อ๋าย เดี๋ยวนี้มี ‘มองแรง’ อีกด้วยนิ ข่าว @INNNEWS รายงานวันนี้ ๑๘ พฤษภา นายกฯ “ไม่ตอบปมปัญหาน้ำท่วมทั่ว กทม. ทำรถติดตั้งแต่วานนี้” บัญชีทวิตเตอร์ ‘ประวัติศาสตร์แนวเอียง’ เป็นสักขี “คิดดูแล้วกันว่าอัศวินและทีมงานมันไร้ประสิทธิภาพขนาดไหน
อยู่มาตั้งนานยังแก้ปัญหาไม่ได้เลย” (ซ้ำ) ที่ทำเนียบ “มีม็อบเด็กมารอพบ เรียกร้องปฏิรูปการศึกษา” เรียกได้ว่า ‘รายวัน’ ซะอีก จะไม่ให้ ‘ตู่’ อารมณ์บูดได้อย่างไร เมื่อวานก็โดนถามเรื่องผู้สมัครว่าการ กทม.เขาดีเบทกันเรื่องรัฐประหาร
อุตส่าห์สงบอารมณ์บรรจงตอบด้วยมาดยะโสอย่างเท่ห์แล้วเชียว “ถ้าใครพูดย้อนเก่าก็กลับไปดูย้อนเก่าๆ ด้วยว่าทำอะไรกันไว้แล้วบ้างแต่ละคน...บ้านเมืองอยู่มาวันนี้ได้ สงบแบบนี้มันเพราะอะไรและใครจะอยากให้มันเกิดขึ้นอีกละ ไม่มีหรอก ผมก็ไม่อยากทำ”
ที่เขาไปถามต้นตอเพราะมีบางคนพูดทำนองว่า เลือกผมสิ ไม่เกลียดรัฐประหาร ขณะส่วนใหญ่ถ้าไม่เอายึดอำนาจอีก ก็เลิกแล้วลาไป ถึงได้มาลงเลือกตั้งไง แม้นว่าตู่ตั้งมากับมือแท้ๆ แล้วที่ว่าสงบนั่นก็มุสา พูดเองเออเองตะบัน สงบ ๕ ที่ไหนกัน
หลายคนเลือกจบชีวิตตนเองเพราะทนทุกข์กับการสิ้นไร้ หมดทางทำมาหากินไม่ไหว ล่าสุดนี่เด็กหญิงอายุ ๑๔ ปี ผูกคอตายด้วยความอัตคัตขัดสนในครอบครัวและแรงกดดันจากการเหยียดหยามของครู ความต่ำต้อยของสภาพสังคมต่อเนื่องมาอย่างนี้ก็เพราะรัฐประหาร
กระทั่ง ‘ผู้ดีรัตนโกสินทร์’ ตอนนี้ยอมรับ “ทุกครั้งที่มีรัฐประหาร สุดท้ายประเทศไทยดีขึ้นไหม มีดีขึ้นบางอย่าง แต่สุดท้ายหลังรัฐประหาร มีรัฐบาลแล้ว ได้แก้ไขปัญหาต้นตอที่ทำให้เกิดรัฐประหารหรือเปล่า” อานันท์ ปันยารชุน บอกนักข่าว
ในโอกาสครบรอบ ๓๐ ปี ‘พฤษภา ๓๕’ ที่สวนสันติพร อนุสรณ์สถานฯ อดีตนายกฯ พระราชทานบอกว่า “ประเทศไทยมีความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี แต่ยังไม่มากพอ เพราะความเปลี่ยนในทางที่แย่นั้นมีมากกว่า” ข้อสำคัญประชาธิปไตยยังไม่มา
เขาหวังให้มีรัฐธรรมนูญใหม่ “ที่ทั้งตัวหนังสือและจิตวิญญาณจะต้องเป็นประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ สามารถเป็นเครื่องมือและแนวนโยบายที่พาสังคมไทยให้มีความยุติธรรมยิ่งขึ้นได้ในทุกๆ ด้าน...รัฐบาลชุดต่อๆ ไปควรทำให้เกิดขึ้นได้จริง ไม่ใช่เพียงแค่พูด”
ก็นะ ว่าไปทำไรมี รัฐบาลชุดของทั่นไม่ได้ทำ ซ้ำเวลานี้ทั่นโทษสื่อ “เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความรุนแรงด้านวาทกรรม” แต่ขณะนี้อานันท์มองว่ามี “สิ่งที่อันตรายยิ่งกว่าสื่อ คือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ” ต้องระวัง เพราะคนไทยหูเบา
เขายังพูดอะไรอื่นอีกบางอย่างที่ฟังแล้ว ‘ก็ดีนะ’ เช่น “ควรหันหน้ามาจับเข่าพูดคุยเพื่อสร้างความเข้าใจระหว่างกัน...สร้างความเชื่อมั่น ไว้ใจ เห็นใจ แล้วจะนำไปสู่ความรู้สึกที่อยากอยู่ร่วมกัน” อันนี้ไม่ต้องถึงขั้น ‘อยาก’ ก็ได้ แค่ ‘ยอม’ ก็คงพอ
และนี่ใช่เลย “อยู่ร่วมกันโดยไม่จำเป็นต้องทำให้คิดเหมือนกัน คิดแตกต่างกันก็อยู่ร่วมกันได้ ไม่ได้ต้องแตกหัก”
แต่เสียดายเนอะ หากทั่นคิดได้อย่างนี้ แล้วทำให้สำเร็จมากบ้างน้อยบ้าง ตอนที่มีสมรรถนะจะทำได้อยู่ในมือ ปวงชนจะเห็นว่าทั่น ‘คิดดี’ ตั้งแต่ตอนนั้น
(https://www.facebook.com/VoiceOnlineTH/posts/10162847187924848, https://innnews.co.th/news/politics/news_340828/… และ https://www.voicetv.co.th/read/KheAkPPeb)