
Get Surariddhidhamrong
17h
ในเรือนจำ ผมอยู่ไปสักพักก็เริ่มปรับตัว ปรับใจได้ ส่วนสำคัญก็เพราะมีแรงสนับสนุนทั้งจากภายในและภายนอกเรือนจำนั่นแหละ…
แต่มันก็มีเรื่องที่บั่นทอนจิตใจ หรืออาจจะพูดได้ว่าบั่นทอนจิตวิญญาณเลย คือการไปฟังการไต่สวนของศาล ถ้าจำไม่ผิดทางทนายทำเรื่องขอประกันผมอยู่ 5 รอบ ตอนเช้าเราจะไปนั่งฟังโจทก์ ซึ่งคดีผมก็คือตำรวจ ให้เหตุผลว่าทำไมต้องฝากขังเราต่อ ได้ฟังการค้านจากฝั่งทนาย ตอนฟังเหตุผลของโจทก์เราก็จะคิดในใจว่า “เหตุผลแบบนี้หรอ มันไม่สมเหตุสมผล มันฟังไม่ขึ้นหรอก”
โดยสิ่งหลัก ๆ ที่โจทก์มักกล่าวว่าทำไมถึงปล่อยตัวผมไปไม่ได้คือ ผมเป็นอันตรายต่อพระมหากษัตริย์ เป็นภัยความมั่นคงของชาติ เป็นอันตรายต่อสังคม (ซึ่งผมก็ได้แต่คิดว่า อิหยังวะ ก็แค่พูดข้อมูลอีกด้าน ก็แค่ถามในสิ่งที่ข้องใจ คำพูดเรามันทำร้ายใครได้ขนาดนั้นเลยหรอ)
แต่พอศาลวินิจฉัยตอนบ่าย ศาลกลับรับเหตุผลที่โจทก์กล่าวอ้าง ซึ่งความเจ็บปวดคือ เราถูกกล่าวหาว่าเป็นตัวอันตรายต่อสังคมเพียงเพราะคำพูดของเราที่โจทก์คัดมาไม่กี่ประโยค บวกกับเหตุผลในการกล่าวหามันไม่สมเหตุสมผล แต่หลายครั้งศาลก็เชื่อและอนุมัติการขังผมต่อ
ในการขึ้นศาลเคยมีผู้พิพากษาคนหนึ่งบอกกับผมว่า
“โลกนี้มีสิทธิมนุษยชนอยู่ แต่คุณอยู่ในประเทศไทย ก็ต้องเคารพกฎหมายประเทศนี้”
แล้วผมก็มีคำถามในใจว่า
“ถ้าไม่สามารถออกกฎหมายและบังคับใช้ให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน ไปลงนามปฏิญญาสากลกับชาวบ้านทำไม”
ผู้พิพากษาคนหนึ่งบอกว่า
“อย่าหมดศรัทธาในกระบวนการยุติธรรมนะ การฝากขังครั้งนี้ (ครั้งที่ 3) จะเป็นครั้งสุดท้าย”
พอมาถึงครั้งที่ 4 โจทก์อ้างว่า “นายเขายังไม่ได้รับเอกสาร ขอฝากต่ออีก 12 วัน” เหตุผลแบบนี้ใครจะรับได้ แต่ศาลก็อนุมัติ รอบนี้ผมเลยโวยวายกับศาลไปว่า
“ครั้งที่ 2 ก็บอกว่าจะขังผมเป็นผัดสุดท้าย ครั้งที่ 3 ก็บอกแบบนั้น นี่มาต่อครั้งที่ 4 อีก แล้วบอกให้ผมศรัทธาในกระบวนการยุติธรรม ผมจะเชื่อใจศาลได้ยังไง สัจจะของศาลอยู่ที่ไหน”
ศาลตอบสั้น ๆ แค่ว่า
“ผมแค่มาอ่านคำพิพากษาครับ”
แล้วก็ปิดวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไป ทิ้งให้ผมนั่งหัวร้อนและสิ้นหวังอยู่ในเรือนจำ
หลังจากนั้น ผมคุยกับพี่ทนายแล้วบอกว่า “ผมไม่อยากขึ้นศาลแล้ว ตอนนี้ผมสุขภาพจิตดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่ผมก็รู้สึกถูกทำร้ายจากศาลมาตลอด ผมไม่อยากโดนเขาทำร้ายแบบนี้แล้ว…”
เพื่อนเราหลายคนมีความหวังที่จะได้ออกมา เพื่อยืนยันว่าพวกเขาไม่ได้ทำผิดอะไร ความเห็นที่แตกต่าง หรือการตั้งคำถามต่อสังคมมันไม่ได้ทำให้ใครบาดเจ็บหรือตาย เป็นสิทธิพลเมืองขั้น (โคตรจะ) พื้นฐาน แต่สิ่งที่กระบวนการยุติธรรมทำกับพวกเรามันคือการฆ่าเราให้ตายทั้งเป็น
ขอให้ศาลให้ความเป็นธรรมกับจำเลย
ขอให้สังคมเห็นถึงความอยุติธรรมที่กดทับประชาชน
ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนที่สู้อยู่ ทั้งในและนอกเรือนจำ
ขอให้ทุกคนได้ออกมาโดยเร็ว
ขอให้สิทธิ เสรีภาพ เบ่งบานในประเทศนี้ซักที
ฝากถึงผู้มีอำนาจ การที่คุณยัดหมาย กักขังประชาชนที่ออกมาแสดงความคิดเห็นแบบนี้ มันไม่ได้ส่งผลดีต่อคุณเลย มันยิ่งทำให้ศรัทธาและบารมีคุณเสื่อมถอย ถ้าคุณไม่เห็นด้วยกับความเห็นหรือคำถามของเรา ก็มานั่งคุยกันดี ๆ ชี้แจงกันอย่างสันติเถอะ
#ปล่อยเพื่อนเรา
#ยกเลิก112