คำตัดสินศาลสูงสุดสหรัฐเมื่อวาน
ยกเลิกกฎหมายยืนยันสิทธิสตรีในการทำแท้ง ‘โร
เวอร์ซัส เวด’ ทำให้การเมืองอเมริกันร้อนฉ่า
และจะร้อนแรงไปกว่านี้ไม่หยุดยั้ง
จนกระทั่งการเลือกตั้งกลางเทอมที่จะมาถึงในเดือนพฤศจิกายน หรือเลยจากนั้น
โพลเมื่อเร็วๆ นี้ คนอเมริกัน ๒ ใน ๓ ไม่ต้องการการยกเลิกกฎหมาย ‘Roe v Wade’ หลังจากมีข่าวรั่วว่าผู้พิพากษา ๖ คนของศาลสูงสุดมีมติร่วมกันไว้แล้วว่า กฎหมายเก่าแก่ฉบับนี้ขัดกับรัฐธรรมนูญ ในเรื่องเสรีภาพทางศาสนา จึงเตรียมคำพิพากษาไว้ตีตก
ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสิน (ด้วยเสียง ๖ ต่อ ๓) เชื่อว่านี่เป็นการก้าวล้ำเข้าไปกำหนดทิศทางการเมืองของเสียงข้างมากทั้งหกคน ซึ่งแต่งตั้งมาโดยประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันทั้งสิ้น มิหนำซ้ำผู้พิพากษา ๕ ใน ๖ คนของเสียงข้างมากนั้น
มาจากการแต่งตั้งของประธานาธิบดีซึ่งได้ชัยชนะทางเทคนิค ด้วย ‘อีเล็คเทอรอล โหวต’ มากกว่า ขณะที่จำนวนคะแนนเสียงทั้งประเทศ ‘รายหัว’ น้อยกว่า ผู้พิพากษาเหล่านี้คือ จอห์น รอเบิร์ต แซมวล อลิโต นีล กอร์ซุช เบร็ต คาวานอก์ และเอมี่ โคนี่ แบเร็ต
สามคนหลังนี่ตั้งโดยประธานาธิบดีดอแนลด์ ทรั้มพ์ บทความของ สนพ.ฮัฟฟิงตัน โพสต์ ชี้ว่าผู้พิพากษาเหล่านี้มาจากเสียงข้างน้อยชาวอเมริกัน นอกจากนั้นวุฒิสมาชิกฝ่ายอนุรักษ์นิยมสองคน คนหนึ่งเดโมแครท อีกคนรีพับลิกัน ยังระบุว่า
ผู้พิพากษา ‘คาวานอก์’ กับผู้พิพากษา ‘กอร์ซุช’ กลับลำจุดยืนของตนเองในเรื่อง ‘โร’ นี้จากที่ได้ให้ไว้กับวุฒิสมาชิก ทั้งในทางความเห็นทางส่วนตัวและต่อกรรมาธิการ สว.รีพับลิกันรัฐเมน ซูซาน คอลลินส์ บอกว่า การตัดสินใจของทั้งสองไม่ตรงตามคำให้การ
“ทั้งคู่ยืนยันมาก่อนว่า
ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนจุดเด่น (แห่งกฎหมาย) ที่ประเทศนี้ยึดเป็นสรณะมายาวนาน”
นับครึ่งศตวรรษ สว.โจ แมนชิน เดโมแครทแห่งเวสต์เวอร์จิเนีย
ซึ่งมักจะโหวตเข้าข้างรีพับลิกัน ก็ยังกล่าวเช่นกัน
ว่าเมื่อผู้พิพากษาทั้งสองให้การ “ภายใต้คำสัตย์ปฏิญาน” ทั้งคู่เชื่อว่ากฎหมายทำแท้งเสรีนี้เป็น ‘สรณะ’ ทางกฎหมายของบ้านเมือง “ผมนั้นยังตื่นตัวเลยว่า ทั้งสองเลือกที่จะไม่รับความมั่นคงที่คำตัดสิน ‘โร’ อำนวยให้แก่ชาวอเมริกันสองชั่วอายุคน”
‘ดิ ออนเนี่ยน’ สื่ออิสระสายก้าวหน้า ทวี้ตถึงผลของคำตัดสินศาลในประเด็นอื่นๆ ว่า “๕ ต่อ ๔ (ความเห็น ‘หัวหน้า’ รอเบิร์ตอยู่กับเสียงข้างน้อย) ยอมให้มีเจ้าสาววัยเด็กได้...ขว้างขวดเบียร์ใส่หญิงร่านก็ได้...ปรับสถานะสตรีเสียใหม่ให้เป็นสัตว์ไว้บริการ” อีกบทความตีหนักกว่านี้
บอกว่าคำตัดสิน #SCOTUS คราวนี้ “สร้างอนาคตใหม่ที่ดียิ่งกว่าให้แก่พวกนักชำเรา” ซ้ำร้ายผู้พิพากษา แคลเร้นซ์ ธอมัส ซึ่งระหว่างการอภิปรายตรวจสอบคุณสมบัติในการแต่งตั้งเข้าสู่ศาลสูงสุด ถูกกล่าวหาว่าละเมิดทางเพศต่อ แอนนิต้า ฮิล
ปัจจุบัน จินนี ธอมัส ภริยาผิวขาวของธอมัส มีบทบาทแข็งขันอยู่ในกลุ่มการเมืองที่สนับสนุนให้ดอแนลด์ ทรั้มพ์ กลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง แคลเร้นซ์ ให้ความเห็นหลังจากคำตัดสินยกเลิก ‘โร’ ออกสู่สาธารณะว่า
จากชัยชนะครั้งนี้ ในอนาคตศาลสูงสุดควรที่จะกลับไปพิจารณาประเด็นสิทธิมนุษยชนเกี่ยวกับการใช้ยาคุมกำเนิด และการแต่งงานโดยเพศเดียวกัน เพื่อที่จะได้พังทะลายสิทธิเกี่ยวกับการทำแท้งให้สิ้นซาก แม้นว่าคำตัดสินพบกับการประท้วงทั่วประเทศ
ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย แถลงทันทีหลังปรากฏข่าวการตีตกโร ว่าการทำแท้งยังคงเป็นเช่นเดิม “ผมเพิ่งลงนามกฎหมายที่จะทำให้แคลิฟอร์เนียเป็นสวรรค์อันปลอดภัยสำหรับสตรีทั่วประเทศ เราจะไม่ให้ความร่วมมือแก่รัฐใดในการดำเนินคดีกับการทำแท้ง”
แคลิฟอร์เนียเตรียมมาเป็นแรมเดือน ทั้งในด้านสถานที่และการปฎิบัติงาน เพื่อต้อนรับสตรีจากทั่วประเทศเข้ามาทำแท้ง โดยเฉพาะจากมลรัฐที่มีกฎหมายห้ามทำแท้งบังคับใช้ จำนวนเกือบครึ่งของทั้งประเทศ
(Gavin Newsom @GavinNewsom, https://nyti.ms/3u2KSH8, https://nyti.ms/3xV6aYa, https://theonion.com/kavanaugh-thomas-1849106105 และ https://www.huffpost.com/entry/vote not-enough_n_62b626c)
(หมายเหตุ Factual errors : ในบทความต้นฉบับแรก มีข้อผิดพลาดในเนื้อหาสองสามอย่าง ซึ่งได้รับการแก้ไขแล้ว)