วันอาทิตย์, มีนาคม 06, 2565

สถานทูตรัสเซียในกรุงเทพฯ นี่ทำตัวเหมือนมี ‘สิทธิสภาพนอกอาณาเขต’ เลยเชียวนะ

สถานทูตรัสเซียในกรุงเทพฯ นี่ทำตัวเหมือนมี สิทธิสภาพนอกอาณาเขต เลยเชียวนะ ไม่รู้ใครแอบไปยัดเยียดให้ คงสาวไปถึงใครไม่ได้ ไม่ทั้ง ดอน ปรมัตถ์วินัย หรือ ไตรรงค์ สุวรรณคีรี แม้กระทั่ง ททบ.๕ ที่จะแจ้งกว่าใคร

วันนี้มีข่าวว่า กมธ.พัฒนาการเมือง สภาผู้แทนฯ “เตรียมเรียกผู้บริหาร ททบ.๕ ชี้แจง กรณีรายการ กนก –ธีระ แพร่เฟคนิวส์ ทำประชาชนสับสน สร้างความเกลียดชัง หวั่นกระทบความสัมพันธ์ไทย-ยูเครน” จากการที่รายการ 'เล่าข่าวข้น' บิดเบือนความจริง

กนก รัตน์วงศ์สกุล และ ธีระ ธัญไพบูลย์ นำคลิปที่ร่วมกันปดว่าเป็นการ “จัดฉากศพผู้เสียชีวิตจำนวนหลายร้อยรายในสงครามยูเครน จากการรุกรานจากกองทัพรัสเซีย” มาออกอากาศเมื่อวันที่ ๒๘ กุมภา ทั้งๆ ที่เป็นเหตุการณ์คนละเรื่องกันอย่างสิ้นเชิง

โดยการตรวจสอบพบว่านั่นเป็น “คลิป ‘Demo gegen Klimapolitik’ หรือการแสดงเชิงสัญลักษณ์ของนักกิจกรรมในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อ ๔ ก.พ. ๒๕๖๕ เพื่อเรียกร้องให้ประชาชนทั่วโลกให้ความสนใจกับวิกฤตสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลง หรือ climate change

งานนี้ ธีรนัย จารุวัสตร์ กรรมการสมาคมนักข่าวเป็นผู้เปิดประเด็น แล้ว ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.เขตบางขุนเทียน ซึ่งเป็นประธานกรรมาธิการ จึงได้เปิดการสอบสวน โดยเรียก พล.ท.รังษี กิติญาณทรัพย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ช่อง ททบ.๕ มาชี้แจง

ณัฐชาแจ้งว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องร้ายเเรง “โดยเฉพาะการเป็นสื่อที่อยู่ในสังกัดภาครัฐ แต่กลับเสนอข่าวบิดเบือนความจริงและละเมิดจริยธรรมสื่อเสียเอง แต่ถึงตอนนี้กลับยังไม่เห็นการแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด” เกรงจะกระทบถึงร่าง พรบ.ที่กำลังจะเข้าสภา

ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อ ควรที่จะ “เป็นไปเพื่อส่งเสริมและกำกับดูแลจริยธรรมสื่อมวลชน แต่ในทางปฏิบัติ อาจจะกลายเป็นเครื่องมือเอาผิดเฉพาะสื่อที่อยู่ตรงข้ามรัฐแต่ฝ่ายเดียว” หากปล่อยกนกและธีระแพร่ข่าวปลอมตามอำเภอใจ

และที่น่าห่วงยิ่งกว่า ในบรรยากาศที่ประเทศรัสเซียกระทำการก้าวร้าวรุกรานยูเครน เป็นที่ตำหนิและถูกประณามทั่วโลก กลับมาแสดงอำนาจบาตรใหญ่ในประเทศไทย ชวนให้คิดไปในทางไม่ดี ว่ามีใครที่มีอำนาจในประเทศให้ท้ายหรือไม่

สถานทูตรัสเซียออกแถลงการณ์ในภาษาไทย (มีอังกฤษกำกับตอนท้าย) ถึงการที่ประธานาธิบดียูเครนวิงวอนให้ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการรุกรานของ สงครามปูติน อาสาสมัครไปร่วมรบเคียงไหล่กับชาวยูเครนต้านทานการยึดครอง

แถลงของสถานทูตรัสเซียระบุว่า “เรื่องนี้กระทรวงกลาโหมรัสเซียได้เตือนไว้ว่า ภายใต้กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ทหารรับจ้างชาวต่างชาติไม่ได้จัดให้เป็นทหาร และไม่มีสิทธิ์ได้รับสถานะเชลยศึก พวกเขาจะต้องเผชิญกับการดำเนินคดีตามมา”

แถลงการณ์ของ สถานทูตรัสเซียประจำประเทศไทยที่ออกตามมาอีกฉบับบอกว่า “ได้รับจดหมายจากผู้ที่ให้ความสนใจต่อเหตุการณ์ในยูเครน โดยได้แสดงการให้การสนับสนุนต่อรัสเซีย จดหมายนั้นมาจากทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่มาอยู่ที่ประเทศไทย

บางคนได้ประกาศความพร้อมในการลงทะเบียนเข้าร่วมกองทัพรัสเซีย” เสียด้วย ถึงอย่างนั้นถ้อยแถลงอ้างว่ากฎหมายของรัสเซียไม่ได้เปิดให้คนต่างชาติที่อาศัยในรัสเซียกระทำอย่างนั้นได้ “อย่างไรก็ตาม เรารู้สึกขอบคุณทุกคนสำหรับความเห็นอกเห็นใจ”

แต่กฎหมายของรัสเซียก็ไม่สามารถนำไปใช้ในประเทศอื่นได้ นี่เป็นสาเหตุให้รัสเซียทำการรุกรานทางทหารต่อยูเครน เพื่อจะเปลี่ยนแปลงผู้บริหารประเทศนั้น ให้ศิโรราบยอมรับอำนาจเหนือของรัสเซีย กระนั้นหรือ ซึ่งไม่ใช่อย่างแน่นอน

ในวันนี้เองรายงานข่าวจาก ฟอร์บส์เผยว่าชาวต่างชาติอาสาสมัครร่วมรบกับชาวยูเครนได้เดินทางถึงบริเวณเขตแดนในโปแลนด์แล้ว เตรียมข้ามแดนเข้าสู่ยูเครน ในประเทศไทยเห็นมีผู้สนใจร่วมรบต้านรัสเซียพากันไปสมัครที่สถานทูตยูเครนแล้วเช่นกัน

ขณะที่ผู้ลี้ภัยออกจากยูเครนขณะนี้ถึง ๑.๕ ล้านคน จากผลการระดมยิงขีปณาวุธใส่ตึกรามและสถานที่หัวใจระบบโทรคมนาคมเสียหายไปแล้วหลายแห่ง และหลังจากที่ยึดโรงงานผลิตไฟฟ้าจากพลังงานปรมาณูใหญ่ที่สุด ปูติน ก็ยังไม่วายขู่ฟอดๆ

ซ้ำยังว่าชาติใดที่ประณามการกระทำของรัสเซีย จะถูกถือว่าเป็นศัตรูคู่สงครามกับรัสเซียด้วย โดยเฉพาะชาติใดที่ทำการแซงชั่น หรือปิดกั้นทางเศรษฐกิจและการเงินต่อรัสเซีย เท่ากับเป็นการประกาศสงคราม นี่เป็นอาการของ หมาบ้า กัดดะไปทั่ว

แม้ประเทศในยุโรปตะวันตกจะพยายามระมัดระวัง ไม่แสดงอาการซึ่งจะทำให้ปูตินระห่ำขึ้นไปยิ่งกว่านี้ ด้วยการแถลงว่าจะไม่มีการประกาศปิดน่านฟ้า ‘No fly zone’ ห้ามบินผ่านดังที่ประธานาธิบดี วโลดิเมียร์ ซาเล็นสกี้ร้องขอ แต่ประเทศในยุโรปตะวันออกกลับแข็งขันเข้าช่วยยูเครน

โปแลนด์ไม่เพียงเป็นด่านเปิดส่งกำลังรบและอาวุธเข้าไปร่วมรบกับยูเครน ล่าสุดได้ส่งเครื่องบินขับไล่ มิก-๒๙ เข้าไปให้กองทัพยูเครนใช้ต่อกรกับรัสเซีย โดยมีสหรัฐคอยให้ความช่วยเหลือ มีข่าวว่าวันนี้อาจส่ง เอฟ-๑๖ ไปให้โปแลนด์ใช้เสริมกำลัง

การประกาศถอนธุรกรรมต่อรัสเซียโดยสองยักษ์ใหญ่บัตรเครดิต วีซ่าและมาสเตอร์คาร์ด จะเป็นอีกแรงโหมตีกระดองหลังของรัสเซียปูตินอย่างเห็นผลต่อธุรกิจและชีวิตความเป็นอยู่ในรัสเซีย ทำให้บรรดาเศรษฐีรัสเซียพากันโยกย้ายไปอยู่ดูไบกันคลั่ก

(https://forbes.com/sites/forbesstaffreports/2022/03/05/live-ukraine-russia/, https://www.facebook.com/VoiceOnlineTH/posts/10162663148269848 และ https://www.facebook.com/367490830102115/posts/1918022515048931/)