วันอังคาร, ตุลาคม 27, 2563

ชาวบ้านที่ดูแต่ทีวี อ่านแต่หนังสือพิมพ์ ตามข่าวแค่สื่อกระแสหลัก คงงงงวยว่าม็อบไปสถานทูตเยอรมันทำไม แต่ถ้าคิดนิดเดียวก็น่าจะรู้นะ

iLaw

ผู้ชุมนุม ราษฎร เดินเท้าไปสถานทูตเยอรมนี ย้ำจุดยืน ประยุทธ์ออกไป! แก้รัฐธรรมนูญและปฏิรูปสถาบันฯ

ตามที่กลุ่มราษฎรนัดชุมนุมเดินเท้าจากแยกสามย่านไปสถานทูตเยอรมนีในวันนี้เวลา 17.00 น. ปรากฎว่าตั้งแต่เวลา 15.00 น. เริ่มมีผู้ประสงค์ร่วมการชุมนุมส่วนหนึ่งเดินทางมาถึงที่สามย่านมิตรทาวน์แล้ว ขณะที่หน้าสถานทูตก็ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาการณ์ต่อเนื่องมาจากช่วงบ่ายที่ "กลุ่มประชาชนคนไทย" นำโดย "ทนายนกเขา" นิติธร ล้ำเหลือ มายื่นหนังสือกับทางสถานทูต

ประมาณ 15.50 น. มีรายงานว่ามีรถกระบะของเจ้าหน้าที่ขนรั้วลวดหนามและแผงเหล็กเข้ามาที่หน้าสถานทูตเยอรมนีอย่างไรก็ตามผู้สังเกตการณ์ไม่พบว่า รั้วลดหนามดังกล่าวถูกนำมาใช้ในพื้นที่การชุมนุมแต่อย่างใด ส่วนที่หน้าห้างสรรพสินค้าสามย่านมิตรทาวน์ซึ่งเปิดให้บริการตามปรกติก็มีประชาชนทยอยมารอร่วมการชุมนุม โดยในเวลาประมาณ 16.20 น. ที่หน้าห้างน่าจะมีประชาชนมารวมตัวแล้วประมาณ 350 คน เป็นอย่างน้อยแต่ก็ไม่มีการตั้งขบวน ระหว่างนั้นมีชายคนหนึ่งที่อาจเป็นเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบเข้ามาถ่ายภาพผู้ชุมนุมคนหนึ่ง มีเสียงคนร้องโต้ตอบด้วยความไม่พอใจทำนองว่า ถ่ายทำไมจากนั้นชายคนดังกล่าวก็เดินหนีไป

เวลาประมาณ 16.40 ผู้จัดชุมนุมเริ่มใช้เครื่องเสียงเรียกผู้ชุมนุมลงถนนพญาไทเพื่อเริ่มตั้งขบวน การส่งสัญญาณระหว่างการเดินในวันนี้ทางผู้จัดจะใช้ทั้งสัญญาณมือและป้ายไวนิลขนาดใหญ่เขียนข้อความให้สัญญาณต่างๆ เช่น หยุด หรือ เดินต่อ การ์ดของผู้ชุมนุมบางส่วนแจกจ่ายหมวกกันน็อคที่มีคนนำมาบริจาค ขณะที่บางส่วนก็นำเทปกาวไปติดชื่อและสถาบันการศึกษาบนเครื่องแบบของนักเรียนที่มาร่วมชุมนุม

เวลาประมาณ 17.00 น. ระหว่างที่ผู้ชุมนุมตั้งขบวน มีเจ้าหน้าที่ประกาศด้วยลำโพงว่า การชุมนุมวันนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะไม่ได้มีการแจ้งการชุมนุมล่วงหน้า และได้นำประกาศเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ ลงนามโดยผู้กำกับการสน.ปทุมวันมามอบให้คณะผู้จัดการชุมนุมด้วย โดยหนังสือดังกล่าวระบุให้ยุติการชุมนุมภายในเวลา 17.30 น.

ผู้ชุมนุมเริ่มตั้งขบวนและเริ่มเดินเป็นระยะสั้นๆไปหยุดอยู่บนถนนพระรามสี่หน้าจามจุรีแสควร์จากนั้นก็หยุดขบวนและให้ทุกคนนั่งลง ผู้ชุมนุมยังจัดระเบียบขบวนโดยให้สื่อมวลชนอยู่ด้านนอกขบวน ถัดมาเป็นแนวผู้ชุมนุมชุดกรุยทางและการ์ดอาสาซึ่งจะสวมอุปกรณ์ป้องกันทั้งหมวกกันน็อค แว่นนิรภัยและถือร่ม จากนั้นจึงเป็นแนวการ์ดอีกแนวหนึ่ง ในส่วนของการจราจรขณะนั้นถนนพระรามสี่ตั้งแต่แยกสามย่านมุ่งหน้าแยกอังรีดูนังต์ถูกปิด แต่เส้นทางฝั่งตรงข้ามมุ่งหน้าหัวลำโพงยังเคลื่อนตัวปกติ ขณะที่บรรยากาศการดูแลการชุมนุมในภาพรวมก็ผ่อนคลายและไม่มีการเคลื่อนกำลังของฝั่งตำรวจในลักษณะมาประจันหน้าผู้ชุมนุม

เวลา 18.00 น. ผู้ชุมนุมยืนร้องเพลงชาติชูสามนิ้วร่วมกันจากนั้นก็เริ่มเดินเท้ามุ่งหน้าไปยังสถานทูต การเดินเท้าใช้เวลาประมาณ 40 นาทีหัวขบวนก็มีถึงที่หน้าสถานทูตเยอรมนี ถ.สาทร ขณะที่เวลาประมาณ 18.30 น. ถนนพญาไทจากแยกปทุมวันมุ่งหน้าสามย่านและฝั่งตรงข้ามสามารถเปิดการจราจรตามปกติ ระหว่างที่ผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนไม่มีการสกัดกั้นโดยเจ้าหน้าที่ มีประชาชนตามข้างทางชูสามนิ้วให้ บางคนลงมาร่วมเดินเป็นระยะ โดยเมื่อขบวนเคลื่อนผ่านแยกศาลาแดงการ์ดของผู้ชุมนุมจะประกาศให้รถมอเตอร์ไซค์งดบีบแตรเพราะเป็นเขตโรงพยาบาล

ในเวลาประมาณ 19.00 น. ผู้ชุมนุมพยายามจัดขบวนให้เป็นระเบียบ มีพื้นที่สำหรับพ่อค้าแม่ค้าเร่ที่มาขายอาหาร และมีการตะโกนขอทางให้รถพยาบาลเป็นระยะ ผู้ชุมนุมใช้เวลาปรับขบวนจนกระทั่งเวลาประมาณ 19.50 น. จึงเริ่มอ่านแถลงการณ์ 2 ภาษา

แถลงการณ์ผู้ชุมนุมพอสรุปได้ว่า ตามที่ราษฎรมีข้อเรียกร้องสามประการ คือ พล.อ.ประยุทธ์และองคาพยพต้องลาออก ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนและปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ให้อยู่ใต้รัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง และได้ขอให้พล.อ.ประยุทธ์ลาออกภายใน 3 วัน บัดนี้ผ่านไป 4 วันแล้ว รัฐบาลเผด็จการไม่ฟังเสียงของราษฎร และจับกุมราษฎรที่พุดความจริงไปคุมขัง และมีการใช้กำลังเช่นฉีดกระสุนน้ำใส่การชุมนุมของราษฎร ในวันนี้ราษฎรจึงมาชุมนุมที่หน้าสถานทูตเยอรมนีเพื่อขอให้ทางการเยอรมนีตรวจสอบว่า มีการใช้พระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ไทยเหนือดินแดนเยอรมันหรือไม่ โดยข้อเรียกร้องดังกล่าวหวังเพียงให้สถาบันอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขภายใต้รัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง

"ครูใหญ่" กลุ่มขอนแก่นพอกันทีปราศรัยตอนหนึ่งว่า รัฐบาลประยุทธ์คือผู้ดึงสถาบันเข้ามาในการเมืองโดยขยายอำนาจให้กว้าง ไม่ใช่ประชาชน และไม่มีรัฐบาลประเทศใดที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่เมื่อพระมหากษัตริย์ไม่ประทับอยู่ในประเทศแล้วไม่มีการตั้งผู้สำเร็๋จราชการแทนพระองค์

ขณะที่มายด์ ภัสราวลี อ่านจดหมายเปิดผนึกตอนหนึ่งว่า ขอเรียกร้องให้มีการตรวจสอบและเปิดเผยประวัติการเดินทางเพื่อให้ได้รู้ว่า มีการใช้อำนาจอธิปไตยในแผ่นดินเยอรมนีหรือไม่ เช่น การลงพระปรมาภิไธย พ.ร.บ.งบประประมาณ 2564 เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2563 เป็นต้น เนื่องจาก รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมันตอบกระทู้ในรัฐสภาเยอรมนีว่า หากปรากฏว่า มีการใช้อำนาจอธิปไตยของประมุขต่างประเทศในดินแดนของเยอรมนี จะคัดค้านอย่างถึงที่สุด

การปราศรัยดำเนินไปถึงเวลาประมาณ 21.00 น. มายด์ ภัสราวลีก็ประกาศยุติการชุมนุมก่อนที่ผู็ร่วมชุมนุมจะทยอยเดินทางกลับโดยไม่มีรายงานเหตุวุ่นวาย

เครดิตช่างภาพ Chana La / Sirachai Shin Arunrugstichai / Kan Sangtong / Napat Tar Wesshasartar






"มายด์" ขึ้นปราศรัย อำนาจอธิปไตย นอกราชจักรไทย ของกษัตริย์ไทย

Oct 26, 2020

น.ส.ภัสราวลี ได้ขึ้นเวทีปราศรัยที่ด้านหน้าสถานทูต โดยกล่วาว่า พวกเราในนามราษฎร ได้เดินทางมาถึงสถานทูตเยอรมันแล้ว เราได้ยื่นหนังสือ ยื่นข้อเรียกร้องถึงสถานทูตเยอรมัน มีทั้งภาษาไทย ภาษอังกฤษ และภาษาเยอรมัน ยื่นถึงมือท่านทูต ซึ่งท่านทูตบอกกับเราทั้ง 3 คนที่เข้าไปว่า ท่านจะส่งหนังสือนี้ให้ทางรัฐบาลเยอรมัน และสภาเยอรมันให้รับทราบ