โถ ตู่อุตส่าห์ขีดเส้นไว้ ๓๐ กันยา จะทำคนจนหมดประเทศ โดนพรรคร่วมฝ่ายค้านขีดฆ่าทับด้วย ‘เส้นตาย’ ตัดหน้า ๒๒ พฤษภานี้ อภิปรายไม่ไว้วางใจ ๔ วาระเรียงกันไปเลย จากงบประมาณปี ๖๖ ถึง พรป.เลือกตั้งและพรรคการเมือง
แล้วตบกะโหลกด้วยมาตรา ๑๕๑ ไม่ไว้วางใจการทำงานไม่เป็น แล้วยังอยากอยู่ยาว เล่นลูกไม้ ใช้ชั้นเชิงเลี่ยงประเด็น อยู่ในตำแหน่งรวมกันแล้วต้องไม่เกิน ๘ ปี ซึ่งจะครบกำหนดในเดือนสิงหาคม ๖๕ นี้ ทั้งที่ควรไปตั้งนานแล้ว
เพราะเป็นรัฐบาลที่ ‘สิ้นสภาพ’ จึงต้อง ‘ขีดเส้นตาย’ และขีดเส้นใต้ความล้มเหลว “การทำงานของรัฐบาลนี้ ทำหน้าที่ได้ไม่เกินเดือนสิงหาคมที่จะถึง” และ “ถึงเวลาแล้วที่ต้องคืนอำนาจ คืนชีวิต คืนความกินดีอยู่ดี คืนประชาธิปไตย ให้กับประชาชนทุกคน”
สำหรับไอ้ตัวดี ไม่มีรู้สึกรู้สา “ท้าล้มเก้าอี้นายกฯ ล้มได้ก็ล้มไป ‘โว’ กลัวจะไม่ดีกว่าเดิม” แม้นว่าออกอาการ เหนื่อยหน่าย ขณะที่ปากยังพล่ามอยู่ว่า “เอาเถอะ เขาจะล้ม ถ้าล้มได้ก็ล้มไปเถอะ ถ้าล้มก็ล้ม ผมก็ไม่ต้องทำงานก็แค่นั้นเอง”
ไม่วายอวดโอ้อย่างลมๆ แล้งๆ “เปรียบเทียบดูว่าจากที่ผ่านมาจนถึงวันนี้แก้ปัญหาอะไรไปได้แล้วบ้าง หรือจะกลับสู่ที่เก่าเวลาเดิมก็เอาซิ” แต่มันจะไม่อย่างนั้นน่ะสิ ตอนนี้พรรคเล็ก “วิ่งกันวุ่นวาย” หาขั้วใหม่ ไปกินข้าวโน่นนี่แล้วกระปรี้กระเปร่ากันดี ไม่เห็นเหนื่อย
ยิ่งเมื่อพรรคฝ่ายค้านสมัครสมาน รวมหัวกันประกาศขับประยุทธ์พร้อมเพรียงที่เขาใหญ่ ทั้งเพื่อไทย ก้าวไกล เสรีรวมไทย ประชาชาติ เพื่อชาติ และพลังปวงชนไทย เห็นพ้องต้องกันว่ามาถึงจุดนี้ รัฐบาลสืบทอดอำนาจ คสช.ของประยุทธ์ จันทร์โอชา ถึงปลายทางแล้ว
ไม่สามารถพาประเทศไปรอดจาก ๔ วิกฤต “วิกฤตผู้นำ วิกฤตเศรษฐกิจ วิกฤตสาธารณสุข วิกฤตการเมือง” ที่กำลังกระหน่ำซ้ำเติมประชากร อย่างนี้ไม่ต้องท้าเดี๋ยวพังเอง นอกจากพรรคพลังประชารัฐเองป่วนหนักแล้ว พรรคร่วมอย่างประชาธิปัตย์ก็กำลังสั่นคลอน
ความงัวรองหัวหน้าพรรคยังไม่ทันหาย ความฟายเข้ามาแทรก เมื่อเกิดฉาวโฉ่ “กรณีการค้าประเวณีเด็กที่ จ.สุราษฎรธานี ซึ่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่ในกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ข่มขู่และทำร้ายเหยื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ต้องหา”
เรื่องนี้ รองโฆษกพรรคก้าวไกล เฉ่งทันทีว่า “เป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะหน่วยงานหลักที่ควรมีหน้าที่เป็นที่พึ่งในการปกป้องคุ้มครองและเยียวยาจิตใจเหยื่อ จากการถูกทำร้ายคุกคามทางเพศ กลับถูกคุกคามเสียเอง” สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.นครปฐม จี้
ว่าจะเป็น “ความพยายามช่วยเหลือลูกหลานคนพรรคเดียวกันปกปิดความผิดหรือไม่” ไหนจะ “มีรองอธิบดีกระทำการข่มขู่เจ้าหน้าที่” เมื่อมีข้อกล่าวหาว่า “หนึ่งในผู้ใช้บริการซื้อประเวณีเด็ก เป็นลูกของ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์”
รัฐมนตรีว่าการพัฒนาสังคม จุติ ไกรฤกษ์ ยังจะเป็นเตมีย์ใบ้อยู่อีกหรือ
(https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3330165, https://prachatai.com/journal/2022/05/98479 และ https://www.matichon.co.th/politics/news_3328529)