ยุทธการ #ไล่หนูตีงูเห่า ของ #ครอบครัวเพื่อไทย จะได้ผลเพียงใด ไม่ช้าก็รู้ แต่เท่าที่เห็นซึ่งหน้า เป็นการจัดยาได้ตรงกับอาการ อย่างที่ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ปราศรัย “ส.ส.เรา ๓ คนที่พี่น้องเลือก เพราะเขาบอกไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์
แต่วันดีคืนร้าย พรรคภูมิใจไทยมาตั้งเวที แล้วชวน ส.ส.เพื่อไทยขึ้นเวทีเปิดตัวว่าอยู่ด้วยกันแล้ว แล้วจะเอาที่เหลืออีก ๕ คนด้วย...แบบนี้ใครเป็นหนูใครเป็นงูไม่รู้ แต่คนศรีสะเกษเป็นคน คนมันมีศักดิ์ศรี และถ้าเราไปกับเขา เขาจะเอา พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ อีก ๔ ปี”
เวทีแรกที่อุทุมพรพิสัย เขตที่หนึ่งในสาม ส.ส.เพื่อไทยเตรียมย้ายไปซบพรรคจอมดูดเจ้าใหม่ และนี่เป็นครั้งแรกที่ ‘อุ๊งอิ๊ง’ แพทองธาร ชินวัตร ยืนปราศรัยอย่างมีลำหักลำโค่น ต่อหน้ามวลชนเสื้อแดงเนืองแน่นนับหมื่น “สุดลุกหูลูกตา” (คำของ Noppakow kongsuwan @SAHINOP)
อีกหนึ่งอำเภอ นัยว่าเป็นเป้าหมายหลักของการตีรังงูเห่าศรีสะเกษ อันมี ปวีณ แซ่จึง อดีต ส.ส.กับ ผ่องศรี ภรรยา ส.ส.เพื่อไทยปัจจุบัน เปลี่ยนบ้านของตนเป็นที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ปวีณบอกกับผู้สื่อข่าว ‘เนชั่น’ ว่าอยู่กับนายใหญ่มา “ไม่ได้รับการตอบแทนเท่าที่ควร”
เสี่ยปวีณนี่ ‘ชิดชอบ’ กับ ‘เนรวิน’ จ้าวนครบุรีรัมย์มาแต่ไหนแต่ไร ครั้งที่เนวินยังอยู่พรรคชาติไทย ครั้นตามเนวินมาสมัคร ส.ส.ในสังกัดไทยรักไทยในปี ๒๕๔๘ ก็ชนะขาดลอย หลังการเลือกตั้ง ๒๕๖๒ กระแสภูมิใจไทยเริ่มแรง เขาจึงเปลี่ยนทาง
อีกเสี่ยของศรีสะเกษคือ วิชิต ไตรสรณกุล พ่อของไตรสุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกสำนักนายกฯ ที่ อนุทิน ชาญวีรกุล หมายมั่นให้ประสานแรงกับเสี่ยปวีณ และอีกสอง ส.ส.ศรีสะเกษ สิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติ กับ อาสพลธ์ สรรณ์ไตรภพ
รายหลังนี่เป็นลูกชาย เสี่ยก๋อ- มงคลพัฒน์ สรรณ์ไตรภพ นายห้างใหญ่ตระกูลรับเหมาก่อสร้างของอุทุมพรพิสัย ทั้งหมดนี่เป้าหมายตามที่ เสี่ยหนู วางไว้คือ ยึด ส.ส.ศรีสะเกษให้ได้หมดทั้ง ๙ ที่นั่ง ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ทำให้เพื่อไทยต้องไปตีงูไล่หนู
กลับมาที่ในกรุง ขณะผู้ว่าฯ คนใหม่ยังลอยฟ่องกับกระแสวิ่งตรวจพื้นที่และเต้นรำตามงานดนตรีในสวน พรรคร่วมฝ่ายค้านหมายมั่นกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ๑๑ รัฐมนตรีเป็นอย่างยิ่ง โดยหวังผลที่การซ้ำเติมความนิยมตกต่ำของรัฐบาล
โดยเฉพาะตัวประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่เหลืออะไรให้ตกไปได้มากกว่านี้แล้ว ยังอยู่แต่การแบกหามของพวกที่รายล้อมเท่านั้นที่ฝ่ายค้านต้องตีให้แพแตก เวลานี้อย่างน้อยๆ ก็มีกลุ่มของ ธรรมนัส พรหมเผ่า พรรคเศรษฐกิจไทย และพรรคปลาซิวกลุ่ม ๑๖
พิเชษฐคุยว่ากลุ่มตนและเศรษฐกิจไทยจะโหวตไปทางเดียวกัน โดยมีรัฐมนตรีเป้าหมายสี่คน “ถึงคะแนนโหวตผ่าน แต่หากห่างจากคนอื่นมาก แล้วจะอยู่ได้อย่างไร ก็สามารถส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงได้ นายกฯ ก็ต้องปรับออก”
รัฐมนตรีสี่คนที่กล่าว มี สันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค พปชร.อดีต รมว.คลัง ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย “ส่วนรัฐมนตรีคนอื่น ขอฟังการอภิปรายของฝ่ายค้านก่อน
โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ตนเห็นว่าไม่มีอะไรชัดเจน ในเรื่องการสร้างความเสียหาย ไม่มีภาพของการทุจริต” ไม่เหมือนรัฐมนตรีสี่คน “พรรคจะมาบังคับให้ยกมือให้ทั้งที่รู้ว่ารัฐมนตรีมีการทุจริตไม่ได้ ถือว่าเป็นการก้าวก่ายกัน มีโทษถึงขั้นยุบพรรค”
ข้ออ้างของพิเชษฐ อาจทำให้สาม ป.ฉุกคิดได้เหมือนกันว่า ยอมให้เขาตัดนิ้วร้ายออกไป ดีกว่าปล่อยไว้แล้วลามไปทั้งตัว
(https://www.matichonweekly.com/hot-news/article_567918ZQ, https://www.facebook.com/nationweekend/posts/Wbhl และ https://www.bangkokbiznews.com/politics/1010745)