
เครือข่ายประชาชน หนุน ก้าวไกล ดันบำนาญพื้นฐานถ้วนหน้า ยัน ไม่ได้ป้อง พิธา แต่ปกป้องข้อเท็จจริง ด้าน หัวหน้าก้าวไกล ปวารณาตัวเป็นผู้แทนฯ ดูแลปชช.-ผู้สูงอายุ
เมื่อเวลา 10.10 น. วันที่ 9 มิ.ย. 2565 ที่รัฐสภา นายนิมิตร์ เทียนอุดม ตัวแทนเครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการ พร้อมคณะ เข้ายื่นหนังสือต่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เพื่อช่วยผลักดันบำนาญพื้นฐานถ้วนหน้า ให้เป็นหลักประกันรายได้ของผู้สูงอายุทุกคนบนแผ่นดินไทย ตามหลักความเสมอภาค
โดยนายนิมิตร์ กล่าวว่า เครือข่ายประชาชนฯ ได้ติดตามการอภิปรายรายจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 มีพรรคการเมืองหลายพรรคอภิปรายถึงแนวทางการจัดสรรงบประมาณใหม่ ที่เน้นลดขนาดงบประมาณด้านโครงสร้างในระบบราชการ โดยเฉพาะงบในส่วนสวัสดิการ ทั้งของราชการและประชาชนที่ยังมีความเหลื่อมล้ำอยู่ คือ งบสวัสดิการบำนาญข้าราชการที่มีแต่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทางเครือข่ายยืนยันว่าไม่ต้องการให้มีการตัดงบฯ สวัสดิการหรือบำนาญของข้าราชการที่มีอยู่เดิม ส่วนข้าราชการใหม่ต้องมีระบบการจัดการใหม่
“วันนี้ทางเครือข่ายประชาชนฯ มาเพื่อให้กำลังใจ ไม่ได้มาปกป้องนายพิธา แต่มาปกป้องข้อเท็จจริงที่นายพิธาพูด สิ่งที่พวกเราได้ฟัง ส.ส.ทุกพรรคอธิบายเป็นสิ่งที่สำคัญและขอชื่นชม เพราะเครือข่ายประชาชนฯ มองเห็นว่าสำคัญ หากจะจัดให้เกิดรัฐสวัสดิการของประเทศนี้ได้ สิ่งแรกๆ ที่จะวิเคราะห์วิจารณ์และแก้ไข คือ การจัดการงบประมาณ ฉะนั้น สิ่งที่พรรคก้าวไกลพูด หรือสิ่งที่พรรคอื่นๆ พูดจึงเป็นสิ่งสำคัญ และอยากให้ทำหน้าที่นี้ต่อไป” นายนิมิตร์ กล่าว
ด้านนายพิธา กล่าวว่า ขอบคุณกำลังใจ ข้อแนะนำ และทุกข้อท้วงติง ไม่ได้ทำให้เสียกำลังใจ ทุกกำลังใจจะเก็บไว้ ไม่เหลิง แต่จะนำไปเป็นพลังเพื่อทำงานให้ดีขึ้นต่อไป ตนตั้งใจปวารณาตนไว้แล้วว่าจะเป็นนักการเมืองที่ดูแลประชาชน โดยเฉพาะผู้สูงอายุในวิกฤตผู้สูงวัย ไม่ว่าเขาจะเป็นอาชีพอะไร ประชาชนหรือข้าราชการ โดยให้มีพรรคการเมืองเข้ามาดูแลสังคมผู้สูงวัยที่กำลังจะมาถึง โดยต้องเริ่มต้นที่งบประมาณ เมื่อพูดถึงเรื่องของการจัดสรรงบประมาณ เวลาจะแก้อะไรไม่สามารถแก้ได้ในปีสองปี หากไม่พูดในวันนี้แล้วไปพูดใน 8 ปีข้างหน้าในสถานการณ์ที่กังวลว่าจะเกิดขึ้น มันก็มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นจริงๆ ตนหวังว่าเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความตั้งใจของตนที่จะเป็นผู้แทนฯ ที่จะดูแลผู้สูงอายุ
ที่มา ข่าวสดออนไลน์
.....
‘เครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการ’ ย้ำต้องจัดสรรงบประมาณรายจ่ายใหม่ กระจายสวัสดิการให้เป็นธรรม
Jun 9, 2022
Welfarewatch Network
เครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการยืนยันแสดงเจตนารมณ์ต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและพรรคการเมือง ผลักดันบำนาญพื้นฐานถ้วนหน้าให้เป็นหลักประกันรายได้สำหรับผู้สูงวัยทุกคนบนแผ่นดินไทย ด้วยหลักความเป็นธรรม เสมอภาค
.....

Sustarum Thammaboosadee
20h
ผมสิ้นสงสัยใน พิธา คนที่กล้ายืนยันเรื่องรัฐสวัสดิการถ้วนหน้าในสภาแม้เสี่ยงต่อภาพลักษณ์ทางการเมือง
.
หากพูดตามตรง เมื่อ พิธา ก้าวเข้าสู่หัวหน้าพรรคก้าวไกล ผมมีข้อสงสัยกับเขามาโดยตลอด ผมสงสัยว่าเขาจะสามารถยืนยันนโยบายที่ก้าวหน้า ที่ต้องปะทะกับหลายฝ่ายได้ ภาพของเขาดูประนีประนอม พื้นหลังประสบการณ์ของเขา หากพูดแบบตรงๆ ผมสงสัยว่าเขาจะสามารถยืนยันผลประโยชน์ของประชาชน เมื่อมีความขัดแย้งแหลมคมกับชนชั้นนำได้
.
ได้เคยบรรยายในบทความภาษาอังกฤษ เกี่ยวกับพิธา ใจความว่า
.
“His notable reputation stemmed from his propositions of agricultural policies, which contradicts his position as a new-generation businessman .....”
.
“Pita is not a new face in Thai politics and had been in the Thai elite networks before joining the party”
.
“His popularity between 2020-2021 claimed the fourth spot in the ranking ....... It has been questioned whether he will be able to lead the party in the 2023 General Election”
.
สรุปได้ว่า “ภาพลักษณ์การชูนโยบายด้านเกษตรขัดกับภาพลักษณ์นักธุรกิจรุ่นใหม่ของเขา.....มาจากครอบครัวเครือข่ายชนชั้นนำทางการเมืองตั้งแต่สมัยรัฐบาลทักษิณ และไม่ใช่หน้าใหม่ทางการเมือง.... แม้เป็นหัวหน้าพรรคอันดับ 3 ความนิยมของเขาในปี 2021 อยู่อันดับ 4 ตามหลังแม้แต่เสรีพิสุทธิ์ ที่มี ส.ส.น้อยกว่าพรรคเขาเกินครึ่ง จนน่าคิดว่าเขาจะสามารถนำพรรคสู้ศึกการเลือกตั้งได้หรือไม่ ?”
.
หากเป็นผู้ชม ตัวละครทางการเมืองตัวนี้ราบเรียบไม่น่าสนใจ และไม่น่าใช่จุดเปลี่ยนของการปักธงทางการเมือง ขัดกับภาพลักษณ์หัวหน้าพรรคการเมืองที่ชูนโยบายก้าวหน้าหลายด้าน
.
แต่ ผมคิดว่าผมตัดสินเขาอย่างผิวเผิน และไวเกินไป ตัวชี้วัดสำคัญคือการที่คนคนหนึ่ง กล้าจะเสนอเรื่องที่ไม่อยู่ในกระแส เรื่องที่อาจไม่มีคนสนใจ หรือไม่สำเร็จ กล้าที่จะยืนยันเพื่อผลประโยชน์ของคนที่ไม่มีพื้นที่หรือเวลาที่จะส่งเสียงหรือไม่ กล้าที่จะเสนอเรื่องที่อาจต้องปะทะกับกลุ่มผู้ที่ไม่เห็นด้วย แต่มันเป็นผลประโยชน์ของคน 99 %
.
และในสัปดาห์ที่ผ่านมาผมคิดว่า พิธา ได้ยืนยันหลักการตรงนั้น
.
เราล้วนต้องการรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า ปรารถนาให้บาทแรกจนบาทสุดท้ายถมชีวิตประชาชนที่ว่างเปล่าให้เต็มก่อน การนำเสนอทุกครั้งย่อมมีผู้ที่รู้สึกว่าสถานะของตนถูกคุกคาม ซึ่งอาจเข้าใจไปเอง หวาดกลัว ย่อมเข้าใจได้ เช่นกัน
.
แต่เมื่อพิจารณาแล้ว มันเป็นคำถามสำคัญที่ว่า หากในประเทศนี้ยังเมีคนที่ต้องกู้นอกระบบจ่ายค่านมให้ลูก มีแม่ที่ผูกคอตายเพราะความสิ้นหวังในการเลี้ยงลูก มีเด็กแขวนคอตัวเองเพราะไม่มีเงินค่าเทอม มีคนแก่ที่ต้องทำงานเลี้ยงคนแก่อีกคนที่ติดเตียง แต่ประเทศนี้ยังมีทรัพยากรล้นเหลือ มีงบประมาณที่หรูหราฟุ่มเฟือย ในวันที่ประชาชนอดอยาก เราจะไม่ตั้งคำถามกับสิ่งเหล่านี้หน่อยหรือ ?
.
การตั้งคำถามของพิธา เรื่องงบประมาณในสภาเป็นสิ่งยืนยันว่า ไม่ว่าคุณจะมีประสบการณ์แบบไหนในชีวิต แต่เราก็ยังสามารถที่จะเจ็บปวดกับเรื่องของผู้อื่นได้ ส่งเสียงและต่อสู้แทนพวกเขาได้ แม้เราอาจจะต้องปะทะกับผู้ไม่เห็นด้วย และบิดเบือนใจความสำคัญของการสื่อสาร
.
การกล้าเสนอเรื่องรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า ในสัปปายสถานของอภิสิทธิ์ชน เป็นหมุดหมายสำคัญที่เราต้องยืนยันและสนับสนุนหลักการของเขา ในฐานะหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านที่มีจุดยืนสนับสนุนรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า ผลประโยชน์ของคน 99 % แม้เสี่ยงต่อภาพลักษณ์ และกระแส แม้ไม่ชนะในวันนี้พรุ่งนี้ แต่พร้อมปักธงรัฐสวัสดิการกลางสภา