ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
2h
11 ก.ค. 2565 หลังจากวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เรามาเยี่ยม #บุ้ง และ #ใบปอ ตามปกติ ใบปอเดินเข้ามาอย่างอ่อนแรงและซีดเซียว น้ำเสียงดูเนือยเหมือนร่างกายไม่แข็งแรง “หนูเพลียมาตั้งแต่วันพฤหัส-ศุกร์ หน้ามืดทั้งวันเลย หัวใจเหมือนใจสั่น มือชา เท้าชา เวียนหัวแบบเซๆ” ใบปอยังคงปฏิเสธยา ไม่กินยา เนื่องจากกรณีการรักษาของนายแพทย์ชาตรีที่สถานพยาบาล
.
เราเสนอให้ใบปอจิบน้ำหวานเผื่อได้มีแรง แต่ใบปอบอกว่า “อะไรก็ไม่น่าช่วยแล้ว” เธอย้ำว่าวันนี้วันที่ 40 แล้ว เธอบอกว่า “แค่ลุกนั่ง ก็หน้ามืดแล้ว” เธอมีอาการเหนื่อยและเซ นอนตอนกลางคืนก็ยังไม่พอ ขึ้นห้องบ่ายสามตื่นมาตีห้า ก็ยังเพลีย ทางเรือนจำให้ขึ้นกี่โมงก็นอนเลย ก่อนหน้านี้ก็มีตื่นบ้าง
.
ด้านบุ้ง เล่าว่าวันเสาร์ที่ผ่านมา เธอโดนผู้คุมชื่อ อัญชลี คงมั่น ใช้ไม้บรรทัดตีที่แขน โดยไม่มีสาเหตุ เพียงเพราะเดินผ่านกันเฉยๆ บุ้งคาดว่าอาจเพราะเธอไม่ได้ค้อมตัวหรือคุกเข่าเวลาที่เดินผ่าน
.
บุ้งไม่เคยเจอผู้คุมคนนี้มาก่อน เพราะเป็นผู้คุมเรือนจำอีกฝั่ง บุ้งถูกตีด้วยแรงที่ทำให้เจ็บ แต่แขนไม่ได้เขียวหรืออะไร แต่เธอก็แค่งงและถามกลับว่ามาตีบุ้งทำไม ก่อนได้รับคำตอบว่า นี่เจ้าหน้าที่นะ บุ้งก็บอกว่าแล้วยังไง ก็คนเหมือนกัน ก็ไม่ได้รับคำตอบ ตอนนี้บุ้งยังไม่ได้รับคำตอบว่าผู้คุมตีบุ้งทำไม ถามเพื่อนที่อยู่ตึกฝั่งโน้น ก็เคยบอกว่าถูกตีเหมือนกัน วันนี้บุ้งเลยอยากเขียนจดหมายถึงคนข้างนอกต่อกรณีนี้
.
ตลอดการสนทนากับบุ้งและใบปอ บุ้งกลายเป็นคนพูดคุยหลัก เพราะใบปอมีอาการเหนื่อย จนต้องฟุบหน้าลงอยู่กับโต๊ะ ใบปอบอกว่า ยังหวังจะได้ออกไปเพื่อไปรักษาตัวข้างนอก
.
บุ้งยังถามว่าวันที่ 18 ก.ค. จะต้องออกไปศาลหรือเปล่า เพราะใบปอดูร่างกายจะไม่ไหวแล้ว เราแจ้งว่าจำเป็นต้องออกไปเพราะเป็นนัดตรวจพยานหลักฐานในคดีทำโพลขบวนเสด็จ ที่ทั้งสองถูกฟ้องพร้อมกับคนอื่นๆ บุ้งและใบปอบอกว่าถ้าจะต้องออกจริงๆ ก็จะพยายามๆ เข็นกันออกมา
.
……………………………
.
#จดหมายจากบุ้ง
สวัสดีค่ะ
.
บุ้งเองนะคะ วันนี้บุ้งมีเรื่องอยากจะบอกเล่าให้คนข้างนอกรับรู้ เมื่อวันเสาร์ที่ 9 ก.ค. 2565 ช่วงเช้าที่ผ่านมา ขณะที่บุ้งกำลังเดินเอาผ้าไปส่งซักรีด มีผู้คุมชื่อ อัญชลี คงมั่น ใช้ไม้บรรทัดตีเข้าที่แขนขวาของบุ้ง โดยไม่ทราบสาเหตุ บุ้งตกใจและงงมาก ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น บุ้งขอยืนยันว่าบุ้งเดินตามปกติ ไม่ได้ชนหรือถูกเนื้อต้องตัวเขาเลยแม้แต้น้อย บุ้งถามเขาไปว่าตีบุ้งทำไม ได้รับคำตอบเสียงดังกลับมาเพียงแค่ว่า “นี่เจ้าหน้าที่นะ”
.
ในขณะที่บุ้งถามเขา มีเสียงไม่พอใจจากเพื่อนผู้ต้องขัง ส่งมาที่บุ้ง ทำให้บุ้งหดหู่ใจว่าที่นี่มีการตีนักโทษเป็นเรื่องปกติหรือ ทำไมการลุกขึ้นมาปกป้องตัวเองถึงเป็นเรื่องแปลกประหลาดในเรือนจำ
.
บุ้งไม่ได้ต้องการคำขอโทษ คนที่ตีคนอื่นได้หน้าตาเฉย เพราะเขาคงไม่มีจิตสำนึกตั้งแต่แรก แต่บุ้งต้องการให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด ไม่ใช่เพื่อปกป้องสิทธิของบุ้งแต่เพียงเท่านั้น แต่เพื่อปกป้องสิทธิของเพื่อนๆ ในเรือนจำด้วย จนถึงตอนนี้บุ้งยังไม่ได้รับคำตอบจากเขาเลยว่าตีบุ้งทำไม การทุบตีนักโทษในเรือนจำต้องไม่ใช่เรื่องปกติ
.
สำหรับสภาพร่างกายเราตอนนี้ ใบปอทรุดหนักลง น้องไม่มีเรี่ยวแรง ชาตามมือและเท้า แสบท้อง แสบหน้าอก หายใจไม่ออก แทบจะตลอดเวลาแล้ว บุ้งเองก็มีอาการแสบท้อง ปวดท้อง หน้ามืดตาลาย มือเท้าชา คุกหมุน แต่บุ้งยังลืมตาได้ ใบปอแทบจะลืมตาไม่ได้เลย
.
ทำให้วันนี้บุ้งที่แข็งแรงกว่าน้อง ต้องฮึดสู้ขึ้นมาเพื่อดูแลน้อง เพราะใบปอยืนยันปฏิเสธการรักษาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ใบปอบอกว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นถือเป็นความผิดของราชทัณฑ์ที่ส่งตัวล่าช้า และกระบวนการยุติธรรมที่ไม่ให้ประกันตัว
.
ขอบคุณคนข้างนอกทุกๆ คนที่ยังไม่ลืมคนในเรือนจำ
ข้อความในจดหมายเป็นความจริงทุกประการ มิได้ถูกบิดเบือนหรือใส่สีจากบุคคลอื่น
.
บุ้ง ทะลุวัง
ทัณฑสถานหญิงกลาง
70 วันที่ถูกคุมขัง
40 วันที่อดอาหาร
.
.
อ่านบนเว็บไซต์ https://tlhr2014.com/archives/45936