บรรยากาศการเมืองในฟาก ‘ฝ่ายค้าน’ ช่วงนี้เชี่ยวคลั่ก มันชักจะชุลมุนชุลเกเสียจนคล้ายนิยาย ‘Animal Farm’ ของ จ๊อร์จ ออร์เวลล์ น่าจะเป็นเพราะพวกที่ฟัดกันอยู่นี้มีความรู้สึกปลอดโปร่ง เมื่อฝั่งที่ครองอำนาจก็เกิดการปั่นป่วนด้วยเช่นกัน
เป็นไปได้ว่าการออกคลิปเที่ยวสวิทเซอร์แลนด์ของ ธรรมนัส พรหมเผ่า มีเป้าหมายล้ม ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างที่ Thanapol Eawsakul ว่า คำพูดของเสี่ยแป้งชัดแจ้ง ที่ว่าเขาเชื่อประเทศไทยมีศักยภาพไม่ด้อยกว่าสวิทเซอร์แลนด์
“หากเรามีผู้นำที่มีความพร้อม และมีวิสัยทัศน์ดี” เข้าทำนองเดียวกับข้อโจมตีของฝ่ายต้านการสืบทอดอำนาจต่อเครือข่ายของนักรัฐประหาร ทว่าในเชิงการเมืองในฟากของตน ประยุทธ์ก็ไล่ทันเหมือนกัน การตั้งพรรค ‘รวมไทยสร้างชาติ’ คือผลงาน
หากพิจารณาเฉพาะแหล่งข่าว @WassanaNanuam หนึ่ง “แรมโบ้น้อยใจถูกด้อยค่า โปรไฟล์ไม่ดี รูปร่างหน้าตาไม่หล่อ พ้อ...ให้มองที่สมอง ที่ความคิด วางหมากเกมการเมืองช่วย ‘บิ๊กตู่’ จนมี ‘พรรครวมไทยสร้างชาติ’ (แต่ก็)”
เตรียมถอย ให้คนโปรไฟล์ดี เข้ามาคุมพรรค มีค.นี้” ขณะที่ทางด้านธรรมนัสก็มีการเคลื่อนไหว น่าสนใจในประเด็นที่ ‘Deep Blue Sea’ ระบุ “ธรรมนัสจะเปลี่ยนชื่อพรรคเศรษฐกิจไทยเป็นพรรค ‘รวมใจ ไทยชนะ’...เตรียมประชุมกันพฤหัสฯ นี้”
ทางด้านฝ่ายค้านซึ่งจิกกันมาพักใหญ่แล้วระหว่างพี่ใหญ่กับน้องเฮี้ยว เกิดคุระอุขึ้นมาอีกเมื่อ ถวิล ไพรสณฑ์ ประกาศย้ายจาก ปชป.ไปเข้าก้าวไกล โดยมี ปิยบุตร แสงกนกกุล มายืนรอรับที่ประตู บอกว่าให้ไปช่วยกันสานฝันนโยบายกระจายอำนาจ
กระแสต้านบังเกิดทันที ไม่ใช่จากฝ่ายร่วมรัฐบาลแต่จาก ‘ติ่ง’ พี่ใหญ่ พากันเย้ยหยัน กิ๋วกิ๋ว หน้าไม่อาย เอาพวก กปปส.มาร่วมทีม อย่างนี้รับไม่ได้ สไตล์ ‘มิตรของศัตรูคือศัตรู’ ประมาณนั้น ลุงถวิลวัย ๘๔ ก็ดันไปให้สัมภาษณ์สื่อว่าไม่เคยเป่านกหวีด ไม่ใช่ กปปส.
อันนี้ติ่งเพื่อไทยหลายคนไม่เคยคิดว่า พวกที่เป็น พธม. และ กปปส. (หรือ ‘เสื้อเหลือง’ โดยรวม) มีไม่น้อยเพราะ ‘เกลียดแม้ว’ อาจเป็นนักกิจกรรม นักวิชาการ ที่ยอมสมาทานอุดมการณ์ไปเป็น ‘นั่งร้าน’ ให้ทหารหิวอำนาจเข้ามายึดครอง
หลายคนเวลานี้ (หลังจาก ๘ ปีเนี่ยละ) เกิดดวงตาเห็นธรรมว่าไปดึงเอาเหลือบและกระสือเข้ามาไล่ ‘หนู’ ตัวหนึ่งด้วยการเผาบ้าน (อันนี้ว่าตามที่เจ้าตัวเขาเคยอ้างน่ะนะ) บางคนทำกิจกรรมไล่กระสืออย่างมีนัยยะสำคัญ ปริญญา เทวานฤมิตรกุล กับ บรรจง นะแส เป็นตัวอย่าง
ไม่พ้น Atukkit Sawangsuk เคาะโป๊กโป๊ก “ถ้าจะให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต้องดึงคนพลิกข้าง โดยไม่จำเป็นต้องเดินสามก้าวโขกหัวหนึ่งครั้ง "ขอโทษประชาชน" เสียทุกคนไป มันขึ้นกับว่า คนคนนั้นเคยมีการกระทำร้ายแรงแค่ไหน”
เขาว่า “มันคือการย้ายข้าง ไม่ใช่ ‘ดีล’ หรือเกี้ยเซียะอย่างที่เอาไปโจมตีกัน ดีล คือแลกเปลี่ยน เกี้ยเซียะ คือสมประโยชน์ การรับคนย้ายข้างเข้าพรรคไม่ได้เอาอะไรไปแลก ไม่ได้เอาประชาธิปไตยหรือประโยชน์ประชาชนไปต่อรอง”
มีอีก เขาเตือนติ่ง “แล้วก็ไม่ได้กลายเป็นพรรคสลิ่ม ตราบใดที่จุดยืนแนวทางของพรรคไม่เปลี่ยน ซึ่งเปลี่ยนไม่ได้หรอก เพราะจุดยืนแนวทางอยู่ที่ประชาชนผู้สนับสนุน เปลี่ยนเมื่อไหร่ คนก็ร้องยี้ หันไปสนับสนุนให้ครูใหญ่ตั้งพรรคก้าวล่วงแทน”
ไม่เท่านั้น เกิด สศจ.คายถั่ว ‘spilled the beans’ ซะอีก เรื่องที่ว่าปลายปี ๕๗ เมื่อเขาไปถึงปารีสใหม่ๆ ได้คุยกับ แอนดรูว์ แม็คเกรเกอร มาร์แชล และคุณ (อะไรบอกชื่อไม่ได้) อีกคน เกี่ยวกับจำนวนคนตายในฝ่าย กปปส.ปีนั้นก็ไม่น้อยเหมือนกัน
แถมยังเกิดจากน้ำมือเสื้อแดงเสียด้วย แอนดรูว์บอกว่าคงมีหละ “อย่างมาก ๕% เท่านั้น” สศจ.เถียง “ไม่น่าจะใช่นะ ต้องอย่างต่ำๆ ๕๐-๖๐%” แล้วคุณ...“ที่นั่งสนทนาอยู่ด้วยบอกว่า ไม่ใช่หรอก ๙๙% มากกว่า” แล้วคุณ...ยังเล่าต่ออีก
“ตอนแรก...ก็ไม่อนุญาตให้ใช้ความรุนแรง แต่พอเหตุการณ์ตึงเครียดขึ้น ก็เอาด้วย” สศจ.เพิ่มเนื้อถั่วอีกหน่อย ว่าแอนดรูว์ไปหาทางติดต่อแหล่งข่าวซึ่งเป็นเสื้อแดงหลบภัย ได้ความแล้วมาบอกว่าเรื่องที่ สศจ.พูดเป็นความจริง กำลังจะเขียนเปิดโปง สศจ.ห้ามไว้
นั่นละ ติ่งเพื่อไทยออกมาใส่ สศจ.กันระรัวเละ บ้างก็ให้เหตุผลน่าฟัง อย่าง สลักธรรม โตจิราการ ว่าถ้า กปปส.ที่เสียชีวิตในระหว่างการชุมนุมปี ๒๕๕๖ ถึง ๒๕๕๗ ถ้ามีหลักฐานว่าเป็นฝีมือ นปช. ฝีมือคนเสื้อแดงจริง ป่านนี้ คสช.และองคาพยพไม่ปล่อยไว้หรอก
“ต้องรีบจับกุม ลงโทษ และตีฆ้องร้องป่าว ให้รู้กันทั้งบ้านทั้งเมืองแล้วครับ” อืม ฟังขึ้น แต่ว่าสถานการณ์ตอนนั้น ขนาดทีม ‘ร่มเกล้า’ ยังโดนเอ็ม-๗๙ ลง จนกลายเป็น ‘martyr’ สำหรับฝ่าย คสช.ไปเลยล่ะ จะสรุปประเด็นนี้อย่างไร
เรื่องของเรื่อง ถ้าไม่ให้ ‘แสง’ กับติ่งมากเกินไป ก็อาจจะมีโอกาสไม่บานปลาย
(https://www.facebook.com/baitongpost/posts/4945748172173639, https://www.facebook.com/ThamanatPhayao/videos/315862280521097/?extid=CL-UNK-UNK-UNK-AN_GK0T-GK1C และ https://facebook.com/100001454030105/posts/4989090994482652/?d=n)