“ปริญญ์ พานิชภักดิ์ แถลงลาออกจากทุกตำแหน่งในพรรคประชาธิปัตย์” ต่อการที่ตกเป็นข่าวและวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลมีเดียมาหลายวัน ว่ากระทำการลวนลาม ล่วงเกินผู้หญิงหลายคน จนกระทั่งถูกแจ้งข้อหา ข่มขืน นักศึกษาวัย ๑๘ ปี
เขาแถลงต่อสื่อมวลชนว่า “ช็อคและตกใจ” กับเรื่องที่เกิดขึ้น “ไม่คิดว่าจะมีข้อกล่าวหาหยั่งงี้ เพราะผมไม่ใช่คนหยั่งงั้น” เขากล่าวพร้อมทั้งปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดต่างๆ ผ่านสื่อ ขอไปให้การกับเจ้าหน้าที่ เมื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
อย่างไรก็ดีเรื่องราวการกระทำที่เขาถูกกล่าวหาพรั่งพรูออกมา หลังจากที่สตรีคนหนึ่ง ตามข่าวว่าเป็น “ภรรยาของนักเคลื่อนไหวทางการเมืองชื่อดัง” ไปแจ้งความที่ สน.ลุมพินีว่า “ถูกอดีตรองหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่แห่งหนึ่งลวงไปข่มขืนกระทำชำเรา”
เหตุเกิดในปี ๒๕๖๔ ผู้แจ้งความเล่าว่า “นัดคุยเรื่องงานนักการเมืองคนนี้ตอนกลางวันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง” พอไปถึงที่นัดกลายเป็นคอนโดย่านสุขุมวิท ๓ “เมื่อไปถึงเขาก็ล็อกประตูห้องแล้วข่มขืนเลย” ตน พยายามขัดขืนแต่ “เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ทำอะไรไม่ได้
พอทราบว่ามีผู้เสียหายอีกเยอะ เลยต้องการออกมาพูด และสามีตนก็สนับสนุน” ประการสำคัญมีพยานปากเอก “คนขับรถแท็กซี่ที่รับผู้เสียหายวัย ๑๘ ปี จากโรงแรมที่เกิดเหตุมาส่งยัง สน.ลุมพินี” เล่าว่า วันที่ ๑๒ เมษา พนักงานโรงแรมเรียกแท็กซี่เข้าไปรับผู้โดยสาร
“เมื่อผู้เสียหายขึ้นมาบนรถแท็กซี่ ตนเห็นว่ามีอาการฟูมฟาย ร้องไห้ไม่หยุด ก่อนที่จะโทรศัพท์หาแม่ ซึ่งตนจับใจความการพูดคุยได้ว่าผู้เสียหายมาที่โรงแรมเพื่อขอดูกล้องวงจรปิด” แล้วเปลี่ยนจุดหมายไปยัง สน.ลุมพินี
อย่างไรก็ดีมีการขุดคุ้ยทางโซเชียลว่า ปริญญ์เคยต้องคดีข่มขืนในกรุงลอนดอนมาแล้วสองครั้งด้วย โดยเฉพาะจากการไล้ฟ์เฟชบุ๊คของ ‘ทนายตั้ม’ ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนยืนยันตัวผู้ถูกกล่าวหา
ว่าอยู่พรรค ‘แมลงสาบ’ เป็น “รองหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ มีพ่อดังระดับโลก” ซึ่งนักข่าวพยายามซักไซ้ว่า พ่อคิดอย่างไร ทำไมเขาจึงโทรศัพท์ไปหามารดาของผู้เสียหาย แต่เจ้าตัวยืนกรานในการแถลงข่าวว่าเป็นประเด็นส่วนตัว ขอไม่ออกสื่อ
(https://www.facebook.com/watch/live/?ref=watch_permalink&v=1064776967409375, https://www.facebook.com/thestandardth/posts/3016617915297747 และ https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_6998429)