เหล่านั้นสะท้อนสภาวะอะไรขณะนี้ได้ถ้าไม่ใช่ เสถียรภาพ ‘การนำในชาติและการครองอำนาจ’ กำลังสั่นคลอน เจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะตำรวจ คฝ.เหี้ย มระห่ำ ตำรวจกองปราบยิ่งบ้องตื้น จับดะ ฟ้องดะ อะไรที่ระแคะระคายสถาบันฯ ไว้ก่อน
ซ้ำ “บรรยากาศโดยรอบพระธาตุเชิงชุมว่า มีการตรึงกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ทั้งในและนอกเครื่องแบบ กระจายโดยรอบพื้นที่ ประจำทุกตรอกซอกซอย พร้อมกับตั้งด่านปิดทางเข้าออกทุกช่องทาง” และติดกล้องวงจรปิดเพิ่มอีกสี่ตัว
ข่าวมติชนเล่าบรรยากาศประยุทธ์เดินตรวจโน่นตรวจนี่ “ใช้ระบบการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด ถึงขนาดที่ข้าราชการระดับสูงบางคนถูกตรวจค้นกระเป๋า และไม่อนุญาตให้นำปากกาเข้าไปในสถานที่” ทำเป็นหนังฮิต มือลอบสังหารจอห์น วิค ไปได้
สิ่งคุกคามจริงๆ น่าจะเป็นความ ‘เสื่อม’ นิยมของประชาชนมากกว่าอื่นใด พอนักข่าวเอ่ยถึงเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งใหม่ ที่เหมือนคลื่นใหญ่กำลังมา ชายชาติทหารใจปลาซิวไม่ตอบ ค้อนนิดแล้วเดินหนี คงรู้ตัวดีเสียจนไม่รู้จะตอบอย่างไร
ในเมื่อรัฐบาลเพิ่งพ่ายโหวตวาระรับหลักการ ร่างกฎหมายของฝ่ายค้านเป็นฉบับที่สอง มาหมาดๆ กฎหมายสมรสเท่าเทียมของพรรคก้าวไกล ทั้งที่ถูกวิปรัฐบาลประกาศ ‘ไม่รับ’ ไว้แล้ว ก็ยังผ่านได้ ๒๑๐ เสียงต่อ ๑๘๐ งดออกอีก ๑๒ เสียง
ตามข้อวิจารณ์ของ Thanapol Eawsakul ที่ว่าเป็นสภาพ ‘ศพเดินได้’ ของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพราะมีสมาชิกพรรคนี้แตกแถวไปโหวตให้ฝ่ายค้านจำนวนมาก อันเป็นความตระหนักรู้ของ ส.ส.เหล่านั้นว่าฐานเสียงเดิมของตนกำลังพังทะลาย
ธนาพลชี้ตัวเลขว่า กฎหมายสุราก้าวหน้า มี ส.ส.ประชาธิปัตย์ไปร่วมรับหลักการถึง ๒๓ คน เท่ากับ ๔๓.๔% มาถึง พรบ.สมรสเท่าเทียม ปชป.เอาด้วย ๑๓ เสียง หรือ ๒๔.๖% ก็มากอยู่ ขณะที่หัวหน้าภูมิใจไทย ‘โชว์เก๋า’ อนุทิน ชาญวีรกุล “ไม่เข้าร่วมประชุม
เพื่อไม่ต้องแสดงจุดยืน”
แม้นจะมีลูกพรรคโหวตให้สุราก้าวหน้า ๙ เสียง และสมรสเท่าเทียม ๒ เสียง
เช่นนั้นแสดงว่า “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ไม่สามารถคุมสภาพของพรรคได้”
แล้วรัฐบาลประยุทธ์โดยรวมก็ส่อแนวแตกระแหง
(https://www.facebook.com/thanapol.eawsakul/posts/UXQl, https://www.matichon.co.th/politics/news_3402056, https://twitter.com/TLHR2014/status/1537279170358972417 และ https://prachatai.com/journal/2022/06/99089)