ว้อท ! โฆษกสำนักนายกฯ บอกว่าเมื่อวาน ‘ตู่’ เค้าปรารภหลังประชุม ครม. ให้ส่งเสริมหน่วยงานราชการใช้เทคโนโลยี่สารสนเทศบริการประชาชน และแก้ไขข้อร้องเรียน ถ้าจำไม่ผิด สมัยที่ไอ้ศัพท์เทคโนคำนี้ออกมาใหม่ๆ น่ะหมายถึง ‘อี-เมล’ อะไรงี้
ไม่รู้จะยิ้มหรือหน้าเบ้ดี ว่านายกฯ คนนี้ก็รู้จักเทคโนโลยี่กับเขาเหมือนกัน แต่แบบว่าเป็นคอมพิวเตอร์ตกรุ่นกู้ไม่ได้ ขายเป็นเศษเหล็กอย่างเดียว เพราะสมัยนี้เขาใช้ ‘แอ็พ’ ใช้ ‘สต๊าร์ทอัพ’ กันแล้ว อย่าง Traffy Fondue ที่ ‘ชัชชาติ’ ใช้อยู่เดี๋ยวนี้
วันเดียวกัน ผู้ว่า กทม.คนใหม่พูดถึงการแก้ไขเรื่องร้องทุกข์ผ่านระบบ ‘แทร้ฟฟี่ฟองดู’ ภายในเดือนเดียวที่ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างทางการ “มีจำนวนการแจ้งปัญหาเพิ่มขึ้น ๔๑ เท่า” ดำเนินการแล้ว ๓๙% ส่งต่อหน่วยงานรับผิดชอบ ๑๙% และทำสำเร็จ ๓๕%
มิน่าเสียงชื่นชมเต็มไปหมด บ้างว่าทางเท้าบางแห่งที่เคยขรุขระ ชัชชาติเป็นผู้ว่าฯ สองวันปูอิฐเรียบร้อย โดยเฉพาะเมื่อฝนเทหนักสองสามครั้ง บางจุดใน กทม.น้ำท่วมถนนเฉียบพลัน เมื่อก่อนต้องรอคิวระบายหลายวัน แต่นี่รุ่งขึ้นระบายหมดแล้ว
“นี่คือพลังของแพลตฟอร์ม ที่เราเปลี่ยนการบริหารจัดการจากระบบท่อเป็นแพลตฟอร์ม ทุกหน่วยงานสามารถหยิบเรื่องไปแก้ไขได้เลย โดยที่ผู้ว่าฯ ไม่ต้องสั่งการ” ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ พูดถึงการต่อยอดระบบแทร้ฟฟี่ฟองดูที่ใช้อยู่
เช่น “ต่อไปเราสามารถสั่งงานผ่านแพลตฟอร์มข้ามหน่วยงานได้ ถ้าขยายไประดับประเทศได้ก็จะเป็นสิ่งที่เปลี่ยนระบบราชการเลย...นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชันแบ่งปันประสบการณ์ระหว่างเขต” เขตไหนทำได้ดีส่งต่อไปเขตอื่นด้วยแอ็พพลิเกชั่นเดียวกัน
แล้วยังมีการใช้งาน เพิ่มกล่อง แยกกล่อง เปิดกล่อง Dashboard (หน้าจออีเล็คโทรนิค) เพิ่มนโยบาย และประสานกับนอกข่ายราชการ กทม. เช่น สตช. และจเรตำรวจ ที่กำลังจะเซ็น ‘เอ็มโอยู’ กับเทศบาลกันในเร็วๆ นี้ ชัชชาติบอก
“ผมว่าประชาชนมีความสุข ข้าราชการมีความสุข เมืองต้องดีขึ้นแน่นอน” ก็ไม่รู้ทำให้นายกฯ ครั่นเนื้อครั่นตัวจนต้องรีบปรารภให้เข้าทางไว้บ้าง ต่างกับพรรคร่วมรัฐบาลรายหนึ่งออกอาการ ‘ตาร้อน’ หาเรื่องมาติทันที ส.ส.พรรคภูมิใจไทย โดนทัวร์ลงหนัก
หลังจากตำหนิเรื่องที่ชัชชาติเคาะราคารถไฟฟ้าสายสีเขียวที่โดนนายกฯ โยนมาให้ตั้งแต่ยังไม่ได้รับตำแหน่ง ว่าอยู่ที่ ๕๙ บาท ตลอดเส้นทาง (สองช่วง) สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ติงเชียวว่าไหนชัชชาติเคยพูดว่าจะให้ราคาอยู่ที่ ๓๐ บาท
ตอนนี้มีโอกาสแล้ว (น่าจะ) “รีบทำเลย” ผู้ว่าฯ คนนี้ที่ตอบทุกคำถาม บอกว่าราคา ๕๙ บาทนี่ตามที่ ‘ทีดีอาร์ไอ’ เสนอไว้ให้ควบรวมช่วงส่วนต่อของสาย เป็นราคาขั้นสูงสุด (ไม่ได้หมายความว่าน้อยกว่านี้ไม่ได้) ยังต้องพิจารณากันต่อไปอีก
แฟนคลับออนไลน์ของชัชชาติรายหนึ่ง Rin Thowsakul เพิ่มเติมให้ว่า “๓๐ บาท (ที่ชัชชาติเคยพูด) เค้าบอกว่าเป็นค่าเฉลี่ยที่คนใช้บริการ ๘-๑๑ สถานี ไม่ใช่ตลอดหัวยันหาง” ทัวร์ถึงได้ไปลงที่ ‘เสี่ยโต้ง’ กันตรึมเลยไง
เท่านั้นไม่พอ ระดับรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจทึ่มเอาบ้าง ในฐานะว่าการคมนาคม ออกมาแงะ ราคา ๕๙ บาทนี่ต้อง “รอดูให้ชัดเจนก่อนดีกว่า...อย่าดูปลายทาง...ต้องไปดูที่ต้นเรื่อง เหมือนกับเราสวมเสื้อถ้ากลัดกระดุมเม็ดแรกผิด ก็จะกลัดผิดทุกเม็ด”
ทำเป็นสอนหนังสือสังฆราช “เราต้องมีหลักธรรมาภิบาล คือมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีส่วนร่วมและสุดท้ายต้องรับฟังความเห็นของพี่น้องประชาชน” พูดทำนองว่าเรื่องนี้เมื่อตอนเริ่มต้นเป็นเหมือนการก่อหนี้ “ได้ใช้ระเบียบถูกกฎหมายหรือไม่”
พาดพิงไปถึงบริษัทกรุงเทพธนาคม ว่าเป็นเอกชน “เมื่อเอกชนดำเนินงานกับเอกชนก็ต้องฟ้องเอกชน จะเกี่ยวกับรัฐอย่างไร” เหมือนจะดึง รฟม. (ลูกน้องโดยตรงของ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม) ออกไปจากคู่กรณี
ทั้งที่เป็นคู่กรณีจากการโยนเผือกร้อน หนี้ก้อนโต ไปให้ กทม. “เรื่องนี้มีกระบวนการอยู่แล้ว สภา กทม.ต้องประชุมว่าจะรับหรือไม่รับหนี้...วันนี้มีการดำเนินการหรือยัง...ให้นายชัชชาติไปดู ท่านเก่ง เพราะเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม”
อ้าวเฮ้ย แขวะเขาเสียอีก
(https://www.matichon.co.th/economy/news_3423631, https://www.facebook.com/nationweekend/posts/3UaHkY2l และ https://www.facebook.com/thestandardth/posts/23my6l)