อัตราผู้ติดเชื้อเพิ่มวันนี้ ปาเข้าไป ๗,๕๒๖ ราย กระโดดจากเมื่อวาน ๕,๗๗๕ ราย อย่างน่าใจหาย คนตายก็เริ่มเพิ่มใหม่เป็นเกือบ ๒๐ แล้ววันนี้ นี่ไม่ใช่โชคชะตาประชากร หรือพระสยามเทวาธิราชเลินเล่อ แต่เป็นความงี่เง่าของรัฐบาลโดยแท้
ผลมาจากการฉลองปีใหม่นั่นละ แน่นอนว่าที่ไหนๆ ในโลกก็เจอปัญหาเดียวกัน จะบังคับให้ต้องล็อคดาวน์ เจ่าอยู่กับบ้านกันอีกปี หลังทนทุกข์กันมาสองปีก็กระไรอยู่ อันนี้พอเข้าใจได้ ในอเมริกาเขาก็คาดกันแล้วว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มมากแน่ๆ
แต่การเตรียมแก้ไขให้พอจับได้ไล่ทันเชื้อร้าย ไหนจะระดมให้ฉีดวัคซีนและตรวจหาเชื้ออย่างได้ผล ตัวอย่างในนครลอส แองเจลีส จำนวนติดพุ่งกระฉูดเหมือนกัน แต่จำนวนตายเฉื่อย ไม่มีปัญหาเตียงโรงพยาบาลไม่พอ เพราะติดแล้วรักษาเองได้
จำนวนคนตายส่วนใหญ่เป็นพวกไม่ยอมฉีด ต่อต้านวัคซีน อยากจะบอกว่าสมน้ำหน้าก็กล้าๆ กลัวๆ มีนักการเมืองหญิงคนหนึ่งเป็นถึงรองอัยการใหญ่ ตายเพราะเป็นนักต่อต้านวัคซีน ไม่ยอมฉีด คนที่ใส่ใจคอยตรวจเช็คและฉีดบู๊สเตอร์ ก็ไม่ค่อยตาย
วานนี้ผู้เขียนออกจากบ้านไปหาซื้อของชำจำเป็น เห็นบนเส้นทางถนนใหญ่ระยะเพียงสองสามไมล์ มีจุดตรวจโควิดแบบพีซีอาร์ ฟรี ๓ แห่ง ตั้งเต๊นบนทางเท้าข้างถนน ติดป้ายว่ารู้ผลใน ๒๔ ชั่วโมง คนยืนเข้าแถวรอตรวจกันยาวเหยียดทั้งสามจุด
ไม่เพียงแสดงว่าประชาชนใส่ใจเข้าสู่ระบบป้องกันร่วม แต่แจ้งชัดว่าทางการทำหน้าที่ได้ดีดั่งควร กระจายชุดตรวจออกไปถึงระดับข้างถนน ให้หน่วยงานย่อยระดับชาวบ้าน นำออกมาบริการประชาชนได้อย่างถึงตัว
ตัวอย่างทวี้ตของ Dr.K WeOberon @vaccinated_DK “จะสั่งปิดร้านอาหารกึ่งผับบาร์ต้นตอการระบาด (?) อีกแล้ว ตอนแรกเชื้อมันมาจากไหนถ้าไม่ใช่รัฐบาล Import เข้ามา WHO ก็เตือนแล้วว่าให้ระวังการระบาดช่วงปีใหม่ ก็ไม่ปิด ปล่อยให้ห้างจัดงาน Countdown
พอเคสเพิ่มก็มาหาแพะปิดกิจการเค้าอีก คลัสเตอร์แรกมาจากการปฏิบัติธรรมคุณพี่ไม่ปิดวัดบ้างอ่ะคะ คือถ้าไม่ปิดเมืองปิดงานตอนปีใหม่ก็ต้องยอมรับแรงกระแทกว่ามันจะระบาดอยู่แล้ว ถ้ามั่นว่ามันกระจอกก็เตรียมระบบสาธารณสุขรับมือไปสิ”
noname @noname_8 รายนี้มาต่อยอด “ถ้าจะใช้คำว่า ‘ร้านอาหารกึ่งผับ’ ต้นตอการระบาด ก้อผิดแล้วล่ะฮะ เพราะเขาไม่ใช่ต้นตอ แต่อาจเป็น ‘ฮับการระบาด’ ก็ได้ จากลักษณะธุรกิจที่ทำ” Flowers @TrueDemocracy14 ถึงได้ว่า
“ไอเดียก็มาจากรัฐ (เอง) บอกให้ผับบาร์เปลี่ยนเป็นร้านอาหาร” มันจึงไปลงตรงที่ ดร.เคบอก “มาตรการเหมือนไม้หลักปักขี้เลน ไม่มีสมอง โลเล จะเอายังไงก็ไม่รู้...พอหมดปีใหม่...คนติดเชื้อเพิ่มแล้ว...ด่าประชาชนก่อนแล้วกัน ว่ามึงไม่ระวังตัว”
วันนี้ออกมาตรการขนานใหญ่ ยกระดับปรับพื้นที่เสี่ยงเป็นสีส้มเกือบทั้งประเทศ ๖๙ จังหวัด “คงส่วนพื้นที่สีฟ้า ๘ จังหวัดดื่มแอลกอฮอล์ได้ถึง ๓ ทุ่ม ขยาย WFH (ทำงานที่บ้าน) ต่ออีก ๑๔ วัน ไม่สั่งปิดสถานศึกษา” มะงุมมะงาหรากันต่อไป
มีคนถามว่า เดี๋ยวก่อน แล้วไอ้มาตรการที่ควรต้องทำเหมือนอย่างประเทศเจริญแล้วที่ไม่ใช่พ่อง ระดมฉีดวัคซีนเข็มบู๊สเตอร์ล่ะ ทำไหม แค่ไหน ปรากฏหลักฐานเมื่อวันที่ ๔ มกรา การฉีดวัคซีนเข็มที่สามขึ้นไป ได้ไม่ถึง ๑๐%
แม้ว่าฉีดเข็มสองได้แล้ว ๖๔% ก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก ในเมื่อเชื้อกลายพันธุ์ใหม่นี่ต้องมีเข็มสาม ถึงจะพอเอาอยู่