วันอาทิตย์, เมษายน 17, 2565

คดี ‘ปริญญ์’ เปิด ‘สันดานของสังคม’ ปิตาธิปไตยที่เป็นพิษ อย่างเช่น ‘เด็กมันยั่ว’

คดี ปริญญ์ทำให้ภายในพรรคประชาธิปัตย์ป่วนหนัก ถึงขั้นถอนขนกันเอง หลังจากที่ ศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ยกประเด็นโพสต์เฟชบุ๊คของ ธนัท ธนากิจอำนวย ร้องให้มีการตรวจสอบกรรมการบริหาร ปชป.ขึ้นมาถก

เหตุเกิดใน ไลน์มัลลิกา บุญมีตระกูล (ข่าวว่าเป็นคนสนิทของ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ หัวหน้าพรรค) สวิงใส่ “พฤติกรรมของคนหนึ่งคนควรถูกสอบจริยธรรมทั้งกรรมการบริหารพรรค รึ แปลว่าอยากอะไร” เปลี่ยนกรรมการบริหารหรือหัวหน้าพรรค

“เรื่องนี้เป็นกระบวนการหรือเปล่า ในฐานะหนึ่งในกรรมการบริหารพรรค ๓๙ คน เรื่องของปริญญ์ยังไม่รู้เลยว่าผิด ถูก เป็นอย่างไร” ขนาดหญิงที่ออกมาแสดงตนว่าเคยถูกแทะโลม ลวนลาม กระทั่งชำเรา จะ ๒๐ คนเข้าไปแล้ว ล่าสุดโผล่ที่เชียงใหม่

และแล้ว มอลลี่ ก็เผลอปากตามสไตล์ดุเด็ดเผ็ดมัน ให้ไปเทียบกันดูกับ เรื่องที่คนรู้กันทั้งพรรคว่า “คนๆ หนึ่งเป็น ชู้ของเมียคนอื่นมานานนม แบบนี้ต้องสอบจริยธรรมไหม หรือพวกที่ทำให้คนอื่นเข้าใจว่าเป็นกิ๊กของผัวคนอื่น” แล้วยังเรื่องชู้ของผัวคนอื่น

สาทิตย์ วงศ์หนองเตย ชักใบออกจากบริเวณ ชู้-ผัว-เมียไปสู่ เลือกตั้งทั่วไปเตือนว่าเรื่องฉาวอย่างนี้กระทบถึงสมาชิกที่ต้องลงพื้นที่ประจำ ทั้งผู้สมัครผู้ว่า กทม.และ สก. ขอให้ผู้บริหารแสดงความชัดเจน อย่าอมพะนำดูดาย

รัชฎาภรณ์ แก้วสนิท อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อรายหนึ่งซึ่งอยู่ในกลุ่มไลน์ ๑๕๕ คน ย้ำว่าปัญหาจะไม่จบ “เพราะไม่กล้าพูด ไม่กล้าทำอย่างตรงไปตรงมา” อดีต ส.ส.แปดริ้ว บุญเลิศ ไพรินทร์ หนุนให้ “สืบสวนความจริงและออกมาขอโทษประชาชน”

อีกส่วนหนึ่งของพรรคหันไปฟัด ลูกนัท และ แอน แทน เช่น ดวงพร ศิริสัมพันธ์ “เป็นกำลังใจให้คุณปริญญ์ค่ะ” ด้วยการโพสต์กร้าฟฟิคข้อความ “แปลกมากเลย ผู้หญิงรุ่นใหม่สมัยนี้โดนข่มขืนตั้งนาน เพิ่งจะมารู้สึกตัวเอาตอนนี้”

เนื้อถ้อยทำนองเดียวกับ โพสต์ของเพจสมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช ที่ว่า “ถูกข่มขืนหรือสมยอม ทำไมไม่แจ้งความตอนเกิดเหตุ อธิบายที” คนที่อธิบายได้อย่างดี อย่างมีวุฒิภาวะจะแจ้ง แสดงให้เห็นความเขลาเบาปัญญาของทีมจุรินทร์ ต้องนี่

วรนัยน์ วาณิชกะ หัวหน้าพรรครวมไทยยูไนเต็ด พูดถึงการประกาศถอนตัวจากการเป็นผู้สมัคร สก.ของ หทัยรัตน์ ธนากิจอำนวย เพื่อแสดงว่าต้องการปักหลักต่อสู้เพื่อความยุติธรรมและศักดิ์ศรีของสตรีที่ถูกข่มเหงทางเพศ มากกว่าความสำเร็จทางการเมือง

แม้นว่าการถอนตัวทำไม่ได้ทางนิตินัย ตาม กม.เลือกตั้งท้องถิ่นมาตรา ๕๓ แถม กกต.เตือนให้ระวังอย่าสู้คดีข่มขืนมากจนทำให้คะแนนนิยมเพิ่มขึ้นอีก แอนจึงแถลงเพิ่มว่า แม้หลังการเลือกตั้งปรากฏได้รับคะแนนเสียงมากมายเพียงใด ก็จะยังคงไม่เข้าสู่การเมือง

“ผมรู้สึกภาคภูมิใจที่เธอเป็นส่วนหนึ่งของพรรครวมไทยยูไนเต็ด ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ต้องอยู่เหนือการเมือง” วรนัยน์เขียนเฟชบุ๊คถึงการถอนตัวทางพฤตินัยของแอน พร้อมทั้งกล่าวถึงประเด็น ‘Toxic Patriarchy ปิตาธิปไตยที่เป็นพิษ

คนรู้จักกัน เพื่อนกัน เพื่อนร่วมงานกัน พาร์ตเนอร์ธุรกิจกัน ญาติกัน ผู้ใหญ่ที่นับถือ แม้กระทั่งแฟนกันหรือแต่งงานกันแล้ว ถ้าคําตอบคือ ไม่แต่คุณยังดื้อดึงที่จะกระทำ มันคือการข่มขืน...ไม่ว่าเขาจะแต่งตัวอย่างไร แสดงท่าทีแบบไหน” คำว่า ไม่ก็คือ ไม่

การเสพหนังหรือละครที่พระเอกข่มขืนนางเอก แล้วนางเอกหลงรักพระเอกภายหลัง คือการสร้างสันดานของสังคมว่า Date Rape เป็นเรื่องทำได้” อีกทั้ง “วลีเด็ดที่สืบทอดกันมาตั้งแต่อดีต อย่างเช่น เด็กมันยั่วคือการสร้างสันดานของสังคม”

แน่นอน มันไม่ได้มีเฉพาะภายในสังคมของพรรคประชาธิปัตย์ ดังแช้ทไลน์กลุ่ม ส.ส.ระบุ เพียงแต่ ปชป.พยายามปกปิดแล้วไม่มิด จึงเป็นตัวอย่างให้สังคมโดยรวมมุ่งหน้าแก้ไข ถ้าไม่เพียงหาทางหนีทีไล่เพื่อให้ปิดได้มิดชิด

(https://www.facebook.com/thestandardth/posts/3018225085137030, https://www.isranews.org/.../108122-isranews-1000-265.html และ https://hilight.kapook.com/view/222814EwWM)