอณ์กลายเป็นไวรัลความล้าหลัง เพิ่งได้เวลาเริ่มจัดการเอาลงดิน ต่อเมื่อได้ผู้ว่า กทม.คนใหม่ คะแนนเสียงถล่มทะลายนี่ละ
“คนไทยจะยอมทนทุนผูกขาดอีกนานแค่ไหน?” ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวาณิชย์ แห่ง ‘ทีดีอาร์ไอ’ ออกอาการเซ็งด้วยคำถาม เมื่อมีข่าวว่า “AIS ซื้อ 3BB เพื่อขึ้นแท่นเบอร์ ๑ เน็ตบ้าน” นัยหนึ่งเป็นการต่อกรกับกลุ่มบริการมือถือ ทรูและดีแท็ค ควบรวมกัน
ช่วงชิงการผูกขาด ไม่ต้องคำนึงผลกระทบผู้บริโภค ซึ่งจะมีจำนวนไม่น้อยรอดรูตะแกรงลงไปในปลักของเสียกันละ “ตลาดโทรคมนาคมไทยกำลังเสี่ยงอย่างยิ่งต่อการเพิ่มโครงสร้างที่ผูกขาดมากขึ้นจนถึงขั้นอันตราย” ประธาน TDRI เตือนสาธารณะ
แม้นว่าดีลหลังนี่ “ดีกว่าตรงที่ยังยอมรับว่า การควบรวมต้องผ่านการอนุญาตจาก กสทช. ก่อน” ดีลทรู-ดีแท็คนั้นไม่อิงผลประโยชน์ประชาชน และ ‘สน’ ระเบียบการจากภาครัฐ “ดีลแรกยังยืนกระต่ายขาเดียวว่า แค่ขออนุญาตผู้ถือหุ้นก็พอ”
แค่อ้างว่า “ประชาชนและนักวิชาการจำนวนมากสนับสนุนการควบรวม” เท่านั้น ดูเหมือน กสทช.ทำท่าเด๋อด๋า ยินดีปรีดาไปด้วย ดร.สมเกียรติว่าดีลแบบนี้ “เคยเกิดขึ้นในธุรกิจโรงหนัง ค้าปลีกขนาดใหญ่ โรงพยาบาลและอื่นๆ อีกมาก
...ซึ่งไม่ใช่เฉพาะคนจนเท่านั้นที่เดือดร้อน แต่ยังกระทบมาถึงคนชั้นกลางจำนวนมากด้วย” ดีลใหม่นี่ก็เช่นกัน การที่แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส เข้าซื้อหุ้นในบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ แล้วยังซื้อหน่วยงานลงทุนในกองทุนรวม ‘จัสมิน’
ทำให้โครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตทั้งหมดอยู่ในกำมือสุดๆ ยังต้องลุ้นกันอีกหน่อยว่า กสทช.จะเออออห่อหมกด้วยขนาดไหน ต้องจับตา “การจัดการอำนาจผูกขาดของธุรกิจเอกชนโดยหน่วยงานรัฐไทย ทั้ง กสทช. หรือคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า (กขค.)”
แล้วยังมี “ผู้ใช้อำนาจอธิปไตยทั้งคณะรัฐมนตรี สภาและฝ่ายตุลาการ” เป็นปัจจัยขย้ำซ้ำเข้าอีกด้วยได้ ส่งผลตรงต่อ “อนาคตการพัฒนาประเทศ และแนวโน้มของความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ-สังคมไทย” แน่นอน
(https://www.prachachat.net/ict/news-971983 และ https://www.facebook.com/longtunman/posts/1341089003090371)